Reading Time: 3 Mins
3 Mins
Jul 29, 2022

4 ทริคเด็ดปั้นโฆษณา Google Ads ชุบชีวิตช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

4 ทริค ปั้น google ads ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

วิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ คือ การทำโฆษณา Google Ads เพราะนอกจาก Google จะเป็น Search Engine ที่มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) มากเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว การทำโฆษณา Google Ads ยังสามารถทำให้โฆษณาปรากฏบนแฟลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น YouTube หรือเว็บไซต์ที่เป็น Display Networks ของ Google ได้อีกด้วย

ภาพหน้าต่าง google ads

Google Ads คืออะไร?

Google Ads คือ เครื่องมือโฆษณาออนไลน์ที่ใช้โปรโมทผลิตภัณฑ์และบริการผ่าน Google Search, YouTube หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต การสร้างโฆษณา Google Ads จะเริ่มจากการสร้างข้อความที่บ่งบอกจุดเด่นของแบรนด์ โดยเลือกจาก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ จากนั้นจะเข้าสู่การกำหนดเป้าหมายโฆษณา เช่น เพิ่มจำนวนการโทร เพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ และกำหนดพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ต้องการแสดงโฆษณา ไปจนถึงการกำหนดงบประมาณ และการแสดงผลตามช่องทางต่าง ๆ

เมื่อผู้คน Search คำค้นหาบน Google ตรงกับ Keyword ที่มีในข้อความแสดงจุดเด่นของแบรนด์ หรืออาจท่องไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน โฆษณาของคุณจะปรากฏขึ้น พร้อม URL ของ Official Website ทั้งนี้ ยิ่งคุณบริหารงบประมาณได้มีประสิทธิภาพเท่าใด โอกาสที่โฆษณาของคุณจะแสดงผลเป็นอันดับแรก ๆ บน Google ก็มีมากขึ้นเท่านั้น

ทำความรู้จักกับรูปแบบโฆษณา Google Ads ให้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม 

google ads

 

โฆษณา Google Ads สำคัญอย่างไรกับธุรกิจ ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว?

2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 วิกฤตราคาน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อ หลาย ๆ ธุรกิจจึงพยายามปรับตัวจาก Offline เป็น Online เพื่อลดต้นทุนการบริหารจัดการ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาการแข่งขันในแวดวงธุรกิจออนไลน์ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการตลาดบน Social Media ต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการตลาดแบบ Active ที่เน้นยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายในทันที ต่างกับโฆษณา Google Ads ที่แม้จะกล่าวได้ว่าเป็นการตลาดแบบ Passive เพราะต้องรอให้กลุ่มเป้าหมาย Search คำค้นหาตรงกับคำที่กำหนดก่อนจึงจะแสดงโฆษณาได้ แต่กลับ Support พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของผู้คน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้มากกว่า 

โฆษณา Google Ads จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะช่วงที่แบรนด์ต้องการให้ผู้บริโภคจดจำ และอยากเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืน

 

เทคนิคการสร้างโฆษณา Google Ads ให้ธุรกิจยังคงเติบโตท่ามกลางวิกฤต

แม้จะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่การลงโฆษณา Google ก็สามารถพาธุรกิจของคุณรอดพ้นจากวิกฤตนี้ได้ ด้วย 4 เทคนิคการสร้างโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนี้

ปรับปรุง keyword

ที่มา: Thinkwithgoogle

 

1.ปรับปรุง Keyword ที่ใช้ โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมการหาข้อมูล

ผลสำรวจจาก Search Report ของ Google ระบุว่า ปัจจุบันแนวโน้มการ Search ของผู้บริโภคไม่ได้จำกัดอยู่แค่การค้นหาสินค้าและบริการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมองหาตัวเลือกจากปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เช่น “โปรโมชัน”, “ราคาถูก” หรือ “โปรไหนดี” ตลอดจนค้นหาช่องทางการซื้อสินค้าโดยตรงบน Google อีกด้วย 

ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การคิดคำโฆษณา Google Ads ไม่ควรอ้างอิงจาก Keyword เฉพาะที่เกี่ยวกับประเภทของสินค้า ชื่อแบรนด์ และที่ตั้งของบริษัทเท่านั้น แต่ควรค้นหา Keyword จากมุมมองที่กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยใช้เครื่องมือฟรีอย่าง Google Trends หรือ Google Ads Keyword Planner (ในกรณีที่มีบัญชี Google Ads อยู่แล้ว) เพื่อค้นหา Keyword ที่น่าสนใจเพิ่มเติม 

