click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

AI จะเข้ามาเป็นหัวใจหลักของทุกแคมเปญ และลูกค้าจะเลือกจาก “ความพอใจ” มากกว่าแค่ “โปรโมชั่น” แบรนด์ที่รอด จึงไม่ใช่แบรนด์ที่ทำคอนเทนต์เก่งที่สุด แต่คือแบรนด์ที่เข้าใจบริบทและปรับตัวเข้ากับการตลาดดิจิทัลได้ไวที่สุด Cotactic จึงรวม 8 แนวโน้มใหม่ของเทรนด์การตลาด 2026 จากงาน The Secret Suace Summit 2025 ที่นักการตลาดต้องรู้!

1. Macro Consumer Shift เมื่อผู้บริโภคแตกขั้วชัดกว่าที่เคย

ผู้บริโภคกำลังเลือกสินค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

จุดเปลี่ยนที่ “Middle Market” (ตลาดระดับกลาง) กำลังจะตาย จากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงอันดับ 1 ในอาเซียน) บีบให้พฤติกรรมผู้บริโภคแตกออกเป็น 3 มิติใหม่ที่แบรนด์ต้องจับให้ทัน

1.1 มิติเศรษฐกิจ 

เมื่อคนรวย 10% ของประเทศถือครองทรัพย์สินกว่า 85.7% ในขณะที่คนส่วนใหญ่ต้องดิ้นรน ตลาดจึงฉีกออกเป็น 2 ขั้ว

  • กลุ่ม Trade Down (เน้นคุ้มค่า) ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มลดสเปคสินค้า มองหา “Pack Size เล็ก” ที่จ่ายไหวและผ่อนสบาย
  • กลุ่ม Trade Up (เน้นประสบการณ์) กลุ่มที่มีกำลังซื้อยังพร้อมจ่ายไม่อั้นให้กับสินค้าพรีเมียมที่ขาย “ประสบการณ์” และสะท้อนตัวตนได้จริง

1.2 มิติจิตใจ

ความสุขแบบ Minor-stone และการฮีลใจ หันมาหาความสุขเล็กๆ (Micro Moment) เพื่อประคองใจในวันที่โลกเครียด

  • Emotional Healing ธุรกิจ Wellness และสินค้าที่ช่วย “บำบัดจิตใจ” จะเติบโตแรงขึ้น รวมถึง “มูเตลู” ที่คนไทยกว่า 88% ใช้เป็นที่พึ่งทางใจอยู่ไม่น้อย
  • Real-world Community คนโหยหาการเจอหน้ากันจริงๆ (In-person experience) เช่น แก๊งวิ่ง หรือชมรมอ่านหนังสือ เริ่มมากกว่าแค่คุยในออนไลน์

1.3 มิติแบรนด์

ผู้คนหันมาภูมิใจในแบรนด์เอเชีย (Asian Cool) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Pop Mart, Beyond The Vines หรือแบรนด์ไทย คาดว่าภายในปี 2040 แบรนด์เอเชียจะครองสัดส่วนถึง 60% ของตลาดโลก

2. Brand & Creators as Ecosystem จาก “แบรนด์พูดคนเดียว” สู่ “แบรนด์ร่วมสร้าง”

แบรนด์ไม่สามารถทำตัวเป็น “ผู้ควบคุม” (Control) ที่ผลิตคอนเทนต์เองทั้งหมดได้อีกต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น “ผู้ร่วมสร้าง” (Co-creator) ด้วย เพราะ Creator ไม่ใช่แค่คนทำคลิป แต่คือ “ศูนย์กลางของแผนมีเดียแบบใหม่” (Media Center) ที่ทรงพลังที่สุด

2.1 Creator Impact

  • ขยายผลได้ถึง 10 เท่า คอนเทนต์ที่ครีเอเตอร์ทำ สามารถสร้างแรงกระเพื่อม (Impact) ได้มากกว่าคอนเทนต์ที่แบรนด์ทำเองถึง 10 เท่า 
  • จำแบรนด์ได้แม่นกว่า บน TikTok คอนเทนต์ที่ครีเอเตอร์ทำเอง 100% สร้างการจดจำแบรนด์ (Brand Recall) ได้ถึง 27% ในขณะที่คอนเทนต์จากแบรนด์ทำได้เพียง 19% 

2.2 Internal Design

แบรนด์จัดระบบหลังบ้านให้แข็งแกร่ง ก่อนจะไป Co-create กับใคร ที่ชัดเจนจากภายในก่อน ด้วยการวางระบบ North Star Clarity หรือเป้าหมายทิศทางเดียวที่ทุกคนในองค์กรต้องเห็นภาพร่วมกัน

