Cotactic Media | วางแผนการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจทุกขนาด
click

รับทำ SEO

ปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้ “ติดหน้าแรก Google” เพิ่มจำนวน คนเข้าเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
AS SEEN ON

ประเภทธุรกิจที่ควรใช้บริการรับทำ SEO

หากธุรกิจของคุณต้องการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์และต้องการเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้มากขึ้น หรือเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จัก การทำ SEO ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ การทำงานได้ดีในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจต่อไปนี้ที่สามารถเข้ากับ การทำ SEO ได้เป็นอย่างดี

สินค้าอุปโภค บริโภค

SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของธุรกิจสินค้าอุปโภค บริโภคติดอันดับสูงในผลการค้นหา เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าออนไลน์

โรงแรมและที่พักต่าง ๆ

ช่วยให้โรงแรมและที่พักติดอันดับบน Google ทำให้นักท่องเที่ยวหรือลูกค้าสามารถค้นหาและจองห้องพักได้อย่างง่ายดายด้วยการทำ SEO

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การทำ SEO กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมาย โดยไม่ต้องเสียงบประมาณในการลงทุนทำโฆษณา

ร้านขายอุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์

ช่วยให้ผู้ใช้งานเจอร้านขายสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ในหน้าผลการค้นหาบน Google และ SEO ยังช่วยให้ลูกค้าเลือกร้านเพื่อใช้บริการได้สะดวกขึ้น

ร้านเสริมสวยและสปา

ช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านเสริมสวยและสปาติดอันดับบนหน้าผลการค้นหา ทำให้ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการดูแลความงาม สามารถค้นหาและเลือกร้านได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ร้านอาหาร

ช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านอาหารของคุณติดอันดับในหน้าผลการค้นหาของ Google ซึ่งเหมาะกับธุรกิจเล็ก ๆ และร้านค้าท้องถิ่น ทำให้ลูกค้าที่มองหาร้านอาหารในพื้นที่นั้น สามารถค้นหาและเข้ามาใช้บริการได้ง่ายขึ้นด้วย SEO

ธุรกิจการศึกษา

การทำ SEO กับธุรกิจการศึกษา ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย โดยลูกค้าสามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร การอบรม หรือบริการอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น

สถานพยาบาลและคลินิกทางการแพทย์

การทำ SEO ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสถานพยาบาล ให้ผู้ค้นหาพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของสถานพยาบาลในการดูแลและรักษาผู้ป่วย

ธุรกิจเกี่ยวกับรถ

ช่วยให้ลูกค้าที่กำลังมองหารถ หรือบริการที่เกี่ยวข้อง รู้จักแบรนด์ และเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ธุรกิจ จากการค้นหาบน Search Engine

ธุรกิจอื่นๆ

จริง ๆ แล้วทุกธุรกิจสามารถใช้บริการรับทำ SEO เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ส่อง 4 เหตุผลที่ “เจ้าของธุรกิจ” ควรเลือก COTACTIC เป็นบริษัทรับทำ SEO

1

ทำงานเหมือนเป็นทีม SEO ส่วนตัว

Cotactic เราทำงานเหมือนกับทีม Digital Marketing In – house ส่วนตัวของลูกค้า ที่มีการให้คำปรึกษาในการทำ SEO ทุกรูปแบบ ทั้งการทำ SEO แบบ On-page และ Off-page เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของการค้นหาบน Search Engine
2

เพิ่มจำนวน ORGANIC TRAFFIC อย่างมีคุณภาพ

Cotactic เรามีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ SEO ตั้งแต่การประเมินเว็บไซต์ การเลือก Keyword ที่มีคุณภาพ และดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า และบริการของคุณจาก Organic Traffic
3

ให้ความสำคัญกับ CONTENT ON PAGE และ OFF PAGE

เรายังดูแลในส่วนของการทำคอนเทนต์ ด้วยการเขียนบทความที่ถูกต้องตามหลัก SEO และสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจ มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย เพื่อช่วยดันคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google
4

รายงานผล SEO RANKING ตลอดแคมเปญ

แม้ว่าการทำ SEO กว่าจะเห็นผลต้องดูกันในระยะยาว แต่การจ้างทำ SEO โดยไม่มี Goal ที่ชัดเจนนั้น ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับเจ้าของธุรกิจได้เช่นกัน ดังนั้นบริการ SEO ของ COTACTIC จึงมี Goal ที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเริ่มทำ เพื่อให้ลูกค้าของเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลังทำ SEO

ประสบการณ์ร่วมงานกับธุรกิจชั้นนำ

ราคาบริการรับทำ SEO

SEO Popular Package

65,000 ฿/ month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

SEO Small Package

40,000฿/ month

ระยะเวลาสัญญา 1-3 เดือน

SEO Starter Package

50,000฿/ month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

SEO Advanced Package

120,000฿/ month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

การันตีรับทำ SEO
ติดหน้าแรกใน 6 เดือน
(54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
ติดหน้าแรกใน 6 เดือน
(18 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
ติดหน้าแรกใน 6 เดือน
(54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
คีย์เวิร์ดหลัก
2 กลุ่ม (สูงสุด 10 คีย์เวิร์ด)
1 กลุ่ม (สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด)
1 กลุ่ม (สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด)
2 กลุ่ม (สูงสุด 10 คีย์เวิร์ด)
ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด
(สำหรับเขียนบทความเพิ่ม Traffic)
54
18
54
Target Page Optimize
2 หน้า (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
1 หน้า (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
1 หน้า (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
2 หน้า (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
เขียนบทความ SEO เพิ่ม Traffic
18 บทความ (3 บทความ/เดือน)
6 บทความ (1 บทความ/เดือน)
18 บทความ (3 บทความ/เดือน)
ทำ Quality Backlink
6 Quality Backlinks
(1 backlink/เดือน)
6 Quality Backlinks
(1 backlink/เดือน)
วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง
XML Sitemap Submission
CRO Optimisation
ทำ SEO Site Audit
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ปรับ SEO Meta Heading
100 URLs
30 URLs
50 URLs
300 URLs
Internal Link Pillar
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ทั้งเว็บไซต์
ติดตั้ง Google Analytics
ติดตั้ง Google Tag Manager
ติดตั้ง Google Search Console
SEO Dashboard ดู Ranking แบบ Real Time
รายงานสรุปผล SEO ทาง Email ทุกเดือน
ประชุมสรุปผล SEO
ทางออนไลน์ 1 ชม. ทุกเดือน

