Reading Time: < 1 minute
< 1 minute
Jul 14, 2020

คิดคอนเทนต์ไม่ออก แก้ด้วยเคล็ดลับ ฉบับ Cotactic

คิดคอนเทนต์ไม่ออก ทำยังไงดี !

“ตัน ตัน ตัน !  นั่งหน้าคอมทั้งวันก็ยังคิดคอนเทนต์ไม่ออก !”  

ปัญหายอดฮิตที่เหล่า Content Creator ทุกคนต้องเจอกันเป็นประจำ พอคิดคอนเทนต์ไม่ออกจะดันทุรังทำต่อก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย บางทีก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับงาน แต่เดี๋ยวก่อน! เราจะปล่อยให้เกิดภาวะแบบนี้บ่อยๆ ไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียการเสียงานแน่นอน  ยิ่งในยุคที่มีคอนเทนต์ใน social media อัพโหลดกันทุกๆ วินาที เรายิ่งต้องนำเสนอให้เร็วที่สุด เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในเวลานั้น หากช้าไปเพียง 1-2 ชั่วโมง คอนเทนต์ของเราก็อาจจะเชย และไม่ได้รับ engagement เท่าที่ควร 

และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ Content Creator ที่ต้องกับปัญหาเหล่านี้ เอเจนซี่อย่างเราที่ต้องทำคอนเทนต์กันอยู่ทุกวันก็ล้วนเจอปัญหานี้ด้วย แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเราเลย เพราะว่าทางเรามีเคล็ดลับดีๆ เพื่อให้งานเดิน คอนเทนต์ปัง และไอเดียพุ่งอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้ เราจึงอยากมาแชร์ทริคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเคล็ดลับการแก้ปัญหาความคิดตันให้ทุกคนได้ฟังกัน รับรองว่าถ้าคุณรู้และลองทำตามทริคเหล่านี้ คุณจะมีทิศทางในการคิดคอนเทนต์ ช่วยให้งานของคุณไ

 


 

1. คิด Content ไม่ออกลองหยิบ Content Case Study ดูสิ

ลองทำคอนเทนต์แชร์ Case Study ของลูกค้า งานไหนที่ดี งานไหนเป็นหน้าเป็นตา หยิบขึ้นเอามาพูด อย่าได้ปล่อยผ่าน ใส่รายละเอียดลงไป อะไรคือความท้าทายในงานนี้ คุณแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างไร หรือหากคุณเป็นแบรนด์ใหม่ในวงการลองหยิบยกแบรนด์ใหญ่ๆ ขึ้นมาพูด นำข้อมูลมาวิเคราะห์และใส่ความคิดเห็นลงไป อย่างเช่น หากคุณเป็น ดิจิทัลเอเจนซี่ ลองหาแบรนด์ระดับโลกที่มีกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ นำมาวิเคราะห์และแบ่งปันให้กับ Audience ของคุณ รับรอง คุณมีไอเดียใหม่ๆ มาเขียนคอนเทนต์ได้สบาย

2. ทำ Content Tips หรือ How to ใช้ได้ทุกสถานการณ์แน่นอน

นอกจากการเขียนคอนเทนต์แนวแชร์ Cast Study แล้ว การเขียนรีวิว แชร์ไอเดีย ทริค หรือเคล็ดลับในด้านที่คุณถนัด ก็ยังคงเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในสายงานที่คุณกำลังนำเสนออีกด้วย แถมยังเป็นการแบ่งปันความรู้ให้กับคนที่ติดตามของคุณ นับว่าเป็นอีก 1 ทริคดีๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการเขียนคอนเทนต์ได้ตลอด ตัวอย่างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับประเภทนี้ เช่น “5 เทคนิคการทำ Storyboard ฉบับมือโปรเขาทำกัน!” หรือ “7 เหตุผลที่เจ้าของธุรกิจควรใช้เทคนิค SEO” เป็นต้น

3. เบื่อ Content จริงจัง เปลี่ยนมาทำ Content Quote หรือ Inspiration 

บางที่การเขียนคอนเทนต์ของคุณก็ไม่จำเป็นต้องมีสาระความรู้อยู่เสมอไป เพราะนั่นอาจจะทำให้ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านเกิดการเบื่อ รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย ดังนั้นคุณอาจลองเปลี่ยนมาใช้วิธีที่เข้าถึงคนง่ายขึ้น อย่างเช่น การเขียนคำคม หรือข้อความที่สร้างกำลังใจให้กับผู้ที่เข้ามาอ่าน อาจเป็นคำที่คุณคิดขึ้นมาเอง หรือจะเอามาจากคนดังก็ได้ บางทีการนำคำคมหรือข้อความเหล่านี้มาเขียน อาจช่วยให้คอนเทนต์ของคุณดูไม่จำเจจน และดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม

4. คิดคอนเทนต์ไม่ออก งั้นลองเอา Realtime Content มาใช้เลย

การนำข่าวสารบ้านเมือง หรือเทรนด์ที่คนพูดถึงในโลกโซเชียล มาเขียนเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบของคุณ ซึ่งคอนเทนต์แบบนี้จะเขียนขึ้นได้ง่าย เพราะเป็นเรื่องและกระแสที่ใครๆ ต่างก็รู้ เข้าถึงได้ เขียนขึ้นเมื่อไหร่ทุกคนก็เข้าใจตรงกันหมดว่าคุณกำลังกล่าวถึงอะไร ทำให้คอนเทนต์ของคุณเป็นที่น่าสนใจ สดและใหม่อยู่ตลอดเวลา แถมยังทำให้เพจของคุณน่าสนใจขึ้นอีกด้วย เช่น การอัปเดตอัตราผู้ติดเชื้อโควิด19 ประจำวัน หรือจะเป็นเรื่องแอพฯ Tiktok ที่มีคนเล่นเป็นจำนวนมาก เป็นต้น 

บทความที่เกี่ยวข้อง :  5 เทรนด์การตลาด ที่เปลี่ยนไปในช่วง COVID19 และ เปิดเทรนด์ Content Marketing ที่น่าสนใจในปี 2021


ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เป็นเคล็ด(ไม่)ลับ ที่ทางเราได้หยิบยกขึ้นมาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และลองนำไปใช้ สำหรับใครที่เจอปัญหาคิดคอนเทนต์ไม่ออก หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้เข้ามาอ่านทุกคนนะคะ อ้อ ! และที่สำคัญอย่าลืมนำทริคเหล่านี้ไปวางแผนและปรับใช้ในการทำงานของคุณด้วย เพื่อให้คุณได้มีทิศทางในการคิดคอนเทนต์ ช่วยให้งานของคุณไม่สะดุด และทำให้เพจของคุณได้รับ engagement ที่ดีอย่างแน่นอน !

หากใครคิดคอนเท้นเองไม่ออกและกำลังต้องการความช่วยเหลือก็สามารถติดต่อ Cotactic ได้เลย เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการตลาดทุกรูปแบบ เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุดของคุณ เราให้บริการตั้งแต่รับทำเว็บไซต์ WordPress ไปจนถึงการตลาดออนไลน์ในรูปแบบต่างๆอีกด้วย

อ่านบทความของเราเพิ่มเติมได้ที่ https://cotactic.com/blog


 

 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]