  • Align Culture ทุกแผนก (รวมถึง CEO) ต้องเข้าใจวัฒนธรรมและเป้าหมายเดียวกัน
  • Embed Innovation แทรกซึมนวัตกรรมลงไปในทุกกระบวนการทำงาน
  • Sub-culture Focus เปิดรับและทำงานร่วมกับวัฒนธรรมย่อย (Sub-cultures) ของกลุ่มเป้าหมาย

2.3 The 3 Brand Goals

เป้าหมายของการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ เมื่อระบบดีและมีครีเอเตอร์ช่วยขยายเสียง เป้าหมายสูงสุดที่ต้องวัดผลให้ได้คือ Brand Impact 3 ระดับ

  • Top of Mind ลูกค้าต้องนึกถึงเราเป็นแบรนด์แรก
  • First-choice เมื่อจะควักเงินจ่าย เราต้องเป็นตัวเลือกแรก
  • Most Recommended ลูกค้าใช้แล้วอยากบอกต่อให้คนอื่นใช้ตาม

3. Cultural Relevance = Brand Relevance

Culture 3.0 ถือว่าเป็นยุคที่ทำให้เกิดกลุ่มความสนใจเฉพาะทาง (Sub-culture) ขึ้นมากมาย แบรนด์จึงไม่สามารถ “กำหนดเทรนด์” ได้เองอีกต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนมาใช้วิธี “เข้าร่วม” แทน ซึ่งสิ่งที่แบรนด์ต้องปรับตัว คือ 

  • เน้นความเชื่อมโยง (Culture Relevance) แบรนด์ต้องเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมหรือกลุ่มความสนใจนั้น ๆ อย่างแนบเนียน ไม่ใช่พยายามไปบังคับทิศทาง
  • เข้าหาผู้นำกลุ่ม เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่าน Community และคนที่มีอิทธิพลทางความคิดในกลุ่มนั้นๆ (Cultural Leader)

4. Attention = Currency | Influence = Value

“Attention” หรือ ความสนใจของผู้บริโภค คือผลลัพธ์ของแคมเปญ ที่ไม่ได้วัดแค่ Reach เท่านั้นแต่ต้องวัด Influence Quality ว่ามีอิทธิพลโน้มน้าวหรือสร้างการตัดสินใจได้มากน้อยแค่ไหน เพราะทุกวันนี้ความสนใจของผู้บริโภคลดลงเหลือเพียงไม่กี่วินาที ขณะที่คอนเทนต์ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

  • ความสนใจ (Attention) เป็นใบเบิกทาง โดยต้องดึงดูดจนเกิด “อารมณ์” และ “ความทรงจำ” เพราะสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าไปค้นหาข้อมูลต่อหรือตัดสินใจซื้อ (โดยใช้ สื่อ + ไอเดีย + Data ทำงานร่วมกัน)
  • อิทธิพล (Influence) เป็นตัวเพิ่มมูลค่า ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในยุคที่พฤติกรรมลูกค้าซับซ้อนขึ้น (ทั้งดู steaming – ไถฟีด – ค้นหา – ซื้อของ ปนกันไปหมด)

5. Agile Media & Content Dynamics

เพราะในปี 2026 ทุกแบรนด์จะต้องผันตัวเป็น “Content Brand” ที่ผลิตเนื้อหาได้เอง โดยเฉพาะคอนเทนต์ “วิดีโอ” บน YouTube และ TikTok ซึ่งเป็นที่ที่คนดูเยอะที่สุด ด้วย 2 สูตรลับการทำคอนเทนต์ยุคใหม่ ดังนี้

5.1 เน้นวิดีโอสั้น (Short-form Strategy)

ใช้สูตร 3s – 5s – 15s เพื่อตรึงคนดูให้อยู่หมัด

  • 3 วินาทีแรก ต้องหยุดคนดูให้ได้ทันที (สำคัญที่สุด)
  • 5 วินาทีต่อมา อธิบายเนื้อหาให้รู้เรื่อง
  • 15 วินาทีสุดท้าย สร้างจุดพีคให้คนจดจำแบรนด์ได้

5.2 เน้นโซเชียลมีเดีย (Social-first Strategy)

ใช้สูตร SLAP เพื่อเปลี่ยนคนดูเป็นลูกค้า

  • S (Stop) หยุดนิ้วโป้งคนไถฟีดให้ได้
  • L (Look) ดึงดูดให้ดูคลิปต่อนานที่สุด
  • A (Act) กระตุ้นให้เกิดการกระทำ (เช่น กดไลก์, คอมเมนต์)
  • P (Purchase) แทรกการขายเข้าไปในเนื้อหาอย่างแนบเนียน

6. Portfolio ROAS Thinking วัดผลแบบพอร์ตโฟลิโอ

เลิกวัดผลความคุ้มค่าแบบแยกรายช่องทาง เช่น ยิง Ads Facebook ได้กำไรเท่าไหร่ ยิง Google ได้กำไรเท่าไหร่ แต่ให้เปลี่ยนมุมมองมาวัดผลภาพรวมแบบ “Portfolio” ดังนี้