SEO Popular Package

65,000฿ / month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

  • การันตีรับทำ SEO ติดหน้าแรกใน 6 เดือน (54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
  • คีย์เวิร์ดหลัก 2 กลุ่ม (สูงสุด 10 คีย์เวิร์ด)
  • 54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด
  • Target Page Optimize 2 หน้า
    (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
  • เขียนบทความ SEO เพิ่ม Traffic 18 บทความ
    (3 บทความ/เดือน)
  • 6 Quality Backlinks (1 backlink/เดือน)
  • วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง
  • XML Sitemap Submission
  • ทำ SEO Site Audit ทั้งเว็บไซต์
  • ปรับ SEO Meta Heading 100 URLs
  • Internal Link Pillar ทั้งเว็บไซต์
  • ติดตั้ง Google Analytics
  • ติดตั้ง Google Tag Manager
  • ติดตั้ง Google Search Console
  • SEO Dashboard ดู Ranking แบบ Real Time
  • รายงานสรุปผล SEO ทาง Email ทุกเดือน
  • ประชุมสรุปผล SEO ทางออนไลน์ 1 ชม. ทุกเดือน
ย่อรายละเอียด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

SEO Small Package

40,000 / month

ระยะเวลาสัญญา 1-3 เดือน

  • คีย์เวิร์ดหลัก 1 กลุ่ม (สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด)
  • Target Page Optimize 1 หน้า
    (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
  • ทำ SEO Site Audit ทั้งเว็บไซต์
  • ปรับ SEO Meta Heading 30 URLs
  • Internal Link Pillar ทั้งเว็บไซต์
  • ติดตั้ง Google Analytics
  • ติดตั้ง Google Tag Manager
  • ติดตั้ง Google Search Console
  • รายงานสรุปผล SEO ทาง Email ทุกเดือน
ย่อรายละเอียด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

SEO Starter Package

50,000 / month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

  • การันตีรับทำ SEO ติดหน้าแรกใน 6 เดือน
    (18 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
  • คีย์เวิร์ดหลัก 1 กลุ่ม (สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด)
  • 18 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด
    (สำหรับเขียนบทความเพิ่ม Traffic)
  • Target Page Optimize 1 หน้า
    (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
  • เขียนบทความ SEO เพิ่ม Traffic 6 บทความ
    (1 บทความ/เดือน)
  • XML Sitemap Submission
  • ทำ SEO Site Audit ทั้งเว็บไซต์
  • ปรับ SEO Meta Heading 50 URLs
  • Internal Link Pillar ทั้งเว็บไซต์
  • ติดตั้ง Google Analytics
  • ติดตั้ง Google Tag Manager
  • ติดตั้ง Google Search Console
  • รายงานสรุปผล SEO ทาง Email ทุกเดือน
  • ประชุมสรุปผล SEO ทางออนไลน์ 1 ชม. ทุกเดือน
ย่อรายละเอียด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

SEO Advanced Package

120,000 / month

ระยะเวลาสัญญา 6 เดือน

  • การันตีรับทำ SEO ติดหน้าแรกใน 6 เดือน
    (54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด)
  • คีย์เวิร์ดหลัก 2 กลุ่ม (สูงสุด 10 คีย์เวิร์ด)
  • 54 ซัปพอร์ตคีย์เวิร์ด
    (สำหรับเขียนบทความเพิ่ม Traffic)
  • Target Page Optimize 2 หน้า
    (สำหรับคีย์เวิร์ดหลัก)
  • เขียนบทความ SEO เพิ่ม Traffic 18 บทความ
  • 6 Quality Backlinks (1 backlink/เดือน)
  • วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง
  • XML Sitemap Submission
  • CRO Optimise
  • ทำ SEO Site Audit ทั้งเว็บไซต์
  • ปรับ SEO Meta Heading 300 URLs
  • Internal Link Pillar ทั้งเว็บไซต์
  • ติดตั้ง Google Analytics
  • ติดตั้ง Google Tag Manager
  • ติดตั้ง Google Search Console
  • SEO Dashboard ดู Ranking แบบ Real Time
  • รายงานสรุปผล SEO ทาง Email ทุกเดือน
  • ประชุมสรุปผล SEO ทางออนไลน์ 1 ชม. ทุกเดือน
ย่อรายละเอียด ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ของธุรกิจ ที่ไว้ใจให้ COTACTIC ดูแล

สร้างแบรนด์ให้อยู่เหนือการแข่งขันด้วยการทำ SEO สายขาว

การทำ SEO จะเน้นการปรับแต่งและพัฒนาเว็บไซต์ด้วยเทคนิค ต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Search Engine อย่างเช่น Google เมื่อติดอันดับแล้ว ย่อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้ เช่น

เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น

การทำ SEO ช่วยดึงลูกค้าใหม่มายังเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการ Research Keywords ที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แชร์เทคนิคเลือก Keyword สร้างคอนเทนต์คุณภาพให้เว็บไซต์

สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

แน่นอนว่าเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับต้นๆ บนเครื่องมือการค้นหา อย่าง Google จะได้รับความนิยมและความน่าเชื่อถือ จากผู้ค้นหามากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่อันดับต่ำ ๆ

ลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา

เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับสูง ๆ ในผลการค้นหา ผลของ SEO จะอยู่ค่อนข้างนาน* (ขึ้นอยู่กับ Search Vol. และปริมาณคู่แข่ง) โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนทำโฆษณาแม้แต่บาทเดียว!

เลือกบริการรับทำ SEO ดีกว่าอย่างไร?

ขั้นตอน การรับทำ SEO ของ COTACTIC

1

Keyword Research

การเลือก Keyword ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO ซึ่งเราจะวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ เพื่อเลือก Keyword ที่ตรงกับธุรกิจ และความต้องการ (Intent) ของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
2

Technical SEO Audit

ตรวจสอบและปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ตัวเว็บไซต์เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและตรงตามมาตรฐานของการทำ SEO ให้ได้มากที่สุด
3

On – Page SEO

On- Page SEO ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการทำงานที่สำคัญของการทำ SEO โดย Cotactic เราจะมุ่งเน้นไปที่การปรับแต่งภายในของตัวเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเขียนบทความที่ถูกต้องตามหลัก SEO
4

Off – Page SEO

การทำ Off- Page SEO หรือ การทำ Backlink นั้น จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวเว็บไซต์ โดยอาศัยการเชื่อมโยง Backlink มาจากเว็บไซต์อื่นที่มีคุณภาพมายังเว็บไซต์ของเรา
5

Report SEO

บริการรับทำ SEO ของ Cotactic เราจะใช้ “Data Studio” หรือที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Looker Studio” ในการวัดผล ซึ่งเราจะมีการ Report ผลลัพธ์ในทุก ๆ เดือน เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามความคืบหน้าและวัดประสิทธิภาพของตัวเว็บไซต์ได้ตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการรับทำ SEO กับเรา

บริการรับทำ SEO เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง ?

