รู้จัก Avatar ตัวตนบนโลกเสมือนจริง รูปแบบใหม่บน Metaverse
การมาถึงของโลกเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) ในยุค Metaverse นั้น จะขยายขอบเขตการทำงานของสังคมออนไลน์ให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะเข้มงวดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ช่องทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะถูกยกระดับให้พร้อมรองรับการใช้งานที่หลากหลาย อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันที่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี Avatar ตัวตนเสมือนอีกรูปแบบหนึ่งขึ้น เพื่อใช้ในโลกเสมือนจริงของ Metaverse นั่นเอง
โดยเทคโนโลยีนี้จะมีความเกี่ยวข้องอย่างไรต่อการทำธุรกิจในอนาคต วันนี้ Cotactic จึงขออาสาพาผู้ประกอบการทุกท่าน มาทำความรู้จักและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันครับ
Avatar ตัวตนจำลองบนโลกเสมือนจริง
Avatar (หรืออ่านว่า อวตาร ในภาษาไทย) คือ ภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ต เดิมอวตารนั้นเป็นเหมือนไอคอนที่ใช้แทนตนบนเว็บไซต์ทั่วไป นิยมใช้งานในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอวตารให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จนสามารถจำลองหน้าตาของมนุษย์หรือตัวการ์ตูนให้ออกมาเป็นภาพอนิเมชั่นสามมิติ ซึ่งเราสามารถนำเอาอวตารที่สร้างไปใช้งานได้บนโลกเสมือนจริงผ่านอุปกรณ์อย่างแว่น VR นั่นเอง
แต่ทั้งนี้การสร้างอวตารเพื่อใช้กับโลกเสมือนจริงก็ยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่สมบูรณ์แบบ ยังต้องมีการพัฒนาปรับปรุงอีกมาก อวตารที่เราใช้กันในปัจจุบันจึงเป็นแค่ภาพไอคอนจำลองตัวตนทั่วไป เป็นสติ๊กเกอร์หรือรูปแทนตนที่ใช้กันในโซเชียลมีเดีย เช่น
เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว
ติดต่อ
- Memoji อวตารแทนตัวจาก Apple ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ TrueDepth ที่คอยปรับการแสดงสีหน้าแบบ 3D ก็ทำให้สามารถสร้างและปรับแต่งตัวอวตารได้หลากหลายตั้งแต่ สีผม ทรงผม รูปทรงตา คิ้ว จมูก และปาก เป็นต้น
ตัวอย่าง Memoji จากเว็บไซต์ Apple (คลิกที่ภาพเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม)
- Ar Emoji อวตารแทนตัวจาก Samsung เป็นฟีเจอร์การใช้งานที่ผนวกการทำงานของเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มาปรับภาพถ่ายเซลฟี่ตัวบุคคลให้กลายเป็นอนิเมชั่น 3D สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้หลากหลายตามใจผู้ใช้งาน
ตัวอย่าง Ar Emoji จากเว็บไซต์ Samsung (คลิกที่ภาพเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม)
- Facebook Avatar อวตารที่ถูกพัฒนาขึ้นหลังจาก Bitmoji ของ Snapchat ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานฝั่งอเมริกา เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2020 แม้จะมีการปรับแต่งรายละเอียดได้ไม่ต่างจากค่ายอื่น แต่ผู้ใช้งาน Facebook ก็นิยมใช้อวตารนี้เป็นสติ๊กเกอร์ส่งหาในแชทส่วนตัว หรือใช้แสดงความคิดเห็นบนโพสต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน
- LINE Avatar เป็นอวตารแทนตัวที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก เนื่องมาจากการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า แต่ถึงกระนั้นอวตารจาก LINE ก็มีการผสานเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (AR) มาเป็นตัวช่วยในการพัฒนา ทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวบนใบหน้าของตัวอวตารได้
เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว
แนวโน้มและความเป็นไปได้ของ Avatar ในยุค Metaverse
1.สินค้าเสมือนจริงที่ใช้บนโลกเสมือนจริง
