บทความที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเรา

ในยุคที่ AI สามารถสร้างเนื้อหา ทั้งบทความ หรือรูปภาพได้ด้วยแค่การป้อนคำสั่งเพียงไม่กี่คำ การแข่งขันบนหน้าผลการค้นหาของ Google SERP จึงดุเดือดยิ่งกว่าเดิม หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมบางเว็บไซต์ถึงยังครองอันดับหนึ่งได้อย่างยาวนาน ในขณะที่บางเว็บร่วงหล่นหายไป คำตอบสำคัญอยู่ที่ “คุณภาพ” และ “ความน่าเชื่อถือ” ซึ่ง Google ใช้เกณฑ์ที่เรียกว่า E-E-A-T เป็นตัวชี้วัดสำคัญ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อเราต้องการค้นหาข้อมูลเรื่องใดก็ตาม Google มักจะเป็นตัวเลือกแรกที่เรานึกถึงในฐานะ Search Engine ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งในปัจจุบัน Google ได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ชื่อว่า AI Overview ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวก โดยทำหน้าที่สรุปเนื้อหาสำคัญมาแสดงไว้ที่ส่วนบนสุดของหน้าค้นหา ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการหาคำตอบได้เป็นอย่างดี

ใครที่กำลังใช้โซเชียลมีเดียช่วงนี้ คงสะดุดตากับประโยค “ไอร่ารู้ไหม?” “พี่ชาวี พี่จะใส่สูทมาทำไม!” หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับภาพชายหนุ่มฝรั่งหันมองหญิงสาวที่เดินผ่าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ “มีม” สื่อที่เหมาะกับการเกาะกระแสระยะสั้น นอกจากความตลกเฮฮาของคอนเทนต์แล้ว มีมยังมักถูกนำมาใช้เพื่อสร้างภาพจำให้กับหลายแบรนด์ จนเป็นที่ชื่นชอบและจดจำของผู้ชมมากยิ่งขึ้น

โลกของการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้น เมื่อ Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ที่เรียกว่า AI Overviews เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่แค่การแสดงรายการลิงก์เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เป็นการนำปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) มาสังเคราะห์คำตอบที่ครอบคลุมและเป็นธรรมชาติให้กับผู้ใช้งานโดยตรง ฟีเจอร์นี้ได้สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการคำตอบอย่างรวดเร็วและตรงประเด็น แต่ในขณะเดียวกันก็ได้สร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการและนักการตลาดที่ต้องพึ่งพาการเข้าชมเว็บไซต์ผ่าน Search Engine บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ AI Overviews ถึงหลักการทำงาน ผลกระทบ และแนวทางในการปรับตัวเข้ากับคลื่นลูกใหม่ของ Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ทุกวันนี้เราพูดคุยกับ AI จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เทคโนโลยีที่สร้างบทสนทนาระหว่างเรากับ AI ให้แสนจะเป็นธรรมชาติก็คือ LLM (Large Language Models: LLM) หรือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่นวัตกรรมที่สามารถทำความเข้าใจ สร้างสรรค์ และโต้ตอบกับภาษามนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนแทบจะแยกไม่ออกว่ากำลังคุยอยู่กับมนุษย์หรือเครื่องจักร ความสามารถเหล่านี้ได้ปลดล็อกศักยภาพใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมทุกประเภท ตั้งแต่การพัฒนาซอฟต์แวร์ การตลาด ไปจนถึงการบริการลูกค้า 

องค์กรที่ขยับตัวได้เร็วและแม่นยำจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานอย่างมีนัยสำคัญคือ AI Agent หรือ “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่สามารถช่วยทำงานบางส่วนแทนมนุษย์ได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึก ด้วยประสิทธิภาพในการรับข้อมูล ตัดสินใจ และลงมือทำได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้ AI Agent ไม่ใช่เพียงระบบที่แค่คอยสนับสนุนหรือช่วยเหลือเท่านั้น แต่สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาองค์กรเลยทีเดียว

AI ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยความได้เปรียบทางการแข่งขันธุรกิจของทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุน ความเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีหลายองค์กรที่นำ AI มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด เสริมการตัดสินใจ และสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การทำการตลาดในปัจจุบันนี้ ไม่ได้อาศัยแค่การทำ SEO หรือการสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอีกต่อไป แต่ต้องเข้าใจว่า AI มองเห็นแบรนด์เราอย่างไรและแบรนด์ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์มากแค่ไหน Brand Mention หรือการที่แบรนด์ถูกเอ่ยถึงในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือบน AI Overview เครื่องมือค้นหาใหม่ที่เราเห็นบ่อยๆ เลย เช่น Google ที่จะมีคำตอบเป็น AI Overview ขึ้นมาแนะนำ ยิ่งแบรนด์ถูกพูดถึงในการค้นหามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการถูกเลือกไปแสดงผลในคำตอบของ AI มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้กำลังจะมาแทนที่หน้าแรกของ Google แบบเดิมๆ Brand Mention จึงเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่นักการตลาดต้องเรียนรู้เพื่อให้ธุรกิจอยู่ในการค้นหาที่ AI จะนำแบรนด์เราไปเป็นคำตอบบน Google

การแข่งขันบนตลาดออนไลน์สูงมากในปัจจุบัน เรียกได้ว่าถ้าร้านไหนตอบแช็ทช้าถือว่าแพ้ไปแล้วหนึ่งก้าว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง AI Chatbot จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะกับเว็บไซต์ที่สร้างบน WordPress ซึ่งสามารถติดตั้งปลั๊กอิน Chatbot ได้อย่างสะดวกและปรับแต่งให้เหมาะกับลักษณะธุรกิจได้ง่ายมาก