Reading Time: 2 Mins
2 Mins
Feb 18, 2022

เผย 4 เทคนิคการหาลูกค้าใหม่ และเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าประจำ!

แผ่กลยุทธ์สำหรับเจ้าของธุรกิจ หาลูกค้าใหม่และเปลี่ยนเป็นลูกค้าประจำ

เมื่อบริบทสังคมเปลี่ยน กลยุทธ์ทางการตลาดแบบเดิม ๆ ที่จะใช้ หาลูกค้า อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่ากลยุทธ์แบบเดิมจะทำให้ธุรกิจของคุณมียอดขายที่ดีมากอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากที่คนทำธุรกิจต้องคอยอัปเดตเทรนด์ และทดลองการทำการตลาดแนวใหม่อยู่เสมอ ในโลกที่มีการแข่งขันสูงขึ้น แน่นอนว่าใครปรับตัวตามโลกได้ไวกว่า ย่อมได้เปรียบมากกว่า บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือ “Contextual Marketing การตลาดแบบฉวยโอกาสรอบตัวมาเป็นยอดขาย” ของคุณณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจ การตลาดวันละตอน ที่สร้างมุมมองใหม่สำหรับการหาลูกค้า ว่าเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดต้องใส่ใจในบริบทรอบตัวของลูกค้าให้มากขึ้น เพราะในยุคสมัยนี้ไม่ใช่ลูกค้าอีกแล้วที่ต้องเดินเข้าหาธุรกิจ แต่เป็นธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อเข้าหาลูกค้า 

 

1. บุคลากรภายในองค์กร

การบริการที่ดีของบุคลากรภายในองค์กรสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามาเป็นลูกค้าประจำได้

พนักงานขายและบุคลากรภายในองค์กร เป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์และการบริหารงานขององค์กรออกมาได้ชัดเจนที่สุด เพราะถึงแม้คุณจะ PR ภาพลักษณ์ไว้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่หากคุณภาพของคนในองค์กรไม่ได้เป็นดังเช่นที่กล่าวมา แบรนด์ของคุณก็สามารถมีภาพจำที่แย่ต่อลูกค้า และสร้างความเสียหายให้ธุรกิจของคุณได้ง่ายกว่าที่คิด พูดแล้วอาจจะยังไม่เห็นภาพ งั้นเราจะลองยกตัวอย่างสถานการณ์ ขึ้นมาเพื่อให้คุณเห็นภาพมากขึ้น…

เนื่องจากผู้เขียนชอบดื่มกาแฟเป็นอย่างมาก และเคยทดลองซื้อกาแฟจากร้านกาแฟสองร้าน เพื่อดูว่ากาแฟร้านไหนถูกปากมากกว่ากัน ร้านแรกเป็นกาแฟที่รสชาติดี ราคาถูก และมีที่นั่งไว้สำหรับคนทำงาน แต่พนักงานและเจ้าของร้านมีสีหน้าไม่รับแขกเอาเสียเลย ต่อให้กาแฟจะดีหรือราคาถูกอย่างไร เชื่อว่าคนที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ก็คงไม่กล้านั่งทำงานในร้านแน่ ๆ ถัดออกมาไม่ไกลเป็นร้านที่สอง ซึ่งขายกาแฟที่รสชาติแทบไม่แตกต่างจากร้านแรก ราคาแพงกว่า มีที่นั่งไว้สำหรับคนทำงานเช่นกัน แต่พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจบริการมาก ๆ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจและมักแวะเวียนไปดื่มกาแฟ นั่งทำงานร้านนั้นอยู่เสมอ แม้จะมีราคาสูงกว่าก็ตาม

สถานการณ์ที่สองเป็นเรื่องราวของคนที่ผู้เขียนรู้จัก เขาไปสมัครงานในบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง เนื่องจากชื่นชมจุดยืนของแบรนด์ และชื่นชอบในภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นอย่างมาก แต่เมื่อได้พูดคุยกับฝ่ายบุคคลขององค์กรดังกล่าว เขากลับรู้สึกผิดหวังสุด ๆ  เพราะฝ่ายบุคคลมีทัศนคติที่แย่และพูดจาไม่ให้เกียรติคนที่มาสมัครงานเอาเสียเลย หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่อุดหนุนแบรนด์ดังกล่าวอีก รวมถึงได้โพสต์เรื่องราวที่พบเจอมาลงโซเชียลมีเดียอีกด้วย เรียกได้ว่า ถึงจะเป็นลูกค้าประจำมาตลอด แต่ก็ตัดขาดกับแบรนด์ได้ด้วยการเจอบุคลากรขององค์กรที่ไม่มีคุณภาพนั่นแหละนะ ดังนั้นก่อนที่คุณจะเริ่มหาลูกค้า คุณจะต้องคัดกรองบุคลากรภายในองค์กรของคุณให้มีคุณภาพเสียก่อน ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เลยล่ะ

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

2. จับมือกับธุรกิจอื่น

Brand Coordination จับมือร่วมกับธุรกิจอื่นเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า

