ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลยุทธ์การตลาดอย่าง Influencer Marketing นั้น คือสุดยอดกลยุทธ์คุณภาพที่หลากหลายแบรนด์ทั่วโลกต่างเลือกใช้ เพราะนอกจากจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ได้อย่างมหาศาลแล้ว มันยังยืดหยุ่นมากพอที่จะทำงานควบคู่กับกลยุทธ์อื่นได้อย่างอิสระ สามารถเติมเต็มความต้องการของตัวธุรกิจที่ใช้ได้อย่างลงตัว แต่เมื่อไม่นานมานี้ การมาถึงของ Virtual Influencer ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งสำคัญให้กับวงการ Digital Marketing จนเกิดเป็นคำถามตามมาว่า เทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ในยุคปัจจุบัน กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทแทนที่ Influencer ที่เป็นคนจริง ๆ หรือไม่ วันนี้ Cotactic บริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPressและการตลาดออนไลน์มีคำตอบครับ
Virtual Influencer คืออะไร?
Virtual Influencer (หรือ AI Influencer) คืออินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์กราฟิก ให้มีภาพลักษณ์ บุคลิกท่าทาง และไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ในทุกมิติ โดยตัว AI นั้นมีต้นกำเนิดมาจากข้อมูลเชิงลึกจำนวนมากที่ถูกรวบรวมและวิเคราะห์ออกมาจากมนุษย์จริง ๆ มันจึงทำให้พวกเขามีภาพลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นน่าดึงดูด เหมาะสมกลมกลืนกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่พวกเขาใช้ได้อย่างลงตัว
เครดิตภาพ IG : katii.katie
ซึ่ง Virtual Influencer ที่ถูกสร้างขึ้นในปัจจุบันนั้น ก็ไม่ใช่ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่คิดเองได้เหมือนในโลกภาพยนตร์ การจัดการ Virtual Influencer ให้สามารถทำงานร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ ยังคงต้องอาศัยทีมงานเบื้องหลังในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่คอยปรับแต่งโค้ด, ทีมคาแร็คเตอร์ดีไซน์ที่ออกแบบภาพลักษณ์ ท่าทาง การเคลื่อนไหว หรือไดเร็คเตอร์หลักที่คอยกำหนดไลฟ์สไตล์และการแสดงออกทางความคิดของพวกเขา
ติดต่อ COTACTIC
ให้ COTACTIC ติดต่อกลับ
Virtual Influencer กับวงการ Digital Marketing
ด้วยความที่เป็นตัวตนเสมือนไม่มีอยู่จริง Virtual Influencer จึงมีความยืดหยุ่นและต่อยอดกลยุทธ์การทำงานได้มากกว่ามนุษย์ มันเลยทำให้ตัวธุรกิจหรือองค์กรชั้นนำทั่วโลกหันมาร่วมงานกับพวกเขามากขึ้น ประจวบเหมาะกับในยุคปัจจุบันที่สังคมโลกกำลังเผชิญเข้ากับวิกฤติโควิด 19 การร่วมงานกับ Virtual Influencer จึงกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่าเพราะไม่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อีกทั้งยังสามารถควบคุมการแสดงออกได้ตามแต่ใจต้องการ ตัวธุรกิจจึงมีช่องทางในการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดได้อย่างเต็มที่ สามารถประยุกต์ใช้งานให้เหมาะสมกับยุคสมัยได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างการทำการตลาดเช่น
1.Shinhan Life กับ Rozy
Shinhan Life เป็นบริษัทประกันภัยที่เพิ่งเปิดตัวในเกาหลีใต้ พวกเขาสร้างสรรค์แคมเปญ Shinhan Life Adds Surprises to Life ขึ้นเพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยดึงตัว “Rozy” Virtual Influencer คนแรกของเกาหลีใต้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สิ่งที่ทำให้โฆษณาตัวนี้มีความน่าสนใจคือลูกเล่นการนำเสนอ ที่มีการให้ Rozy มาเต้นประกอบเพลงกับกลุ่มนักแสดงที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ซึ่งท่าเต้นและเพลงที่ถูกนำมาใช้ ถูกวิเคราะห์แล้วเลือกสรรมาเป็นอย่างดี นับเป็นการทำ Digital Marketing รูปแบบใหม่ ที่มีการนำเอาเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ได้อย่างลงตัว
เครดิตภาพจาก IG : rozy.gram
2.AIS กับ Ailynn
ไม่นานมานี้ บริษัท AIS ได้ประกาศร่วมงานกับ Ailynn อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงจากประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการทำการตลาดในยุคดิจิทัล ให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยี Metaverse ที่กำลังจะมาถึง โดยการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของตัวแบรนด์ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานได้ใกล้ชิดกับโลกเสมือนจริงมากยิ่งขึ้น ถือเป็นแคมเปญการตลาดที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ตัวแบรนด์ดูทันสมัยและพร้อมก้าวทันเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตภาพจาก IG : ai_ailynn