เหมาะกับทุกธุรกิจที่มีเว็บไซต์โฮมเพจเป็นของตัวเอง
เหมาะกับทุกธุรกิจที่ต้องการลูกค้าหรือต้องการให้มีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพิ่มมากขึ้น เพราะการทำ SEO คือการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาบน หน้าแรกของ Google
เหมาะกับทุกธุรกิจที่ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงสินค้า บริการ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เหมาะกับทุกธุรกิจที่ต้องการสร้างกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้แก่ทุกธุรกิจในระยะยาว

วิธีเลือกบริษัท รับทำSEO

เลือกบริษัท SEO AGENCY ที่เข้าใจการทำ SEO อย่างแท้จริง

เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา เรื่องเว็บไซต์ตกอันดับ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของ Search Engine ได้ดีกว่าบริษัทโฆษณาทั่ว ๆ ไป

เลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีผลงานและรีวิวจากลูกค้าที่ผ่านมา

เลือก SEO Agency ที่มีผลงานการทำ SEO มาก่อนมักจะมีความเชี่ยวชาญ และความรู้ทางเทคนิคมากกว่า ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าบริษัทจะสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้

วัดผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมตามกรอบระยะเวลา

เหนือสิ่งอื่นใด วิธีการทำงานที่กระชับ ฉับไว และวัดผลได้จริง คือคุณสมบัติที่สมควรพิจารณามากที่สุดในการเลือกบริษัทรับทำ SEO ที่มีคุณภาพ

อยากทำ SEO ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

ทำความเข้าใจ SEO และหลักการทำ SEO เบื้องต้น

เพื่อให้คุณมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ รวมถึงเข้าใจตัวเลข และสถิติต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การทำ SEO คืออะไร? ดีอย่างไรต่อเจ้าของธุรกิจในปัจจุบัน

กำหนดเป้าหมายการทำ SEO

เพื่อให้คุณและบริษัทรับทำ SEO มีการวางแผนงานที่ชัดเจน และติดตามผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น กลยุทธ์ SEO ของคุณจะเหมาะกับปี 2021 หรือไม่ ?

เลือกบริษัทรับทำ SEO มืออาชีพ

เพื่อให้คุณแน่ใจว่าบริษัทรับทำ SEO ที่คุณจะเลือกใช้บริการเป็นเจ้าที่มีความน่าเชื่อถือ และมีผลงานจับต้องได้ 7 วิธีเลือกบริษัท Digital Marketing Agency มาเป็นที่ปรึกษา

SEO vs SEM ต่างกันอย่างไร ?

งบประมาณ

SEOไม่ต้องเสียค่าโฆษณา แต่เน้นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ
SEMมีค่าใช้จ่ายเนื่องจากเป็นการซื้อพื้นที่โฆษณาบน Google

ระยะเวลา

SEOเห็นผลลัพธ์ช้ากว่า เนื่องจากต้องอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
SEMจะเห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่า เนื่องจากเป็นการซื้อ Keywords ที่คุณต้องการ

ความน่าเชื่อถือ

SEOมีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะเป็นการทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ ถึงจะได้อันดับที่ดีจาก Google
SEMแค่เสียเงินซื้อพื้นที่โฆษณา ก็สามารถอยู่ในอันดับแรก ๆ ของหน้าการค้นหา
POSITION FROM ‘NOT FOUND’
TO 1st POSITION

ทำไมต้องทำ SEO ให้กับเว็บไซต์

บริการรับทำ SEO ช่วยสร้างผลลัพธ์ ให้ตรงตามเป้าหมาย

การทำ SEO อย่างถูกวิธีจะช่วยดึง Leads หรือคนที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์ได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ

การทำ SEO ส่งผลดีในระยะยาวให้เว็บไซต์

การทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ โดยการปรับปรุงเว็บไซต์ให้สมบูรณ์พร้อมใช้งาน และยังสามารถแสดงผลบนหน้าการค้นหาได้ในระยะยาว

SEO ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณา

บริการรับทำ SEO ของเรา คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine ซึ่งอาศัยเทคนิคและระยะเวลาในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาบริการรับทำ SEO ของเรา คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine ซึ่งอาศัยเทคนิคและระยะเวลาในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณา

แบ่งปันความรู้ จากมุมมองของ seo

อาชีพ SEO Specialist อาชีพนี้มีหน้าที่ทำอะไรและต้องมีทักษะอะไรบ้าง

รู้หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่กว่า 70-80% จะเลือกคลิกเว็บไซต์ที่ติดอันดับต้น ๆ มากกว่าเว็บไซต์ที่เป็นโฆษณา เว็บไซต์ที่อยู่หน้า 2 มีคนคลิกเฉลี่ยอยู่ที่ 1% ดังนั้น ถ้าหากธุรกิจไหนต้องการจะทำ SEO ก็ล้วนอยากตั้งเป้าหมายให้ Keyword ของเราต้องเป็นหน้าแรกของ Google เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่คุ้มค่า ดังนั้น หนึ่งในคนสำคัญที่จะช่วยให้ Keyword …

Robots.txt คืออะไร มีวิธีการสร้างยังไง รวมถึงประโยชน์ของไฟล์นี้ และข้อควรระวังในการใช้

หัวใจของการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับไม่ใช่เพียงแค่เลือก Keyword แต่แท้ที่จริงแล้วคือการเข้าใจพื้นฐานโครงสร้างต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน โดยโครงสร้างต่าง ๆ ของการทำ SEO นั้น มีอยู่มากมายหลายเรื่องมาก ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ robots.txt อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้คุณทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   Robots.txt …

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายมากนัก ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และไม่สามารถทำให้เห็นผลลัพธ์ด้วยระยะเวลาอันสั้น โดยการทำ SEO ต้องเข้าใจวิธีการ และหลักการ การทำงานของเครื่องมือ เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุด ดังนั้นเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนี้อาจทำให้คุณต้องมองหา SEO Agency สักเจ้า ที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ …

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับทำ SEO

ใช้เวลาในการทำ SEO นานไหมกว่าจะติดอันดับ?

ต้องทำ SEO นานแค่ไหนเว็บไซต์ถึงจะติดอันดับ? คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะโดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาบน Google จะใช้เวลาราว ๆ 3-6 เดือน ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ ส่วนจะติดอันดับช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการทำงาน โดยทาง Cotactic จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างของตัวเว็บไซต์ เพื่อวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจคุณ เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด

ผลลัพธ์ของการทำ SEO อยู่นานแค่ไหน?

ถ้าอยากให้ผลลัพธ์ของการทำ SEO อยู่ได้นาน ปัจจัยสำคัญคือความเข้าใจและความสม่ำเสมอ เพราะถ้าตัวเว็บไซต์ไม่ได้ทำ SEO อย่างต่อเนื่อง หยุดทำไปนานหรือขาดช่วงไปเพียงไม่กี่เดือน มันก็อาจส่งผลโดยตรงต่ออันดับบนหน้าค้นหาและการเข้าถึงของกลุ่มผู้บริโภคได้ ฉะนั้นถ้าหากอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและคงทน ตัวเว็บไซต์ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเว็บต้องตกอันดับเมื่อเวลาผ่านไป

การทำ SEO สายขาวดีอย่างไร?

