August 15, 2020 Reading Time: 2 minutes

ข่าวใหญ่นักยิง Ads เมื่อ Facebook ประกาศยกเลิกกฎตัวอักษร 20% บนรูปภาพ (พร้อมเจาะลึก Case Study)

เป็นที่น่าจับตามองสำหรับนักการตลาดสายยิง Ads ทั้งหลาย เมื่อมีรายงานจาก Facebook ว่าแพลตฟอร์มจะไม่มีการลงโทษโฆษณาที่มีสัดส่วนตัวอักษรบนรูปภาพมากกว่า 20% อีกต่อไป โดยเรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์ผ่านทางทวิตเตอร์

จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด Social Media Matt Navarra 

อย่างไรก็ตามการปรับมาตรฐานการตรวจสอบโฆษณาของ Facebook ในครั้งนี้ยังคงมีข้อจำกัด ที่ทางแพลตฟอร์มยังคงมีการแนะนำและสนับสนุนให้ผู้ลงโฆษณาปรับตัวอักษรให้อยู่ในสัดส่วน 20% เพราะจาก Research ของทาง Facebook และข้อมูลของผู้ใช้งาน แสดงให้เห็นว่ารูปภาพโฆษณาที่มีตัวอักษรน้อยกว่า 20% มักจะได้การตอบรับที่ดีกว่าภาพโฆษณาที่มีตัวอักษรเยอะๆ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งาน และนักโฆษณา ตัวโฆษณาที่ปรากฏบนหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Audience Network จะถูกจำกัดการมองเห็นตามสัดส่วนตัวอักษรบนรูปภาพบนโฆษณา ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ทาง Facebook จะไม่ห้ามการยิงโฆษณา ที่มีตัวอักษรมากอีกแล้ว แต่จะทำการจำกัดการมองเห็นแทน ยิ่งตัวอักษรบนรูปภาพมากเท่าไหร่การมองเห็นก็จะน้อยลงเท่านั้น

แต่รูปโฆษณาบางประเภทยังถูกให้การยกเว้นจากทางระบบให้มีตัวอักษรมากได้ เช่น Book Covers, Album Covers และ Product Images เป็นต้น และนี้เป็นตัวอย่างการจำกัดสัดส่วนตัวอักษรรูปภาพบนพื้นฐานใหม่ของ Facebook

Image Text: OK

ขอบคุณรูปภาพจาก Instapage

Image Text: Low

ขอบคุณรูปภาพจาก Instapage

Image Text: Medium

ขอบคุณรูปภาพจาก Instapage

Image Text: High

ขอบคุณรูปภาพจาก Instapage

โฆษณาตัวอักษรน้อยกว่า 20% มีประสิทธิภาพมากกว่าจริงหรือ?

การจำกัดตัวอักษร ลดการมองเห็นของตัวโฆษณายังคงเป็นที่ถกเถียงจากนักการตลาดในวงกว้างว่า โฆษณาที่มีตัวอักษรน้อยมีประสิทธิภาพมากกว่าจริงหรือไม่? 

เนื่องจากในหน้า News feed นั้นเป็นเหมือนสมรภูมิรบที่มี Users มากกว่า 1.65 พันล้านคนเข้าใช้งาน และทางระบบมีการแชร์เรื่องราวเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 โพสต่อวัน/คน ซึ่งจาก 1,500 โพสนี้ทางระบบจะทำการเรียงลำดับความสำคัญตามการใช้งานของ Users นั้นๆ

การแข่งขันเพื่อแย่งชิงความสนใจของลูกค้าบนหน้า News feed นี้ทำให้ตัวอักษรบนรูปภาพเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานเห็นรูปภาพ และรู้ได้ทันทีถึงข้อความที่เราต้องการจะสื่อสาร ที่โดยปกติแล้วเมื่อคนเราเห็นคอนเทนต์บนหน้า Feed มักจะสนใจรูปภาพเป็นอันดับแรก ต่อมาเป็น Headline และสุดท้ายข้อความ ซึ่งนักการตลาดส่วนมากจะใช้วิธีสอดแทรก CTAs (Call-to-action) เข้าไปในรูปภาพเพื่อเพิ่มความสนใจ เช่น “ฟรี”, “คุณเท่านั้น”, “มีเวลาจำกัด” เป็นต้น 

มีการทดลองหนึ่งในผลการค้นคว้าของ SketchDeck ตั้งแต่ปี 2016 เกี่ยวกับจำนวนตัวอักษรบนรูปภาพต่อความสนใจของผู้ใช้งาน เผยให้เห็นถึงข้อมูลที่น่าสนใจ 