3.Ayayi กับ Guerlain
เมื่อกลางปีที่ผ่านมา Guerlain แบรนด์น้ำหอมหรูชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศส ได้เริ่มต้นแคมเปญ Beeloved Garden ขึ้นที่เซียงไฮ้ โดยเชิญ KOL มากมายเข้าร่วมงาน โดยหนึ่งในแขกสุดเซอร์ไพรส์ที่ Guerlain ได้เชิญไปนั้นก็คือ Ayayi อินฟลูเอ็นเซอร์เสมือนจริงจากประเทศจีน โดยทันทีที่ภาพถ่ายของเธออัปโหลดขึ้นบนโลกออนไลน์ Ayayi ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทั่วโลก นับเป็น Virtual Influencer คนแรกที่ Guerlain ร่วมงานด้วยอย่างเป็นทางการ
เครดิตภาพจาก AYAYI’s Red Account; AYAYI at Guerlain’s “Beeloved Garden” event
ทำไม Virtual Influencer ถึงมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีกว่ามนุษย์
แม้จะมีไลฟ์สไตล์และทิศทางการแสดงออกที่ต่างกันไป แต่อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคาแร็คเตอร์ที่ถูกคิดและสร้างขึ้นเพื่อทำธุรกิจโดยเฉพาะ จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะมีคุณสมบัติของการเป็นคนดังบนโลกออนไลน์ครบทุกข้อ ดังนั้นการร่วมงานกับ Virtual Influencer จึงให้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างจากมนุษย์จริง ๆ เท่าไหร่นัก แต่ในขณะเดียวกัน การร่วมงานกับพวกเขาก็อาจสร้างผลลัพธ์หรือจุดกระแสบางอย่างบนโลกออนไลน์ได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะในปัจจุบันความสนใจของผู้บริโภคบนอินเทอร์เน็ต มักจะหันไปโฟกัสกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ การที่แบรนด์หรือตัวธุรกิจไหนประกาศร่วมงานกับ Virtual Influencer นอกจากจะได้รับความสนใจมหาศาลแล้ว ยังเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยและสอดคล้องไปกับยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของ Virtual Influencer ที่มนุษย์จริง ๆ ไม่สามารถเทียบได้
- ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อย่างที่ทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 คืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้การทำงานในปัจจุบันต้องเกิดความล่าช้าและเกิดความผิดพลาด แต่ไม่ใช่กับ Virtual Influencer พวกเขาสามารถทำงานได้ทุกที่ ปรากฏตัวได้ทุกเวลา เข้าร่วมได้ในทุกกิจกรรม(บนโลกออนไลน์) โดยไม่มีปัญหาด้านสุขภาพมาเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
- สร้างสรรค์การนำเสนอได้อย่างอิสระ เนื่องจากพวกเขาคือ CGI การนำเสนอพวกเขาให้ออกมาในรูปแบบต่าง ๆ จึงทำได้ค่อนข้างอิสระ ผู้สร้างสรรค์แคมเปญสามารถวางเนื้อหาหรือกำหนดทิศทางการแสดงออกได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ความต้องการของตัวธุรกิจได้อย่างลงตัว
- ไม่มีเรื่องเสื่อมเสียหรือการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม ในบางครั้งอินฟลูเอ็นเซอร์ที่แบรนด์ร่วมงานด้วยก็อาจมีทัศนคติหรือการวางตัวที่ไม่เหมาะสมจนเกิดปัญหาตามมา ซึ่งมันอาจบานปลายจนกลายเป็นกระแสด้านลบที่ส่งผลเสียแก่ตัวแบรนด์ได้โดยตรง แต่กับ Virtual Influencer แล้ว พวกเขามีโอกาศผิดพลาดในเรื่องนี้น้อยมาก เพราะการแสดงออกของพวกเขาจะถูกกำหนดจากทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านอีกที ดังนั้นทุกสิ่งที่พวกเขาแสดงออกไปจะถูกคัดกรองและตรวจสอบล่วงหน้าเสมอ เราจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องเสื่อมเสียหรือการแสดงออกที่ไม่ควรอย่างแน่นอน
- ทำงานได้ในทุกแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ Virtual Influencer เป็นตัวตนที่สามารถทำงานได้เป็นอย่างดีบนโลกดิจิทัล พวกเขาสามารถทำงานบนโลกเสมือน Metaverse และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำ Digital Marketing ในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Virtual Influencer ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
1.Rozy (IG : rozy.gram)