  • มองเหมือนกองทุน ให้มองงบการตลาดทั้งหมดเป็นก้อนเดียวเหมือนการลงทุนในพอร์ตหุ้น ที่บางตัวอาจทำหน้าที่สร้างกำไรระยะสั้น บางตัวสร้างชื่อเสียงระยะยาว
  • วัดผลที่ภาพรวม ไม่ตัดสินความสำเร็จจากช่องทางใดช่องทางหนึ่ง แต่ให้ดูว่าเมื่อรวมทุกสื่อและทุกกิจกรรม (Full-funnel) แล้ว แบรนด์เติบโตขึ้นหรือไม่

7. AI Steers Everything เมื่อ AI ไม่ใช่แค่ผู้ช่วย แต่คือผู้จัดการแคมเปญ

ปัญหา “แอบใช้ AI” (Shadow AI) ของพนักงานส่วนใหญ่ (90%) ชอบใช้ AI ส่วนตัวเพราะของบริษัทใช้งานยาก องค์กรจึงต้องพัฒนาระบบ AI ของตัวเองให้เก่งและใช้ง่าย เพื่อเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วย AI (Generative Experience) ใช้ AI ขับเคลื่อนแบรนด์ผ่าน 5 หัวใจสำคัญ

  • ชัดเจน AI ต้องช่วยสื่อสารความเป็นตัวตนของแบรนด์ให้แม่นยำ
  • รู้ใจ สร้างเนื้อหาที่เจาะจงเฉพาะบุคคล (Personalized)
  • ร่วมมือแบรนด์และ AI ต้องทำงานร่วมกัน (Co-creation)
  • ฉลาด AI ต้องเข้าใจบริบทและสถานการณ์รอบข้าง
  • เชื่อถือได้ ต้องใช้งานอย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส

8. Resilience Marketing Playbook การตลาดที่ยืดหยุ่น ทนแรงกระแทก

เทรนด์การตลาดมีความผันผวนมากขึ้น

แบรนด์ที่จะอยู่รอดได้ต้องมีแผนรับมือที่เน้นความ “ยืดหยุ่น” และ “ปรับตัวไว” ดังนั้น สิ่งที่แบรนด์ต้องทำเพื่อรับมือความวุ่นวาย คือ

  • ปรับตัวให้เร็ว (Agile & Resilience) ต้องคล่องตัว แผนไหนทำแล้วไม่เวิร์คให้รีบตัดทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ทันที
  • ใช้ข้อมูลนำทาง (Inform) ลงทุนกับ Data และ AI เพื่อช่วยมองหาทิศทางในอนาคตและปรับแผนได้ทันท่วงที
  • รักษาจุดเด่นให้คนจำ (Distinctive & Meaningful) แม้สถานการณ์จะเปลี่ยน แต่เอกลักษณ์แบรนด์ (เช่น โลโก้, สโลแกน) ต้องนิ่ง ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย เพื่อให้คนยังจดจำได้เสมอแม้ในวันที่งบโฆษณาน้อยลง
  • จริงใจแบบมนุษย์ (Human & Authentic) เชื่อมต่อกับลูกค้าด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความเป็นของจริง
  • โฟกัสเป้าหมาย พลิกวิกฤตเป็นโอกาส (Focus & Opportunistic) ยึดเป้าหมายหลัก (North Star) ไว้ให้มั่น แล้วมองหาโอกาสใหม่ๆ จากวิกฤตเพื่อพาธุรกิจไปต่อ

สรุป

จากสรุป 8 แนวโน้มเทรนด์การตลาด 2026 ทั้งหมดจะเห็นว่า กุญแจสำคัญของปี 2026 ไม่ใช่แค่การ “ทำโฆษณา” แต่คือการผสาน Data, AI และความคิดสร้างสรรค์ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อสร้าง Performance ที่วัดผลได้จริง

Cotactic คือ Digital Marketing Agency ที่เชี่ยวชาญการใช้ Data Driven Strategy ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน SEO New Normal การทำ Content ที่เข้าถึง Insight, หรือการวัดผลแบบ Full-funnel เพื่อให้แบรนด์ของคุณไม่ได้เป็นแค่ “ทางผ่าน” แต่เป็น “ตัวเลือกแรก” ในใจของกลุ่มเป้าหมายคุณ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

โทร. 065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic

Line: @cotactic

บทความที่เกี่ยวข้อง

Copywriting คืออะไร? เคล็ดลับเขียนข้อความขายเปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้า

Copywriting คืออะไร? เคล็ดลับเขียนข้อความขายเปลี่ยนคนอ่านให้เป็นลูกค้า

Meme Marketing คืออะไร? กลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ให้ไวรัลในข้ามคืน

Meme Marketing คืออะไร? กลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ให้ไวรัลในข้ามคืน

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้