การทำ SEO สายขาว เป็นวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ และตรงตามความต้องการของ Search Engine และส่งผลให้ทาง Google มองเว็บไซต์ของเราว่าเป็นเว็บที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือและมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ช่วยให้เว็บไซต์ของตัวธุรกิจมีประสิทธิภาพ มีอันดับที่ดีและมั่นคง จนแทบไม่มีโอกาสโดนลงโทษหรือถูกลดอันดับจากทาง Google เลย

พาเจ้าของธุรกิจมารู้จักการทำ SEO สายขาว – สายเทา แตกต่างกันอย่างไร

การทำ SEO ต่างกับ SEM อย่างไร ?

SEO คือการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรกของ Google ผ่านการปรับแต่งโครงสร้างและออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของ Search Engine ส่วน SEM หรือ Search Engine Marketing คือการซื้อพื้นที่โฆษณาบน Google เพื่อให้ตัวเว็บไซต์ขึ้นไปแสดงอยู่บนหน้าแรกของการค้นหา ผ่านการประมูล Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือตัวธุรกิจ การทำ SEM จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าค้นหาทันที ไม่ต้องรอและใช้เวลานานเหมือนการทำ SEO แต่ SEM จำเป็นต้องจ่ายเงินอยู่ตลอด ไม่เหมือนกับการทำ SEO ที่ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้โดยธรรมชาติ

SEO กับ SEM เลือกกลยุทธ์อันไหน ถึงเรียกว่าดี!

สามารถทำ SEO ไปพร้อมกับทำ SEM ได้ไหม ?

สามารถทำได้ ตามจริงแล้วเราควรเลือกทำ SEO และ SEM ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากทั้งคู่มีเป้าหมายในการทำงานแบบเดียวกัน คือการดันเว็บไซต์ให้ขึ้นไปติดอันดับแรกบนหน้าค้นหาของ Google ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการใช้กลยุทธ์ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันจะช่วยอุดช่องโหว่ของกันและกันได้เป็นอย่างดี หากเลือกทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณอาจสูญเสียผลประโยชน์ที่อาจทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้

การทำ SEO สำคัญแค่ไหน ?

ในยุคปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้งาน Google ในการค้นหาข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องการกันมากขึ้น ซึ่งการทำ SEO นั้นจะช่วยเพิ่มยอด Traffic หรือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ให้สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและเข้าถึงธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อมีการค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริโภคก็จะเจอเว็บไซต์ของคุณบนหน้าค้นหาทันที ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการทำธุรกิจ เพราะยิ่งมีคนเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้นเท่านั้น

Voice Search คืออะไร ?

Voice Search คือฟีเจอร์การค้นหาด้วยเสียง โดยมีเนื้อหาที่ยาวแต่ได้ใจความ รูปประโยคจะดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ Search Engine วิเคราะห์และเข้าใจ Keyword ได้ง่ายขึ้น เป็นการดึงดูดให้ผู้ใช้งานเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพิ่มขึ้น

Google Algorithm Update ส่งผลต่อการทำ SEO อย่างไร ?

Google Algorithm คือ ระบบที่ Google ใช้พิจารณาว่าข้อมูลใดที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และควรแสดงในหน้าการค้นหาเป็นลำดับแรก ๆ หากต้องการให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกก็ต้องหมั่นอัปเดตคุณภาพเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ Keyword, การสร้าง Backlink, คุณภาพเนื้อหา และปัจจัยอื่น ๆ
 

Canonical Tag คืออะไร ?

Canonical Tag คือ Tag ที่เอาไว้ใส่ URL เพื่อบอกกับ Google Bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูลให้รู้ว่า URL ที่เราใส่ไว้คือหน้าหลักของเว็บไซต์ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนเทนต์ที่คล้ายกันปรากฏในหน้าการค้นหา การทำ Canonical Tag จึงช่วยให้ Google มองเว็บไซต์เราว่าเป็นเว็บที่น่าเชื่อถือ

Google Trends คืออะไร ?

Google Trends คือเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหา Keyword ต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน โดยนำปริมาณการค้นหา Keyword จากการค้นหาบนแหล่งออนไลน์ต่าง ๆ มาคำนวณแล้วแสดงผลเป็นกราฟที่อ่านง่าย เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงว่า Keyword ไหนที่กำลังได้รับความนิยมหรือถูกค้นหามากที่สุด

Google Sitelinks คืออะไร ?

Google Sitelinks คือ ลิงก์ย่อย ๆ ที่แสดงใต้ Meta Description ในหน้าการค้นหา ซึ่งจะแสดงก็ต่อเมื่อ Google วิเคราะห์แล้วว่าเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดย Sitelinks มักปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลด้วยชื่อแบรนด์หรือชื่อเว็บไซต์โดยตรง

Yoast SEO คืออะไร ?

Yoast SEO คือ ปลั๊กอินที่มีให้ใช้งานเฉพาะในโปรแกรม WordPress ทำหน้าที่ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถไต่อันดับสูงขึ้นได้บน Search Engine ด้วยการช่วย Optimize SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ทั้งในส่วนของ Keyword, Meta Description, รูปภาพ, Internal Links, External Links พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขให้ทันที

Google Analytics คืออะไร ?

Google Analytics คือ เครื่องมือที่ใช้วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดย Google จะทำการวิเคราะห์และเก็บสถิติข้อมูลเชิงลึกของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์รับรู้ข้อมูลด้านต่าง ๆ และสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของตนเอง

Core Web Vitals คืออะไร ?

Core Web Vitals คือ หนึ่งในเกณฑ์การจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าค้นหา โดย Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานมาก และได้นำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินการติดอันดับบน Search Engine เว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุดจึงมีโอกาสติดหน้าแรกของการค้นหา

Anchor Text คืออะไร ?

Anchor Text คือ ข้อความหรือประโยคที่เราทำการฝังลิงก์เอาไว้ เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานให้ไปยังหน้าเพจหรือเว็บไซต์ที่เราต้องการ ซึ่งมันส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ในหน้าการค้นหา เพราะทำให้ตัว Google รู้เกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์ และยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Alt Text คืออะไร ?

Alternative Text หรือ Alt Text คือ คำอธิบายรูปภาพที่จะไม่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ปกติ แต่จะแทรกอยู่ใน HTML Code เพื่อให้ Google เข้าใจความหมายของรูปภาพที่เราอัปโหลด ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO ในหน้าการค้นหา

SEO YouTube คืออะไร ?

