The Social Media Content Creator is responsible for planning, creating, and executing engaging content across multiple social media platforms, including Instagram, TikTok, Facebook, YouTube, and LinkedIn. This role requires balancing creativity with data-driven insights to deliver impactful content that aligns with the brand’s tone of voice and objectives.
The Project Manager is a hybrid role responsible for managing client communications and leading digital strategy development for various marketing campaigns. Serving as the primary liaison between Sales and the Optimization teams (Ads, Creative, Content), this role is involved both before and after a deal closes. The Project Manager works with the Sales team to develop strategic marketing proposals, participates in client pitches as the primary strategic liaison, and ensures smooth onboarding once the contract is signed.
After onboarding, the Project Manager drives strategic alignment, coordinates execution across media, content, and creative teams, leads monthly and quarterly client meetings, and monitors campaign performance for continuous improvement. The ideal candidate is client-centric, results-driven, and comfortable working in a fast-paced agency environment, managing multiple accounts while thinking both creatively and strategically.
The Content Marketing and Social Media Tactician (Contractor) will be responsible for creating and executing content marketing campaigns and social media tactics that align with the overall content and social media strategy. They will work closely with the Content Marketing and Social Media Strategist to ensure that all tactics are aligned with the overall goals and objectives of Cotactic and for our clients. They will be responsible for creating and managing content calendars, conducting target audience research, and analyzing performance data to inform future tactics. They will also work closely with the design and development teams to ensure that all tactics are executed properly and are on-brand, meaning candidates will be responsible for ensuring that the content and campaigns that they create align with the Cotactic’s and client images and message, and are consistent with the visual identity of Cotactic and our clients. They will be expected to take ownership of their work and deliver results, while maintaining a high level of integrity and excellent customer focus.
As a Graphic Designer, your responsibilities will include conducting research on the client’s brand and competitors to find design inspiration and references. You will be responsible for preparing presentations that effectively communicate and align with the client’s brand and objectives. Additionally, you will gather and organize the client’s brand assets, including logos, photos, and other creative materials, while setting up a design workspace in Figma or a related design program for improved efficiency. Your role will involve creating various graphic assets such as branding materials, corporate identity books, offline billboards, creative banners, wireframes, and responsive web or app designs. You will also provide support in creating ad creatives, including banners, album post designs, slideshow videos, and motion graphics, and prepare design creative assets slides for stakeholder presentations.
The Sales Coordinator and Office Administrator is responsible for supporting the sales team and managing the office at Cotactic – Digital Marketing Agency. This individual will coordinate sales activities, such as filtering leads, setting up meetings and presentations, preparing proposals and contracts, and following up on leads. They will also manage client relationships, answering client questions and addressing concerns. In addition, the Sales Coordinator and Office Administrator will be responsible for organizing and maintaining sales and marketing materials and assisting with financial tasks such as coordinating with the accounting team.
They will also manage the office, including ordering supplies, scheduling and coordinating meetings, and handling travel arrangements. The Sales Coordinator and Office Administrator will assist with HR tasks such as onboarding new employees and managing benefits, and will also handle administrative tasks such as scheduling appointments and maintaining records.
The ideal candidate will have strong communication and customer service skills, excellent organizational skills, and attention to detail. They will be proficient with computer programs and technologies, and will have the ability to work well as part of a team. Experience in sales and marketing, as well as financial management, is a plus
The Senior Marketing Operations Specialist plays a key role in executing and optimizing multi-channel performance marketing campaigns. You will bridge Project manager, creative, and account teams to ensure campaigns are set up efficiently, run smoothly, and deliver measurable results that meet client KPIs.
As SEO Tactician, you will be responsible for implementing and managing the agency’s SEO strategies for clients. This includes conducting keyword research, optimizing content, and building high-quality backlinks. You will also be responsible for monitoring and analyzing website traffic and search engine rankings to inform and optimize SEO strategies. You will work closely with the agency’s website design and development teams, and creative graphic and content teams to ensure that all website updates are SEO-friendly and engaging to users. Additionally, you will be responsible for reporting on the progress and effectiveness of SEO strategies to clients.