หากคุณต้องการหาลูกค้าใหม่ ๆ อย่ามัวไปโฟกัสอยู่กับลูกค้ากลุ่มเดิม ๆ เพราะการกล้าออกจากกรอบการตลาดแบบเก่าอาจทำให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกวันนี้คุณอาจเห็นข่าวมาบ้าง ว่าธุรกิจนั้นจับมือกับธุรกิจนี้ Youtuber คนนั้นไปเป็นแขกรับเชิญของ Youtuber คนนี้ ทราบไหมว่าการทำธุรกิจในรูปแบบนี้ นอกจากจะเพื่อสร้างให้ฐานธุรกิจมีบริการที่หลากหลายมากขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งคือ การร่วมมือกับธุรกิจอื่นที่ส่งเสริมกันและกันได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยขยายฐานลูกค้าได้ยังไงล่ะ! ดังนั้นหากคุณอยากให้ธุรกิจมีความหลากหลายมากขึ้น การหาอีกธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายกันก็ดูจะเป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างข่าวล่าสุด ที่พูดได้เลยว่าเป็นการตลาดที่กำลังมาแรงต้อนรับเดือนแห่งความรัก

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าศาลเทพเจ้าหน้าลานเซนทรัลเวิลด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องการขอพรในเรื่องความสมหวังและความรัก  แอปพลิเคชันหาเพื่อนรู้ใจอย่าง Tinder จึงได้จับมือทำแคมเปญร่วมกับ Centralworld ชื่อว่า “LOVE DESTINATION Eat Play Love” ระหว่างวันที่ 7-28 กุมภาพันธ์ 2022 สำหรับใครที่อยากสมหวังเรื่องความรักก็ลองไปดูกันได้ หรือถ้าใครเป็นสายไม่อินกับความรักแบบคู่รักก็พาเพื่อนพาครอบครัวไปเดินเล่นหาของอร่อย ๆ ทานได้เหมือนกันนะ เพราะงานนี้เขามีทั้งร้านขายของและเตรียมกิจกรรมสนุก ๆ ไว้มากมายเลยทีเดียว 

Tinder x Centralworld

ที่มา Centralworld

 

3. ธุรกิจของคุณสร้างคุณค่าให้สังคมอย่างไรบ้าง

การสร้างคุณค่าให้กับสังคมของธุรกิจในปัจจุบัน

อย่างที่เกริ่นมาตอนต้นว่าการตลาดยุคใหม่ คุณต้องใส่ใจบริบทรอบตัวให้มากขึ้น  เริ่มจากการนำเสนอว่าธุรกิจของคุณ สามารถสร้างคุณค่าให้กับสังคมได้อย่างไรบ้าง (อย่างจริงใจ) เช่น แบรนด์เสื้อผ้าของคุณสนับสนุนผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ และมีการออกแบบที่ไม่ยึดติดอยู่กับ Beauty Standard มีหลายทรง หลายไซซ์ หลายสี ให้ลูกค้าทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ หรือ ธุรกิจร้านอาหารของคุณหากมีอาหารที่ขายไม่หมดก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับบุคคลไร้บ้าน หรือลดราคาพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิด Food Waste เป็นต้น 

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

4. หาลูกค้าใหม่ด้วย Real Time Marketing

Real Time Marketing to Viral Marketing

การหาลูกค้าด้วยเทคนิคการตลาดแบบ Real Time เป็นวิธีที่จะหาลูกค้าหน้าใหม่เข้ามายังธุรกิจของคุณได้ง่ายที่สุด เพราะคุณสามารถแทรกแบรนด์ของคุณให้เข้าไปอยู่ในสิ่งที่กำลังเป็นกระแสในขณะนั้นได้ เพิ่มโอกาสที่แบรนด์ของคุณจะเป็นที่มองเห็นจากบุคคลภายนอก หลังจากที่สามารถหาลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามายังหน้าแฟนเพจหรือเว็บไซต์ของคุณได้แล้ว ก็เริ่มกลยุทธ์ทางการตลาดอื่น ๆ เพื่อมัดใจลูกค้าต่อได้เลย สำหรับใครที่อยากรู้เทคนิคในการทำ Real Time Marketing เพิ่มเติม ทาง Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress ก็เคยมีบทความ 5 เทคนิคในการทำ Real Time Marketing หากลุ่มเป้าหมายด้วยการโหนกระแส ไว้ให้ทุกคนได้อ่านกัน พร้อมกรณีศึกษามากมายที่คนทำธุรกิจควรระวัง เพื่อให้แบรนด์ของคุณมีคุณภาพและสามารถมัดใจลูกค้าได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่นั่นเอง 

 

สรุป

การหาลูกค้าใหม่และเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าประจำ การผลิตคอนเทนต์เยอะ ๆ และป้อนข้อมูลเยอะ ๆ ไปยังโซเชียลมีเดีย ยัดเยียดตัวเองไปให้ลูกค้าเห็นบ่อย ๆ เป็นวิธีการหาลูกค้าแบบเก่าที่ไม่ค่อยเห็นผลแล้วในยุคสมัยนี้ หากคุณอยากจะได้ใจลูกค้าจริง ๆ แล้วล่ะก็ คุณต้องศึกษาบริบทรอบตัวลูกค้าเสียก่อน อย่างเช่นว่า เวลาไหนที่คนจะเล่นโซเชียลมีเดียมากที่สุด เศรษฐกิจในช่วงนี้เป็นอย่างไร อะไรกำลังเป็นกระแส เป็นต้น เพื่อที่จะฉวยโอกาสในช่วงเวลาเหล่านั้นมาขายสินค้าและบริการ รับรองว่าหากแบรนด์ของคุณอยู่ถูกที่ ถูกเวลา คุณจะสามารถเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าจดจำ และสามารถทำให้ลูกค้ามีทัศนคติเชิงบวกต่อแบรนด์ของคุณได้อย่างแน่นอน

 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]