SEO Youtube คือเทคนิคการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อคลิป (Title), คำอธิบาย (Description) หรือปกวิดีโอ (Thumbnail) ให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มโอกาสให้คลิปวิดีโอติดอันดับการค้นหาบน Youtube และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงคอนเทนต์ของตัวธุรกิจได้อย่างง่ายดาย

404 not found คืออะไร ?

404 not found คือ หน้าเพจที่แสดงผลผิดพลาดจากการที่ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลแล้วไม่พบ URL หรือข้อมูลที่อยู่บน Server ของเว็บไซต์ จึงแสดงผลให้ผู้ใช้งานรู้ว่าหน้าเพจนี้ไม่มีอยู่ ลิงก์อาจเสียหรือหน้าเพจมีปัญหา โดยสาเหตุของการเกิด 404 not found เช่น เปลี่ยนชื่อ URL, เปลี่ยนโดเมนเว็บไซต์, โฮสติ้งมีปัญหา และอื่น ๆ

PBN คืออะไร ?

Private Blog Network หรือ PBN คือ เครือข่ายบล็อกส่วนตัวหรือก็คือเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำ Backlink (Off page) ให้กับเว็บไซต์หลักที่เราต้องการโดยเฉพาะ เพื่อให้ Google มองว่าเว็บไซต์หลักมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เป็นการผลักดันให้ตัวเว็บไซต์หลักขึ้นไปติดอันดับ SEO บน Search Engine ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Redirect 301 คืออะไร ?

Redirect 301 คือ การเปลี่ยนเส้นทางจาก URL เดิมที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว ไปยัง URL ใหม่ที่เราต้องการใช้แบบถาวร การทำ Redirect 301 จึงเป็นการบอกให้ Google รู้ว่า URL ใหม่ก็คือเว็บไซต์เดิมที่มีตัวตนและยังสามารถคงอันดับเดิมในหน้าค้นหาอีกด้วย

Rich Snippets คืออะไร ?

Rich Snippets เป็นฟีเจอร์การแสดงผลบนหน้า Google แบบพิเศษที่ไม่ได้มีเพียง Title และ Description แต่จะมี คำอธิบาย, ราคา หรือคะแนนรีวิวเพิ่มด้วย ซึ่งเป็นการดึงดูดสายตาผู้เข้าชม ทั้งยังกระตุ้นอัตราการคลิกผ่านเว็บไซต์ และหากมีเนื้อหาที่ให้คำตอบกับผู้ใช้งานได้ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO

Long Tail Keywords คืออะไร ?

Long Tail Keywords คือ คำหรือรูปประโยคที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง มักเป็นกลุ่มคำที่สามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน มีการระบุรุ่น ยี่ห้อ ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า หรือสถานที่ตั้งต่าง ๆ ไว้ เพื่อให้การค้นหาถูกบีบให้แคบและเจอกับสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Long Tail Keywords จะเป็น Keywords ที่ถูกใช้โดยผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าหรือบริการจริง ๆ หากเราทำให้ Keywords ประเภทนี้ติดอันดับได้ เราก็มีแนวโน้มที่จะขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น

Internal Link คืออะไร?

Internal Link คือลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังหน้าเพจอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานให้ไปยัง Content หรือหน้า Landing Page อื่นที่เราต้องการ ช่วยให้ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานขึ้น ซึ่ง Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

External Link คืออะไร

External Link คือ การวางลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ Google Bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูล เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอะไร ซึ่งมันจะทำให้ Search Engine มองเว็บไซต์ของเราว่ามีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และมีประโยชน์ เพราะเรามีการอ้างอิงเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกันนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์อีกด้วย

Site Structure คือ ?

Site Structure คือ โครงสร้างเว็บไซต์ที่คอยบอกว่าเว็บไซต์เรามีเนื้อหาหรือคอนเทนต์แบบใด และมีรูปแบบการเชื่อมโยงภายในอย่างไร ซึ่งถ้าเราทำ Site Structure ดี มันก็จะทำให้ Google Bot เข้ามาจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าเว็บไซต์มี Site Structure ที่ไม่ดี มันก็จะส่งผลเสียต่อการเก็บข้อมูลและเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับ SEO บนหน้าค้นหาของ Google

ไฟล์ WEBP คืออะไร ?

ไฟล์ WEBP คือ ไฟล์มาตรฐานที่ Google กำหนดขึ้นในช่วงปี 2010 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันสามารถรองรับการทำงานได้แทบทุกเบราว์เซอร์ และไฟล์ WEBP ยังได้รับความนิยมสูง เนื่องจากไฟล์ชนิดนี้จะช่วยให้ขนาดไฟล์เล็กลง แต่คงคุณภาพของรูปได้อย่างดีเยี่ยม โดยเล็กกว่า ไฟล์ jpeg กว่า 25-34% และเล็กกว่าไฟล์ png กว่า 22% โดยประมาณ

Schema Markup คืออะไร ?

Schema Markup คือ โค้ดชุดหนึ่งสำหรับเพิ่มเข้าไปในเว็บไซต์ มีหน้าที่ในการเพิ่มข้อมูลหรือเนื้อหาให้กับ Keywords เพื่อเป็นตัวช่วยให้ Google Bot เก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทำให้รู้ว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาหรือคีย์เวิร์ดเกี่ยวข้องกับอะไร ซึ่งจะส่งผลให้เว็บไซต์ที่ติดตั้ง Schema Markup มีโอกาสติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google มากขึ้น

Bounce Rate คืออะไร ?

Bounce Rate คือ อัตราการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งานที่คลิกเพียงหน้าเดียว จากนั้นก็กดปิดทันที โดยไม่มีการคลิกต่อหรือมีส่วนร่วมใด ๆ ค่านี้จึงเปรียบเสมือนตัวชี้วัดเนื้อหาและคุณภาพของตัวเว็บไซต์ ที่ทาง Google นำไปใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับบนหน้าค้นหา

YMYL คืออะไร ?

YMYL คือ อัลกอริทึมจากทาง Google ที่สร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่คัดกรองเนื้อหาเฉพาะด้าน เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการเงิน การลงทุน หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเองมากขึ้น ดังนั้น ทุกเว็บไซต์จึงจำเป็นต้องนำเสนอเนื้อหาหรือข้อมูลที่ถูกต้องให้กับผู้ใช้งาน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ (ทั้งนี้คำว่า YMYL ย่อมาจากคำว่า “Your Money Or Your Life” ซึ่งแปลว่า “เงินหรือชีวิต” นั่นเอง)

ChatGPT คืออะไร ?

ChatGPT คือ แชทบอทปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยบริษัทวิจัย OpenAI ย่อมาจากคำว่า “Chat” และ “Generative Pre-training Transformer” ตัวแชทบอทถูกออกแบบมาให้ตอบคำถามกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการทำงานด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

Plugin WordPress คืออะไร ?