เคยสังเกตไหมว่าทำไมเวลาได้ยินเพลงที่เคยฟังตอนเด็ก หรือเห็นโฆษณาที่ใช้ภาพที่ทำให้นึกถึงวันวาน สิ่งนี้ส่งผลให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจและมีแรงจูงใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์นั้นมากกว่าปกติ หรือทำไมของเล่นที่เคยเล่นตอนเด็กถึงกลับมาฮิตอีกครั้งในยุคปัจจุบัน คำตอบทั้งหมดนี้อยู่ที่พลังของความทรงจำที่แบรนด์รู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ การตลาดที่ทำให้ลูกค้าหยุดคิดและรู้สึกคุ้นเคยด้วยความทรงจำในวันวาน นั่นคือพลังของ Nostalgia Marketing ที่หลายแบรนด์ดังนำมาใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการเข้าถึงหัวใจผู้บริโภค เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนมักหาที่พึ่งทางอารมณ์จากสิ่งที่คุ้นเคยในอดีต แบรนด์ที่เข้าใจจิตวิทยานี้จึงสามารถสร้างการเชื่อมต่อที่ลึกซึ้งกับลูกค้าได้มากกว่าการโฆษณาทั่วไป จากสถิติการวิจัยล่าสุดพบว่าแคมเปญการตลาดที่ใช้ความทรงจำจากอดีตสามารถเพิ่มอัตราการจดจำแบรนด์ได้ถึง 68% และส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบปกติ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงการ “เล่นกับอารมณ์” แต่จริง ๆ แล้วเป็นวิทยาศาสตร์ที่มีหลักฐานรองรับชัดเจน Nostalgia Marketing คืออะไร? Nostalgia Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้ความทรงจำ ความรู้สึกคิดถึง และอารมณ์ความรู้สึกที่ดีจากอดีตที่ลูกค้าคุ้นเคยอยู่แล้วมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อกระตุ้นอารมณ์และสร้างการเชื่อมต่อทางใจระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค การตลาดรูปแบบนี้อาศัยหลักการทางจิตวิทยาที่ว่าผู้คนมักจะรู้สึกอบอุ่นใจและมีความสุขเมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น หรือช่วงเวลาสำคัญในชีวิต แบรนด์จึงนำจุดนี้มาใช้ในการสร้างแคมเปญ ออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือสื่อสารข้อความที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกคิดถึงและต้องการกลับไปสู่ช่วงเวลาเก่า ๆ ที่ผ่านมา Nostalgia Marketing ไม่ได้หมายถึงแค่การทำให้คน “คิดถึงอดีตของตัวเอง” เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำให้นึกถึงยุคเก่า ๆ แม้ตัวเองจะไม่ได้อยู่ในยุคนั้นด้วย เช่น คนรุ่นใหม่ที่ชอบยุค 80s […]
พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ลูกค้าไม่ได้แยกการซื้อออนไลน์กับออฟไลน์อีกต่อไป แต่ต้องการประสบการณ์ที่ลื่นไหล ชอบความง่ายดายและสะดวก เช่น เห็นรีวิวสินค้าบน Instagram แล้วตามไปลองจับสินค้าจริงที่หน้าร้าน หรือสั่งของผ่านแอปแล้วเลือกไปรับที่ร้านเพื่อลดเวลารอจัดส่ง ประสบการณ์แบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติในยุคที่ทุกช่องทางถูกเชื่อมต่อเข้าหากันอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากออนไลน์แล้วไปจบที่ออฟไลน์ หรือกลับกันทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของ Customer Journey ที่ต้องต่อเนื่องและสอดคล้องกัน ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมนี้สามารถออกแบบประสบการณ์ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ร้านอาหารที่ให้สั่งล่วงหน้าผ่านแอปแล้วรับแบบ Grab & Go หรือแบรนด์แฟชั่นที่จัดโปรเฉพาะลูกค้าที่มาลองสินค้าในร้าน แต่ให้โค้ดส่วนลดไปใช้ซื้อทางออนไลน์ภายหลัง เป็นต้น ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ขายสินค้าในหลายช่องทาง แต่คือการเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบนี่แหละคือแก่นของ O2O Marketing O2O Marketing คืออะไร? O2O Marketing หรือ Online to Offline Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่เชื่อมโยงประสบการณ์ลูกค้าระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสะพานเชื่อมต่อ เพื่อสร้าง Customer Journey ที่ราบรื่นและตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน แนวคิดหลักของ O2O Marketing คือการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองช่องทาง ช่องทางออนไลน์ช่วยเรื่องการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง การวิเคราะห์ข้อมูล และความสะดวกในการสื่อสาร ขณะที่ช่องทางออฟไลน์ให้ประสบการณ์การสัมผัสสินค้าจริง การบริการที่เป็นส่วนตัว และความเชื่อมั่นในการซื้อขาย […]
การแข่งขันในตลาด E-commerce ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ทำให้ผู้ขายออนไลน์ต้องหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อให้สินค้าของตัวเองโดดเด่นและเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากที่สุด หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ Google Shopping Ads ซึ่งสามารถแสดงรูปภาพสินค้า ราคา และข้อมูลสำคัญต่าง ๆ บนหน้าผลการค้นหา ทำให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดของสินค้าชัดเจนตั้งแต่แรกที่เห็นสินค้า การใช้เครื่องมืออย่าง Google Shopping Ads อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อจริง ๆ ได้ และยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันเครื่องมือนี้ยังช่วยลดความยุ่งยากในการค้นหาสินค้า และทำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าหรือคุณสมบัติได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ตัดสินใจซื้อได้รวดเร็วขึ้น