เครื่องมือ smart bidding

ที่มา: Ten Thousand Foot View

 

2.ทบทวนการบริหารงบประมาณบนโฆษณา Google Ads ตามลักษณะของธุรกิจ

ธรรมชาติของแต่ละธุรกิจย่อมแตกต่างกัน การจัดการงบประมาณจึงควรคำนึงถึงปัจจัยนี้ด้วย กล่าวคือ ธุรกิจที่เน้นขายผ่านออนไลน์ ต้องติดตามเทรนด์การซื้อขายอย่างใกล้ชิด และต้องพยายามดึงดูดให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด ซึ่งเครื่องมือที่สามารถช่วยคุณได้ คือ Smart Bidding หรือเครื่องมือการเสนอราคาอัตโนมัติ เพื่อตั้งค่า Conversion และบริหารจัดการงบโฆษณา Google Ads ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์นั้น

ในทางกลับกัน ธุรกิจที่เพิ่งผันตัวจาก Offline มาสู่ Online อาจอยู่ในช่วงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และวางรากฐานระบบ Digital Marketing ให้แข็งแรง จึงอาจจะยังไม่พุ่งเป้าไปที่การเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ทะลุเพดาน แต่เน้นการเพิ่มช่องทางการซื้อให้กับผู้บริโภค ดังนั้น แนะนำให้กันงบประมาณไว้สำหรับช่องทางใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น Google Shopping หรือ Google My Business เป็นต้น

google shopping ads

ที่มา: BLUE WINSTON

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

3.เพิ่มรูปแบบโฆษณาให้น่าสนใจด้วย Dynamic Search Ads

อันที่จริงการลงโฆษณา Google มีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้โฆษณาบน Google Search เรากำลังพูดถึง Dynamic Search Ads ที่คุณอาจมีโอกาสเห็นอยู่เป็นประจำเมื่อท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ

Dynamic Search Ads

ที่มา: ppcprofessionals

Dynamic Search Ads คือฟีเจอร์ที่จะช่วยแสดงผลโฆษณาบน Landing Page ที่คุณเลือกไว้ ซึ่งหน้า Landing Page หรือหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ จะต้องมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องและใกล้เคียงกับสินค้าและบริการของคุณ อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เมื่อผู้ใช้งาน Search คำใดก็ตามบน Google เข้ากับเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่คุณเลือกไว้ Google ก็จะแสดง Headline โฆษณาของคุณให้ปรากฏขึ้นนั่นเอง วิธีนี้จะทำให้คุณเจอ Keyword ใหม่ ๆ และเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องรอให้มีการ Search คำที่เป็น Keyword ตรง ๆ 

 

4.พัฒนารูปแบบเว็บไซต์ให้ทันสมัยและมีคุณภาพ

เทคนิคสุดท้าย คือ การพัฒนา “หน้าบ้าน” ให้น่ามอง ซึ่งหน้าบ้านในที่นี่ก็คือ Official Website ที่คุณใช้สร้างโฆษณา Google Ads เพราะเว็บไซต์ที่ดีไซน์สวย ทันสมัย ใช้งานง่าย ไม่ติดขัด จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และเชื่อใจในความเป็นมืออาชีพของแบรนด์ นอกจากนี้ การจัดลำดับข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ให้อ่านง่าย ครบถ้วน และไม่ทับซ้อนกัน ก็คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาดบนเว็บไซต์เช่นกัน

แม้การสร้างโฆษณา Google Ads จะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน และต้องวางแผนงบประมาณอย่างรัดกุม แต่ก็ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่คุ้มค่า ให้ผลลัพธ์ต่อเนื่องในระยะยาว และยังเป็นช่องทางที่ธุรกิจขนาดใหญ่เห็นความสำคัญ ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมจึงควรเรียนรู้เทคนิคการลงโฆษณา Google หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญรับทำ Google Ads เพื่อรับมือกับทิศทางการตลาดที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ อันเป็นฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นสนามธุรกิจที่ท้าทายเสมอมา

 


 

หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ได้เลยวันนี้

 

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 


 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

thinkwithgoogle.com

kodsana.com

ads.google.com

 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]