Virtual Influencer คนดังจากเกาหลีใต้ เธออายุ 22 ปี มีผู้ติดตามบน IG มากกว่าหนึ่งแสนคน Rozy ร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เปิดตัวไม่ว่าจะเป็น วงการแฟชั่น อุตสาหกรรมอาหาร หรือกีฬา โดยตัว Rozy เองยังมีโอกาสได้เดบิวท์งานเพลง Who Am I ที่มีกระแสตอบรับดีมาก ๆ บนโลกออนไลน์ นับแค่เฉพาะบน TikTok ก็มียอดผู้เข้าชมมากถึง 10 ล้านวิวเลยทีเดียว
เครดิตภาพ IG : rozy.gram
2.Ai-Ailynn (IG : ai_ailynn)
ไอรีนเป็น Virtual Influencer จากประเทศไทยที่ได้รับเลือกให้เป็น Brand Ambassador ของ AIS เธออายุ 21 ปี มีอาชีพเป็นครีเอทีฟ มีความสามารถพิเศษคือการเต้น เล่นดนตรี และมีความสนใจในเรื่องของการถ่ายภาพ ด้วยความที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เธอได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่บนโลกออนไลน์ ซึ่ง IG ส่วนตัวของเธอนั้นก็มีผู้ติดตามสูงถึงสองหมื่นคนเลยทีเดียว
เครดิตภาพ IG : ai_ailynn
3.Katii (IG : katii.katie)
กะทิ (หรือ Katii/ Katie) เป็น Virtual Influencer อายุ 22 ปีจากประเทศไทยที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Jimmy Choo, Breitling, Bottega Veneta หรือ Fendi เรียกได้ว่าตั้งแต่เธอเปิดตัวมา กะทิก็ได้ขึ้นปกนิตยสารมาแล้วมากมาย อีกทั้งยังเคยได้ร่วมถ่ายรูปเฟรมเดียวกับดาราและนางแบบที่มีชื่อเสียง จนเป็นกระแสโด่งดังในทุกโซเชียลเลยทีเดียว
เครดิตภาพ IG : katii.katie
4.Lil Miquela (IG : lilmiquela)
Miquela ถือเป็น Virtual Influencer คนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นบนโลกออนไลน์ เธอเปิดตัวในปี 2016 ด้วยลุคของสาวลูกครึ่งสัญชาติบราซิล-อเมริกันที่มีไลฟ์สไตล์จัดจ้านเหมือนมนุษย์จริง ๆ โดยตัว Miquela นั้นถือเป็น Virtual Influencer ยุคบุกเบิกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เธอเคยร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Samsung, Chanel หรือแท้กระทั่ง Prada
เครดิตภาพ IG : lilmiquela
5.Ayayi (IG : ayayi.iiiii)
Ayayi เป็น Virtual Influencer จากประเทศจีนที่มีผู้ติดตามบนแพลตฟอร์ม Weibo สูงถึงห้าแสนคน เธอเป็นสาวเสมือนจริงที่มีรูปลักษณ์หน้าตาโดดเด่น มีความเป็นแฟชั่นนิสต้าสูงจนคนแทบแยกไม่ออกว่าเป็น CGI หรือเป็นมนุษย์จริง ๆ เธอเคยร่วมงานกับแบรนด์น้ำหอมชื่อดังอย่าง Guerlain และยังถูกเชิญให้ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์ของ Louis Vuitton ในฐานะ Influencer อีกด้วย
เครดิตภาพ IG : ayayi.iiiii
ซึ่งถึงแม้ว่า Virtual Influencer จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลลัพธ์ในการทำ Digital Marketing ได้ดีกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าการร่วมงานกับ Influencer ที่เป็นคนจริง ๆ นั้น ก็ยังมีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่ดี เพราะถึงบุคลิกและภาพลักษณ์ของ Virtual Influencer จะมีความสวยสมบูรณ์แบบมากสักแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นแค่ CGI ที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง พวกเขาไม่สามารถรีวิวสินค้า หรือทดลองใช้บริการอะไรได้เหมือนกับมนุษย์ ดังนั้นเรื่องความน่าเชื่อถือหรือการโน้มน้าวใจจึงอาจทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
เราจึงพอสรุปได้ว่าในปัจจุบันนี้ Virtual Influencer ก็ยังไม่สามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ มีการทำงานในอีกหลายแง่มุมที่เรายังต้องพึ่งพามนุษย์จริง ๆ อยู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เมื่อยุคของ Metaverse มาถึง เทคโนโลยีที่พัฒนา Virtual Influencer อาจจะก้าวล้ำสมัย จนตัวตนเสมือนเหล่านี้เข้ามาทำงานแทนที่คนจริง ๆ ได้ในที่สุด
หากธุรกิจคุณต้องการที่ปรึกษา ต้องการทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้แก่ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้
โทร.065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://bit.ly/cotactic
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.dailygizmo.tv/2021/10/18/ai-ailynn-ais/
https://brandinside.asia/ais-ai-ailynn/
https://daxueconsulting.com/ayayi-first-metahuman-china-guerlain-event/