ขอบคุณรูปภาพจาก Sketchdeck

ในการทดลองนี้จะใช้ภาพที่เหมือนกันตลอดการทดลอง แต่สิ่งที่ต่างกันมีเพียงจำนวนและขนาดตัวอักษรบนรูปภาพ (จากรูปภาพด้านบน) โดยใช้การวัดผลเป็น CPC (Cost-per-click) หรือการจ่ายเงินตามจำนวนการคลิ๊ก

ขอบคุณรูปภาพจาก Sketchdeck

ผลการค้นคว้าที่ออกมาคงจะผิดหลักความเชื่อของนักการตลาดหลายๆ คนเพราะรูปภาพที่ไม่มีตัวอักษรเลยกลับมี CPC น้อยที่สุด ซึ่งจากผลการค้นคว้านี้ ทีม Sketchdeck มีข้อสันนิษฐานว่า

“การมีตัวอักษรบนรูปภาพอาจดูสวยงามและน่าดึงดูดก็จริง แต่เมื่อผู้ใช้งานเห็นข้อความ CTAs ที่ชัดเจนก็จะสามารถรู้ได้ทันทีเช่นกันว่าโพสนี้คือโฆษณาและเลื่อนผ่านไป ดังนั้นตัวโฆษณาไม่ควรดูผิดที่ผิดทางจากโพสบนหน้า News feed ของผู้ใช้งานมากเกินไป”

อย่างไรก็ตามจากการพัฒนาของแพลตฟอร์มและการลดหย่อนมาตรการตัวอักษรของ Facebook อาจทำให้เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ของผู้ใช้งาน รวมถึงเทรนด์ในอนาคตก็เป็นได้

ทำไม Facebook ต้องจำกัด 20% ตัวอักษร?

หลายปีที่ผ่านมา Facebook ได้ทำการย้ำพวกเราเสมอว่าผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทั้ง Facebook และ Instagram นั้นไม่ชอบภาพที่มีตัวอักษรเป็นจำนวนมากบนหน้า News feed โดยเฉพาะสมัยก่อนในช่วงที่ตัวแพลตฟอร์มยังไม่ได้มีช่องทางการแสดงเนื้อหาที่หลากหลายรูปแบบอย่าง ณ ปัจจุบัน โดยหลัก ๆ รูปแบบคอนเทนต์จะเป็นในรูปแบบตัวอักษรและรูปภาพเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นการจำกัดตัวอักษรบนรูปภาพจึงเป็นหนึ่งในวิธีพัฒนา User Experience นั้นเอง

แต่เมื่อเวลาผ่านไปตัวแพลตฟอร์มมีการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ตัวอักษรบนรูปภาพไม่เป็นการรบกวนประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งานอีกต่อไป ทาง Facebook จึงทำการลดหย่อนการตรวจสอบที่เข้มงวดนี้จาก “ตัวอักษรมากกว่า 20%=ไม่ผ่าน” กลายเป็น “ตัวอักษรมากกว่า 20% = ผ่าน สามารถโฆษณาได้ แต่! จะถูกจำกัดการมองเห็น” 

ทั้งนี้ทาง Facebook ยังคงมีการช่วยนักโฆษณาในการอัพเดทรูปแบบโฆษณาใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน

ข้อมูลอ้างอิง: SocialmediatodayInstapageSketchdeckSearchEngineJournal


Facebook Comment
บทความที่เกี่ยวข้อง

Hybrid Working คืออะไร ? ทำไมเจ้าของธุรกิจควรรู้จัก

การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid working) คือการทำงานในออฟฟิศ ผสมผสานกับการทำงานระยะไกลจากสถานที่อื่น เช่น จากบ้าน ใน Co-Working Space หรือสถานที่อื่น ๆ ถือเป็นวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำให้พนักงานเลือกการทำงานได้ ว่าจะทำงานอย่างไร เมื่อไร และที่ไหน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสมดุลในการทำงาน รวมถึงชีวิตส่วนตัวของพนักงานมากยิ่งขึ้น โดยการทำงานแบบไฮบริดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กร และพนักงานของบริษัทนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น บางบริษัทอาจอนุญาตให้พนักงาน ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) 2 วันต่อสัปดาห์ และมาทำงานที่ออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ ทั้งนี้การทำงานแบบไฮบริดเป็นที่นิยมมากขึ้นในปีหลัง ๆ เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยี ที่ทำให้การทำงานจากระยะไกลเป็นไปได้ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการระบาดของโรค COVID-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้การทำงานแบบ Hybrid Working เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการที่สาธารณสุขกำหนดไว้   5 ประโยชน์สำคัญของ Hybrid Working 1.เพิ่มความยืดหยุ่น (Increased Flexibility) การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้พนักงานสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานได้อย่างไร […]