การจัดการข้อมูลสินค้าและปรับแต่งแคมเปญอย่างเหมาะสม จะช่วยให้แคมเปญประสบความสำเร็จและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างแท้จริง ในบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจวิธีการใช้ Google Shopping Ads อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในยุคปัจจุบัน ขายสินค้าออนไลน์ต้องรู้จักว่า Google Shopping Ads คืออะไร? Google Shopping Ads คือ รูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่แสดงข้อมูลสินค้าในรูปแบบภาพ ราคา ชื่อร้าน และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ บนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้อง โดยจะปรากฏในรูปแบบตาราง (Grid) […]
การสร้างเว็บไซต์ในอดีตมักเป็นเรื่องของคนที่มีพื้นฐานไอที ต้องอาศัยทักษะด้านเทคนิคและการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน ทำให้หลายคนต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ หรือเสียเวลาเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ เช่น HTML, CSS, JavaScript เป็นเวลานานกว่าจะได้เว็บไซต์ที่ใช้งานจริง แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยเฉพาะเครื่องมือที่เรียกว่า CMS หรือ Content Management System การทำเว็บไซต์กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการรายย่อย นักการตลาด ฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่มือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานด้านไอทีเลย ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ด้วยการคลิก ลากวาง หรือเลือกใช้เทมเพลตสำเร็จรูป ระบบ CMS ได้เปลี่ยนแปลงโลกของการสร้างเว็บไซต์ไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้การเริ่มต้นออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากและมีต้นทุนน้อยลงอย่างมาก ไม่ต้องลงทุนพัฒนาใหม่ทั้งหมดจากศูนย์ บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับ CMS ตั้งแต่พื้นฐาน ประเภท ฟังก์ชัน ข้อดี-ข้อเสีย ไปจนถึงแนวทางการเลือกใช้ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ CMS คืออะไร? CMS ย่อมาจาก Content Management System หรือ ระบบจัดการเนื้อหา เป็นซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง แก้ไข จัดการ และเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด HTML, CSS […]
เมื่อ Google เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานด้วยเทคโนโลยี AI เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การทำ SEO แบบเดิม ๆ ที่มุ่งเน้นแค่การใส่คีย์เวิร์ดอาจไม่เพียงพอต่อการแข่งขันในอนาคต เพราะปัจจุบัน Google ไม่ได้มองแค่คำเท่านั้น แต่พยายามเข้าใจความหมายและความเชื่อมโยงของข้อมูลแบบเชิงลึกมากขึ้น โดยการนำระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการประมวลผลและทำความเข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ Google Search Generative Experience (SGE) และการอัปเดตอัลกอริทึมต่าง ๆ ที่ผ่านมา สิ่งนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าอนาคตของการค้นหาจะเน้นความเข้าใจเนื้อหาแบบบริบทมากกว่าการจับคำตรง ๆ นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด Entity SEO ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดในการทำ SEO ของเราไปตลอดกาล การเข้าใจ Entity SEO จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดดิจิทัลทุกคนควรเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของ Search Engine พารู้จัก Entity SEO คืออะไร? Entity SEO คือ กลยุทธ์การทำ SEO ที่เน้นการสร้างและเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน “เอนทิตี” (Entity) หรือหน่วยข้อมูลที่มีความหมายเฉพาะตัว แทนที่จะมุ่งเน้นเพียงแค่การใส่คีย์เวิร์ดเพื่อให้ติดอันดับ เอนทิตี ใน SEO หมายถึง […]
หากคุณใช้ชีวิตประจำวันในยุคนี้ คุณจะเริ่มสังเกตเห็นโลกของการค้นหาข้อมูลที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อ Google เปิดตัว AI Mode ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดจากระบบ Search Generative Experience (SGE) และ AI Overviews จุดเปลี่ยนนี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มความสามารถให้กับเครื่องมือค้นหา แต่เป็นการเปลี่ยนบทบาทจาก “กล่องค้นหา” สู่ “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่เข้าใจบริบทการสนทนา สามารถประมวลผลคำถามที่ซับซ้อน ตีความเจตนาของผู้ใช้ และสรุปคำตอบที่แม่นยำ พร้อมแหล่งอ้างอิงในทันที ด้วยระบบ AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน การค้นหาในยุคใหม่นี้จึงเป็นแบบ Conversational Search หรือ “การสนทนาเชิงลึก” มากกว่าการพิมพ์คำค้นแบบเดิม ๆ ผู้ใช้สามารถถามคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถามเรื่องหนึ่ง แล้วต่อด้วย “แล้วถ้าเป็นคนงบน้อยล่ะ” ซึ่ง AI Mode จะสามารถเข้าใจบริบทเดิมและตอบให้ต่อเนื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำความรู้จัก Google AI Mode คืออะไร? Google AI Mode คือ ระบบค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นจากโมเดล Gemini […]
