Reading Time: < 1 minute
< 1 minute
Mar 31, 2023

Hybrid Working คืออะไร? เทรนด์การทำงานยุคใหม่ ที่คุณควรรู้!

Hybrid Working คืออะไร ? ทำไมเจ้าของธุรกิจควรรู้จัก

Hybrid Working คืออะไร

การทำงานแบบไฮบริด (Hybrid working) คือการทำงานในออฟฟิศ ผสมผสานกับการทำงานระยะไกลจากสถานที่อื่น เช่น จากบ้าน ใน Co-Working Space หรือสถานที่อื่น ๆ ถือเป็นวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำให้พนักงานเลือกการทำงานได้ ว่าจะทำงานอย่างไร เมื่อไร และที่ไหน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสมดุลในการทำงาน รวมถึงชีวิตส่วนตัวของพนักงานมากยิ่งขึ้น

โดยการทำงานแบบไฮบริดจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กร และพนักงานของบริษัทนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น บางบริษัทอาจอนุญาตให้พนักงาน ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) 2 วันต่อสัปดาห์ และมาทำงานที่ออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์

ทั้งนี้การทำงานแบบไฮบริดเป็นที่นิยมมากขึ้นในปีหลัง ๆ เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยี ที่ทำให้การทำงานจากระยะไกลเป็นไปได้ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการระบาดของโรค COVID-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้การทำงานแบบ Hybrid Working เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการที่สาธารณสุขกำหนดไว้

 

5 ประโยชน์สำคัญของ Hybrid Working

1.เพิ่มความยืดหยุ่น (Increased Flexibility)

การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้พนักงานสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานได้อย่างไร เมื่อไร และจากที่ไหน ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความสมดุลในการทำงาน รวมถึงชีวิตส่วนตัวได้ การยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นนี้ยังช่วยลดระดับความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

2.เพิ่มระดับความพึงพอใจของพนักงาน (Improved Employee Satisfaction)

เมื่อพนักงานมีอิสระในการเลือกสถานที่ทำงาน พนักงานจะรู้สึกพึงพอใจกับงานและบริษัทมากยิ่งขึ้น การทำงานแบบไฮบริดสามารถช่วยปรับปรุงความพึงพอใจและลดอัตราการลาออกจากงานได้

3.ประหยัดค่าใช้จ่าย (Cost Savings)

การทำงานแบบไฮบริดสามารถลดค่าใช้จ่าย ทั้งสำหรับพนักงานและบริษัทได้ ตัวอย่างเช่น พนักงานสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในขณะที่บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ทำงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้

4.การเข้าถึงบุคลากรที่มีศักยภาพ (Access to a Wider Talent Pool)

การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้บริษัทสามารถจ้างพนักงานจากสถานที่ต่าง ๆ ได้ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มบุคลากรได้กว้างขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นอกเขต CBD หรือบริษัทที่ต้องการหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติสูง

5.ความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity)

การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้บริษัทสามารถรักษาความต่อเนื่องของธุรกิจ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ภัยธรรมชาติ หรือการเกิดโรคระบาด บริษัทก็ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แม้ว่าพื้นที่ในออฟฟิศไม่สามารถใช้งานได้

 

Cotactic เชื่อว่าการ Hybrid Working เป็นการทำงานที่ดีเพราะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเป็นอิสระให้กับพนักงาน ทำให้พนักงานจัดการความสมดุลระหว่างการทำงานและส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานและบริษัท รวมถึงมอบโอกาสให้บริษัทได้เข้าถึงกลุ่มบุคลากรที่กว้างขึ้นได้เช่นกัน สุดท้าย Hybrid Working สามารถช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่นแม้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

 

——————————————————————– 

หากคุณต้องการที่ปรึกษาการรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

 

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 

 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]