ผู้ใช้งานความเป็นจริงเสมือนในอนาคต จะมีอวตารที่จำลองตัวตนบนโลกออนไลน์เป็นของตัวเอง ตัวตนเสมือนนี้จะสามารถปรับแต่งหน้าตารูปร่างได้อย่างอิสระ มีเสื้อผ้าคอสตูมมากมายให้ใส่ได้ตามใจอยาก ซึ่งจากจุดเด่นนี้ อาจมีการออกแบบและวางขายเครื่องแต่งกายในเชิงธุรกิจเกิดขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มผลิตสินค้าเสมือนจริงออกมา กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ใน Metaverse ที่ใช้ต้นทุนน้อยแต่ได้กำไรสูง โดยความเป็นไปได้นี้มีสิทธิ์เกิดขึ้นจริงสูงมาก เพราะเทรนด์การให้มูลค่ากับสินค้าที่จับต้องไม่ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน ดังนั้นหากทุกคนมีอวตารเป็นของตัวเอง โมเดลธุรกิจแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นจริงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
2.สังคมตัวตนเสมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ
ผู้ใช้งานโลกเสมือนจะใช้อวตารเป็นสื่อกลางในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีแนวโน้มมาจากการยกระดับความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น มันจะส่งผลให้เรามักใช้อวตารปกปิดตัวตนเวลาติดต่อกับคนแปลกหน้าเพื่อความปลอดภัย ทุกคอมมูนิตี้บนโลกออนไลน์จะเต็มไปด้วยผู้ใช้งานที่มีอวตารเป็นของตัวเอง พวกเขาจะใช้ตัวตนจำลองนี้ทำกิจกรรมต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต เช่น การซื้อขายสินค้าบริการบนโลกออนไลน์ การประชุมติดต่องานในบริษัท หรือการเสพความบันเทิงผ่านภาพยนตร์และวิดีโอเกม เป็นต้น
3.จะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มเฉพาะของผู้ใช้งาน Avatar ขึ้น
ในอนาคต Meta (Facebook) จะไม่ใช่บริษัทเดียวที่พัฒนา Metaverse หรือสื่อสังคมออนไลน์บนความเป็นจริงเสมือน ด้วยความโดดเด่นของเทคโนโลยีอวาตาร์ แพลตฟอร์มใหม่ ๆ จะถือกำเนิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการตรงนี้หากโซเชียลมีเดียในปัจจุบันไม่มีการพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย ดังนั้นทิศทางของสื่อสังคมออนไลน์จะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เจ้าของธุรกิจจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ต้องเรียนรู้และคอยศึกษาเทรนด์ของเทคโนโลยีเพื่อไม่ให้ตัวธุรกิจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว
4.พฤติกรรมและความเคยชินของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป
เมื่อผู้บริโภคหันไปใช้ชีวิตในโลกเสมือนกันหมด การใช้งานอวตารจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน ซึ่งพฤติกรรมและความเคยชินแบบเดิม ๆ จะเปลี่ยนไป การปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือนผ่านอวาตาร์จะกลายเป็นเรื่องสำคัญเทียบเท่ากับโลกความเป็นจริง โดยในกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่มก็อาจให้ความสำคัญกับอวาตาร์มากกว่าในชีวิตจริงอีกก็เป็นได้ ดังนั้นการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยจึงมีความสำคัญ ธุรกิจคุณจะได้ใจผู้บริโภคยุคใหม่หรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ว่าคุณตั้งใจศึกษาและเปิดรับพฤติกรรมเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าหากคุณปรับกลยุทธ์ได้ถูกจุด มันก็อาจส่งผลดีต่อธุรกิจคุณมากกว่าที่คิดก็เป็นได้
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปกติในชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่หลายสิ่งหลายอย่างพร้อมเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้นสำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว การติดตามข่าวสารและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่า Metaverse จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เราก็ต้องพร้อมปรับตัวให้เข้ากับอนาคตทุกรูปแบบอยู่เสมอ
หากธุรกิจคุณต้องการที่ปรึกษา ต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sanook.com/hitech/1447579/
Cotactic Strategist Team 2021
