E commerce คือ อะไร ? พร้อมวิธีทำ SEO ให้กับ E-commerce

ในปัจจุบัน ธุรกิจออนไลน์ ดิจิทัลเอเจนซี่ หรือแม้แต่คนทั่วไป น่าจะคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์แบบ E-commerce เป็นอย่างดี หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการจะเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์นี้ E Commerce คือ คำตอบ ซึ่งในบทความนี้ Cotactic รวบรวมความรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำ Website E-commerce มาให้คุณแล้ว! พร้อมแนะนำเทคนิคทำ E-commerce SEO ฉบับบริษัทรับทำ SEO
E-commerce คืออะไร
E-commerce คือ การซื้อ – ขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” เพราะเป็นธุรกรรมการเงินที่ต้องทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก โดยทั่วไป E-commerce สามารถปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer)
ทำไม E-commerce จึงสำคัญในยุคปัจจุบัน
1. ต้นทุนในการจัดการและการบริหารที่ต่ำ
แค่คุณมีหน้าร้านผ่านทางออนไลน์ ทุกคนก็สามารถดำเนินธุรกิจ E-commerce ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเช่าที่ จ้างพนักงาน และยังสามารถเปิดร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง การเปิด Web ecommerce จึงสามารถช่วยลดต้นทุกการบริหารจัดการได้จริง
2. ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถซื้อของได้
ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็เล่นโซเชียลมีเดีย แค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าไปดูสินค้าผ่านทางหน้าร้านออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Web ecommerce ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อสินค้าแล้ว ยังสามารถจ่ายเงิน และตั้งค่าการจัดส่งได้ภายในช่องทางเดียวอีกด้วย
3. ช่องทางการชำระเงินหลากหลาย
ความพิเศษของ E commerce คือ สามารถรองรับการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การธุรกรรมธนาคารผ่านอินเทอร์เน็ต, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต หรือ Wallet
ประเภทของ E-commerce ที่นิยม
1. B2C (Business-to-Consumer)
การทำธุรกิจ E-commerce ในรูปแบบนี้ คือการทำธุรกรรมซื้อ-ขายระหว่างธุรกิจค้าปลีกกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราคุ้นเคย ปัจจุบัน Web ecommerce แบบ B2C มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมอย่างสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวิธีซื้อ-ขายที่สะดวกสบาย ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดสินค้าได้อย่างง่ายดาย และชำระเงินได้หลายช่องทาง ในขณะเดียวกัน E-commerce คือ หนึ่งในช่องทางการสร้างรายได้ของผู้ค้าปลีก ที่มีประสิทธิภาพ และยังช่วยประหยัดต้นทุน
2. B2B (Business-to-Business)
ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป แต่เป็นธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการนำวัตถุดิบไปใช้ผลิตสินค้าและบริการ เราจะเรียก E-commerce ประเภทนี้ว่า B2B ซึ่งหมายถึง การทำธุรกรรมซื้อ-ขายระหว่างธุรกิจตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป
3. C2B (Consumer-to-Business)
ธุรกิจ E-commerce รูปแบบสุดท้าย คือการทำธุรกรรมซื้อ-ขายระหว่างผู้บริโภคกับธุรกิจ โดยจุดเด่นของ C2B E-commerce คือ ผู้บริโภคเป็นผู้ขายสินค้าและบริการให้กับธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การออกแบบลายเส้น โลโก้ ภาพถ่าย เพื่อให้ธุรกิจนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ เป็นต้น
ทำอย่างไรให้บริหาร E-commerce แล้วรุ่ง!
แน่นอนว่าการเปิดให้บริการ Web ecommerce เป็นหนึ่งในหนทางที่สามารถสร้าง Conversion ได้จริง เพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อผ่านเว็บไซต์ อย่างไรก็ดี ทุกธุรกิจต้องพึงตระหนักเอาไว้ว่า ปัจจุบันเว็บไซต์ที่ปรับปรุงเป็น Web ecommerce มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือ “จะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่สนใจสินค้าประเภทนั้น ๆ มองเห็นเว็บไซต์ของคุณ”
และเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายนี้ เราขอแนะนำทางเลือกที่น่าสนใจมากที่สุด นั่นก็คือ การทำ SEO เพราะการทำ E-commerce SEO เพื่อดันให้เว็บไซต์ติดอันดับใน Search Engine เมื่อมีคน Search คำค้นหาที่เกี่ยวกับสินค้า ย่อมทำให้ลูกค้าสามารถค้นเจอ Web ecommerce ของเราได้ง่ายขึ้น!
ทั้งนี้ การทำ E-commerce SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ สามารถทำได้โดยใช้วิธีเดียวกับการทำ SEO ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การค้นหา Keyword ที่เหมาะสม แล้วสร้างคอนเทนต์จาก Keyword เหล่านั้น การปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เช่น Title, Meta Description, Alternative Text, Heading Tag, URL Slug ตลอดจนการติดตั้ง Martech ต่าง ๆ อาทิ Ahrefs, Moz, Semrush และ Google Search Console เป็นต้น
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทุกธุรกิจไม่ควรละเลยเมื่อทำ E-commerce SEO ก็คือ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ และการวางแผน User Experience (UX) ให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะคุณสมบัติเหล่านี้ จะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า ว่าจะเลือกซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ของคุณต่อไปหรือไม่
เทคนิคการทำ E-commerce เจ๋งๆ
เทคนิคสำคัญสำหรับการทำ E-commerce คือ การศึกษา Insights ของลูกค้าที่ใช้งาน Web ecommerce ของเรา ต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าต้องการอะไรจากเรา และเมื่อการซื้อ-ขายเสร็จสิ้น นอกจากลูกค้าจะได้สินค้าดี ๆ กลับไปแล้ว ทางแบรนด์เองจึงต้องมีบริการหรือส่วนลดพิเศษ เพื่อช่วยดึงดูดใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าจากเราอีกครั้ง
E-commerce จำเป็นสำหรับทุกธุรกิจหรือไม่?
การพิจารณาว่า E-commerce จำเป็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการทำธุรกิจของคุณ กล่าวคือ หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจประเภท Consultant ที่เน้นให้คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ การสร้างระบบ E-commerce ขึ้นมา ก็อาจไม่ตอบโจทย์ แต่หากธุรกิจของคุณเน้นขายสินค้า และมียอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นเป้าหมาย ก็ถือได้ว่า E-commerce คือ ทางเลือกที่เหมาะสม และช่วยกระตุ้นยอดขายได้
อย่างไรก็ดี หากคุณเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเดินหน้าสร้าง Web ecommerce และต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำ E-commerce SEO เพื่อดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google เราช่วยคุณได้! ติดต่อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ
——————————————————————–
หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: m.me/cotactic
Line: @cotactic
——————————————————————–
ขอบคุณแหล่งข้อมูล :