Plugin WordPress คือ ส่วนขยายหรือโปรแกรมเสริมของซอฟต์แวร์บน WordPress ที่จะช่วยเพิ่มหรือขยายฟังก์ชันใหม่ ๆ ให้กับตัวเว็บไซต์ ทำให้นักพัฒนาสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย และช่วยประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้น

WordPress คืออะไร ?

WordPress คือ โปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้สร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ประเภท CMS ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL ถือเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซต์และปรับแต่งได้อย่างอิสระแม้จะไม่มีความรู้ เพราะมี Plugin และ Theme สำเร็จรูปต่าง ๆ ให้เราเลือกใช้

Link Building คืออะไร ?

Link Building คือ กลยุทธ์การเชื่อมโยงเว็บไซต์อื่น ๆ มายังเว็บไซต์ของเรา หรือที่เรียกว่า “Backlink” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือให้กับตัวเว็บไซต์ โดยมักจะเชื่อมโยงเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันเป็นหลัก

E-commerce คืออะไร ?

E-commerce คือ การซื้อ-ขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” เพราะเป็นธุรกรรมการเงินที่ต้องทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก โดยทั่วไป E-commerce สามารถปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer)

Landing Page คืออะไร ?

Landing Page คือหน้าเว็บไซต์หนึ่งหน้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง เช่น เพื่อนำเสนอสินค้าบริการ, เพื่อโฆษณาส่วนลดโปรโมชัน หรือเพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลรับข่าวสาร โดย Landing Page ในแต่ละเว็บไซต์ก็มีหน้าตาและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

LSI Keywords คืออะไร ?

LSI Keywords คือการใช้เทคนิคเลือกคำที่สอดคล้องกับ Main Keyword ที่เราต้องการจะโฟกัสหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา เพื่อให้ Google เข้าใจในคอนเทนต์ และบริบทที่เราต้องการจะสื่อมากขึ้น ซึ่งการทำ LSI Keywords ที่ดี จะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาเจอได้ง่าย และยังช่วยให้หน้าเว็บของเราถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ อีกด้วยถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่บริษัทรับทำ SEO ทั่วโลกต่างเลือกใช้

HTTP Status คืออะไร ?

HTTP Status คือ ชุดตัวเลขที่ประกอบเข้าด้วยกัน 3 ตัว มีไว้ตอบกลับจากเซิฟเวอร์เพื่อแจ้งปัญหาต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานทราบ ว่าปัญหาในการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์แล้วไม่ขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องแก้ไขอย่างไรถึงจะถูกต้อง

การทำ Disavow Links คืออะไร ?

การทำ Disavow Links เป็นการปฏิเสธลิงก์ที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพที่ส่งมายังตัวเว็บไซต์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการ Spam Backlink ที่อาจส่งผลให้ตัวเว็บโดนลงโทษได้ แม้ว่าตัวธุรกิจคุณจะไม่ได้ทำลิงก์เหล่านั้นขึ้นมาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลิงก์เหล่านั้นก็ตาม

Search Engine คืออะไร ?

Search Engine คือ โปรแกรมที่อำนวยความสะดวกเรื่องการหาข้อมูล เมื่อผู้ใช้งานพิมพ์คำ วลี หรือประโยค ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยากรู้ Search Engine ก็จะแสดงผลออกมาเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ ยังมีระบบรวบรวมสถิติการค้นหา และวิเคราะห์ว่าข้อมูลใดเป็นที่นิยม เพื่อจัดลำดับการแสดงผลให้ตรงกับความต้องการในครั้งถัดไป

ต้องทำ SEO นานแค่ไหนเว็บไซต์ถึงจะติดอันดับ? คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะโดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ SEO ให้ติดอันดับการค้นหาบน Google จะใช้เวลาราว ๆ 3-6 เดือน ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ ส่วนจะติดอันดับช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการทำงาน โดยทาง Cotactic จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างของตัวเว็บไซต์ เพื่อวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจคุณ เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพและสามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด

ถ้าอยากให้ผลลัพธ์ของการทำ SEO อยู่ได้นาน ปัจจัยสำคัญคือความเข้าใจและความสม่ำเสมอ เพราะถ้าตัวเว็บไซต์ไม่ได้ทำ SEO อย่างต่อเนื่อง หยุดทำไปนานหรือขาดช่วงไปเพียงไม่กี่เดือน มันก็อาจส่งผลโดยตรงต่ออันดับบนหน้าค้นหาและการเข้าถึงของกลุ่มผู้บริโภคได้ ฉะนั้นถ้าหากอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและคงทน ตัวเว็บไซต์ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเว็บต้องตกอันดับเมื่อเวลาผ่านไป

การทำ SEO สายขาว เป็นวิธีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ และตรงตามความต้องการของ Search Engine และส่งผลให้ทาง Google มองเว็บไซต์ของเราว่าเป็นเว็บที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือและมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด ช่วยให้เว็บไซต์ของตัวธุรกิจมีประสิทธิภาพ มีอันดับที่ดีและมั่นคง จนแทบไม่มีโอกาสโดนลงโทษหรือถูกลดอันดับจากทาง Google เลย

พาเจ้าของธุรกิจมารู้จักการทำ SEO สายขาว – สายเทา แตกต่างกันอย่างไร

SEO คือการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาบนหน้าแรกของ Google ผ่านการปรับแต่งโครงสร้างและออกแบบเนื้อหาให้สอดคล้องกับความต้องการของ Search Engine ส่วน SEM หรือ Search Engine Marketing คือการซื้อพื้นที่โฆษณาบน Google เพื่อให้ตัวเว็บไซต์ขึ้นไปแสดงอยู่บนหน้าแรกของการค้นหา ผ่านการประมูล Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือตัวธุรกิจ การทำ SEM จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าค้นหาทันที ไม่ต้องรอและใช้เวลานานเหมือนการทำ SEO แต่ SEM จำเป็นต้องจ่ายเงินอยู่ตลอด ไม่เหมือนกับการทำ SEO ที่ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้โดยธรรมชาติ

SEO กับ SEM เลือกกลยุทธ์อันไหน ถึงเรียกว่าดี!