Data Analysis คืออะไร ทำไมเจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Data Analysis คืออะไร   Data Analysis คือ กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกเก็บหรือบันทึกไว้ เพื่อค้นหาสิ่งที่มีประโยชน์มาต่อยอดการทำงานที่เราต้องการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่มีการนำเอาข้อมูลและผลประกอบการทั้งหมด มาตรวจสอบ แยกแยะ และแจกแจงให้เข้าใจง่ายเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการวางแผนกลยุทธ์ หรือประกอบการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ถือเป็นอีกหนึ่งกระบวนการทำงานที่ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของตัวธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถคาดเดาผลลัพธ์หรือจำลองความเป็นไปได้ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด   ดังนั้น Data Analysis จึงถือเป็นกระบวนการที่มีประโยชน์และจำเป็นอย่างมากในยุคดิจิทัล เพราะเราจะสามารถนำเอาข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์โฮมเพจและสื่อสังคมออนไลน์มาวิเคราะห์หรือตรวจสอบ เพื่อนำไปพัฒนาตัวธุรกิจให้สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างที่เราต้องการ นับเป็นอีกหนึ่งกระบวนการทำงานที่นักการตลาดและที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ทั่วโลกต่างเลือกใช้   หลักการทำงานของ Data Analysis   1.Market Analysis Market Analysis คือการวิเคราะห์ตลาดผ่านข้อมูลทั้งหมดที่ตัวธุรกิจได้เก็บหรือบันทึกไว้ เพื่อหาแนวโน้มการทำงานและความเป็นไปได้ของตลาดในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวางแผนกลยุทธ์ แคมเปญ โปรโมชั่น หรือเลือกช่องทางการจำหน่ายสินค้าบริการได้อย่างเหมาะสม ทำให้เราสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ถือเป็นอีกหนึ่งกระบวนการทำงานที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล เพราะมันจะช่วยให้การทำการตลาดบนโลกออนไลน์มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นการทำ Market Analysis จึงจำเป็นต้องทำอย่างรอบคอบ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ ถึงจะวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและมีความถูกต้องมากที่สุดนั่นเอง   2.Data Mining Data Mining […]

รวมขนาด Banner (Banner Sizes) ทั้งหมด ทุกแพลตฟอร์ม 2023

ในยุคปัจจุบันการทำโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดพื้นฐานที่หลายธุรกิจต่างเลือกใช้กันเป็นปกติ บรรดาที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ต่างพร้อมใจยกให้ อินเทอร์เน็ตเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างยอดเยี่ยม แต่คุณเคยสังเกตไหมว่าโฆษณามากมายที่ถูกใช้งานอยู่ในตอนนี้ ต่างมีรูปภาพหรือ Banner เป็นส่วนประกอบแทบทั้งสิ้น เราจึงอาจกล่าวได้ว่าภาพ Banner นั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำโฆษณาบนโลกออนไลน์ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม   วันนี้ Cotactic จึงอยากจะพาเจ้าของธุรกิจและผู้ที่สนใจไปรู้จักกับความหมายของ Banner กันครับ ว่าในยุคปัจจุบันนี้ Banner ที่ดีควรเป็นอย่างไร และขนาด Banner ที่เหมาะสมต้องใหญ่ประมาณเท่าไหร่   แบนเนอร์ (Banner) คืออะไร แบนเนอร์ (Banner) หรือ เว็บไซต์แบนเนอร์ (Website Banner) คือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบการทำโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์หรือบน Social Media ต่าง ๆ มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานให้อ่านสารที่อยู่บนภาพ มักถูกสร้างขึ้นเพื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เรื่องราวต่าง ๆ Banner ส่วนใหญ่จึงมีการฝังลิงค์ URL เข้าไป เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานที่คลิกเข้ามายังรูปให้ตรงไปยังหน้าเพจ เว็บไซต์ หรือปลายทางที่ผู้สร้างต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบของโฆษณาออนไลน์ที่เราพบได้บ่อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน   Banner ที่ดีควรเป็นแบบไหน   1.มีสีสันและธีมที่กลมกลืนไปกับเว็บไซต์ […]