สามารถทำได้ ตามจริงแล้วเราควรเลือกทำ SEO และ SEM ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากทั้งคู่มีเป้าหมายในการทำงานแบบเดียวกัน คือการดันเว็บไซต์ให้ขึ้นไปติดอันดับแรกบนหน้าค้นหาของ Google ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการใช้กลยุทธ์ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันจะช่วยอุดช่องโหว่ของกันและกันได้เป็นอย่างดี หากเลือกทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณอาจสูญเสียผลประโยชน์ที่อาจทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้

ในยุคปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้งาน Google ในการค้นหาข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องการกันมากขึ้น ซึ่งการทำ SEO นั้นจะช่วยเพิ่มยอด Traffic หรือจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ให้สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและเข้าถึงธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อมีการค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริโภคก็จะเจอเว็บไซต์ของคุณบนหน้าค้นหาทันที ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการทำธุรกิจ เพราะยิ่งมีคนเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้นเท่านั้น

Voice Search คือฟีเจอร์การค้นหาด้วยเสียง โดยมีเนื้อหาที่ยาวแต่ได้ใจความ รูปประโยคจะดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ Search Engine วิเคราะห์และเข้าใจ Keyword ได้ง่ายขึ้น เป็นการดึงดูดให้ผู้ใช้งานเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพิ่มขึ้น
Google Algorithm คือ ระบบที่ Google ใช้พิจารณาว่าข้อมูลใดที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และควรแสดงในหน้าการค้นหาเป็นลำดับแรก ๆ หากต้องการให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกก็ต้องหมั่นอัปเดตคุณภาพเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ Keyword, การสร้าง Backlink, คุณภาพเนื้อหา และปัจจัยอื่น ๆ
Canonical Tag คือ Tag ที่เอาไว้ใส่ URL เพื่อบอกกับ Google Bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูลให้รู้ว่า URL ที่เราใส่ไว้คือหน้าหลักของเว็บไซต์ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนเทนต์ที่คล้ายกันปรากฏในหน้าการค้นหา การทำ Canonical Tag จึงช่วยให้ Google มองเว็บไซต์เราว่าเป็นเว็บที่น่าเชื่อถือ
Google Trends คือเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหา Keyword ต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน โดยนำปริมาณการค้นหา Keyword จากการค้นหาบนแหล่งออนไลน์ต่าง ๆ มาคำนวณแล้วแสดงผลเป็นกราฟที่อ่านง่าย เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงว่า Keyword ไหนที่กำลังได้รับความนิยมหรือถูกค้นหามากที่สุด
Google Sitelinks คือ ลิงก์ย่อย ๆ ที่แสดงใต้ Meta Description ในหน้าการค้นหา ซึ่งจะแสดงก็ต่อเมื่อ Google วิเคราะห์แล้วว่าเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดย Sitelinks มักปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลด้วยชื่อแบรนด์หรือชื่อเว็บไซต์โดยตรง
Yoast SEO คือ ปลั๊กอินที่มีให้ใช้งานเฉพาะในโปรแกรม WordPress ทำหน้าที่ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถไต่อันดับสูงขึ้นได้บน Search Engine ด้วยการช่วย Optimize SEO ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ทั้งในส่วนของ Keyword, Meta Description, รูปภาพ, Internal Links, External Links พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขให้ทันที
Google Analytics คือ เครื่องมือที่ใช้วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดย Google จะทำการวิเคราะห์และเก็บสถิติข้อมูลเชิงลึกของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์รับรู้ข้อมูลด้านต่าง ๆ และสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของตนเอง
Core Web Vitals คือ หนึ่งในเกณฑ์การจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าค้นหา โดย Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานมาก และได้นำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินการติดอันดับบน Search Engine เว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุดจึงมีโอกาสติดหน้าแรกของการค้นหา
Anchor Text คือ ข้อความหรือประโยคที่เราทำการฝังลิงก์เอาไว้ เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานให้ไปยังหน้าเพจหรือเว็บไซต์ที่เราต้องการ ซึ่งมันส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ในหน้าการค้นหา เพราะทำให้ตัว Google รู้เกี่ยวกับเนื้อหาของเว็บไซต์ และยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Alternative Text หรือ Alt Text คือ คำอธิบายรูปภาพที่จะไม่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ปกติ แต่จะแทรกอยู่ใน HTML Code เพื่อให้ Google เข้าใจความหมายของรูปภาพที่เราอัปโหลด ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO ในหน้าการค้นหา
SEO Youtube คือเทคนิคการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อคลิป (Title), คำอธิบาย (Description) หรือปกวิดีโอ (Thumbnail) ให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มโอกาสให้คลิปวิดีโอติดอันดับการค้นหาบน Youtube และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงคอนเทนต์ของตัวธุรกิจได้อย่างง่ายดาย
404 not found คือ หน้าเพจที่แสดงผลผิดพลาดจากการที่ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลแล้วไม่พบ URL หรือข้อมูลที่อยู่บน Server ของเว็บไซต์ จึงแสดงผลให้ผู้ใช้งานรู้ว่าหน้าเพจนี้ไม่มีอยู่ ลิงก์อาจเสียหรือหน้าเพจมีปัญหา โดยสาเหตุของการเกิด 404 not found เช่น เปลี่ยนชื่อ URL, เปลี่ยนโดเมนเว็บไซต์, โฮสติ้งมีปัญหา และอื่น ๆ
Private Blog Network หรือ PBN คือ เครือข่ายบล็อกส่วนตัวหรือก็คือเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำ Backlink (Off page) ให้กับเว็บไซต์หลักที่เราต้องการโดยเฉพาะ เพื่อให้ Google มองว่าเว็บไซต์หลักมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เป็นการผลักดันให้ตัวเว็บไซต์หลักขึ้นไปติดอันดับ SEO บน Search Engine ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Redirect 301 คือ การเปลี่ยนเส้นทางจาก URL เดิมที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว ไปยัง URL ใหม่ที่เราต้องการใช้แบบถาวร การทำ Redirect 301 จึงเป็นการบอกให้ Google รู้ว่า URL ใหม่ก็คือเว็บไซต์เดิมที่มีตัวตนและยังสามารถคงอันดับเดิมในหน้าค้นหาอีกด้วย
Rich Snippets เป็นฟีเจอร์การแสดงผลบนหน้า Google แบบพิเศษที่ไม่ได้มีเพียง Title และ Description แต่จะมี คำอธิบาย, ราคา หรือคะแนนรีวิวเพิ่มด้วย ซึ่งเป็นการดึงดูดสายตาผู้เข้าชม ทั้งยังกระตุ้นอัตราการคลิกผ่านเว็บไซต์ และหากมีเนื้อหาที่ให้คำตอบกับผู้ใช้งานได้ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับ SEO
Long Tail Keywords คือ คำหรือรูปประโยคที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง มักเป็นกลุ่มคำที่สามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน มีการระบุรุ่น ยี่ห้อ ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า หรือสถานที่ตั้งต่าง ๆ ไว้ เพื่อให้การค้นหาถูกบีบให้แคบและเจอกับสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่ง Long Tail Keywords จะเป็น Keywords ที่ถูกใช้โดยผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าหรือบริการจริง ๆ หากเราทำให้ Keywords ประเภทนี้ติดอันดับได้ เราก็มีแนวโน้มที่จะขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
Internal Link คือลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังหน้าเพจอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานให้ไปยัง Content หรือหน้า Landing Page อื่นที่เราต้องการ ช่วยให้ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานขึ้น ซึ่ง Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
External Link คือ การวางลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ Google Bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูล เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอะไร ซึ่งมันจะทำให้ Search Engine มองเว็บไซต์ของเราว่ามีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และมีประโยชน์ เพราะเรามีการอ้างอิงเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกันนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์อีกด้วย
Site Structure คือ โครงสร้างเว็บไซต์ที่คอยบอกว่าเว็บไซต์เรามีเนื้อหาหรือคอนเทนต์แบบใด และมีรูปแบบการเชื่อมโยงภายในอย่างไร ซึ่งถ้าเราทำ Site Structure ดี มันก็จะทำให้ Google Bot เข้ามาจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าเว็บไซต์มี Site Structure ที่ไม่ดี มันก็จะส่งผลเสียต่อการเก็บข้อมูลและเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับ SEO บนหน้าค้นหาของ Google
ไฟล์ WEBP คือ ไฟล์มาตรฐานที่ Google กำหนดขึ้นในช่วงปี 2010 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันสามารถรองรับการทำงานได้แทบทุกเบราว์เซอร์ และไฟล์ WEBP ยังได้รับความนิยมสูง เนื่องจากไฟล์ชนิดนี้จะช่วยให้ขนาดไฟล์เล็กลง แต่คงคุณภาพของรูปได้อย่างดีเยี่ยม โดยเล็กกว่า ไฟล์ jpeg กว่า 25-34% และเล็กกว่าไฟล์ png กว่า 22% โดยประมาณ
Schema Markup คือ โค้ดชุดหนึ่งสำหรับเพิ่มเข้าไปในเว็บไซต์ มีหน้าที่ในการเพิ่มข้อมูลหรือเนื้อหาให้กับ Keywords เพื่อเป็นตัวช่วยให้ Google Bot เก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทำให้รู้ว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาหรือคีย์เวิร์ดเกี่ยวข้องกับอะไร ซึ่งจะส่งผลให้เว็บไซต์ที่ติดตั้ง Schema Markup มีโอกาสติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google มากขึ้น
Bounce Rate คือ อัตราการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งานที่คลิกเพียงหน้าเดียว จากนั้นก็กดปิดทันที โดยไม่มีการคลิกต่อหรือมีส่วนร่วมใด ๆ ค่านี้จึงเปรียบเสมือนตัวชี้วัดเนื้อหาและคุณภาพของตัวเว็บไซต์ ที่ทาง Google นำไปใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับบนหน้าค้นหา
YMYL คือ อัลกอริทึมจากทาง Google ที่สร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่คัดกรองเนื้อหาเฉพาะด้าน เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการเงิน การลงทุน หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเองมากขึ้น ดังนั้น ทุกเว็บไซต์จึงจำเป็นต้องนำเสนอเนื้อหาหรือข้อมูลที่ถูกต้องให้กับผู้ใช้งาน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ (ทั้งนี้คำว่า YMYL ย่อมาจากคำว่า “Your Money Or Your Life” ซึ่งแปลว่า “เงินหรือชีวิต” นั่นเอง)
ChatGPT คือ แชทบอทปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยบริษัทวิจัย OpenAI ย่อมาจากคำว่า “Chat” และ “Generative Pre-training Transformer” ตัวแชทบอทถูกออกแบบมาให้ตอบคำถามกับผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการทำงานด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
Plugin WordPress คือ ส่วนขยายหรือโปรแกรมเสริมของซอฟต์แวร์บน WordPress ที่จะช่วยเพิ่มหรือขยายฟังก์ชันใหม่ ๆ ให้กับตัวเว็บไซต์ ทำให้นักพัฒนาสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย และช่วยประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้น
WordPress คือ โปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้สร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ประเภท CMS ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL ถือเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซต์และปรับแต่งได้อย่างอิสระแม้จะไม่มีความรู้ เพราะมี Plugin และ Theme สำเร็จรูปต่าง ๆ ให้เราเลือกใช้
Link Building คือ กลยุทธ์การเชื่อมโยงเว็บไซต์อื่น ๆ มายังเว็บไซต์ของเรา หรือที่เรียกว่า “Backlink” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือให้กับตัวเว็บไซต์ โดยมักจะเชื่อมโยงเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันเป็นหลัก
E-commerce คือ การซื้อ-ขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” เพราะเป็นธุรกรรมการเงินที่ต้องทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก โดยทั่วไป E-commerce สามารถปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer)
Landing Page คือหน้าเว็บไซต์หนึ่งหน้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง เช่น เพื่อนำเสนอสินค้าบริการ, เพื่อโฆษณาส่วนลดโปรโมชัน หรือเพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลรับข่าวสาร โดย Landing Page ในแต่ละเว็บไซต์ก็มีหน้าตาและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
LSI Keywords คือการใช้เทคนิคเลือกคำที่สอดคล้องกับ Main Keyword ที่เราต้องการจะโฟกัสหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา เพื่อให้ Google เข้าใจในคอนเทนต์ และบริบทที่เราต้องการจะสื่อมากขึ้น ซึ่งการทำ LSI Keywords ที่ดี จะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาเจอได้ง่าย และยังช่วยให้หน้าเว็บของเราถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ อีกด้วยถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่บริษัทรับทำ SEO ทั่วโลกต่างเลือกใช้
HTTP Status คือ ชุดตัวเลขที่ประกอบเข้าด้วยกัน 3 ตัว มีไว้ตอบกลับจากเซิฟเวอร์เพื่อแจ้งปัญหาต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานทราบ ว่าปัญหาในการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์แล้วไม่ขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องแก้ไขอย่างไรถึงจะถูกต้อง
การทำ Disavow Links เป็นการปฏิเสธลิงก์ที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพที่ส่งมายังตัวเว็บไซต์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการ Spam Backlink ที่อาจส่งผลให้ตัวเว็บโดนลงโทษได้ แม้ว่าตัวธุรกิจคุณจะไม่ได้ทำลิงก์เหล่านั้นขึ้นมาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลิงก์เหล่านั้นก็ตาม
Search Engine คือ โปรแกรมที่อำนวยความสะดวกเรื่องการหาข้อมูล เมื่อผู้ใช้งานพิมพ์คำ วลี หรือประโยค ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยากรู้ Search Engine ก็จะแสดงผลออกมาเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ ยังมีระบบรวบรวมสถิติการค้นหา และวิเคราะห์ว่าข้อมูลใดเป็นที่นิยม เพื่อจัดลำดับการแสดงผลให้ตรงกับความต้องการในครั้งถัดไป

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้