June 22, 2022

PDPA คืออะไร? มีผลต่อธุรกิจและการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างไร

Reading Time: 2 minutes

เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการวางกลยุทธ์การตลาด การเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า และการนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์เพื่อใช้งานต่ออย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ ช่องทางการติดต่อ ความชอบ หรือประวัติการซื้อสินค้า ฯลฯ ล้วนมีประโยชน์ต่อการคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักว่า PDPA คืออะไร? ส่งผลต่อการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการทางธุกิจหรือไม่พร้อมเรียนรู้เทคนิคการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับนี้ไปด้วยกัน

 

PDPA คือ

 

PDPA คืออะไร

 

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) พ.ศ. 2562 หรือที่เรียกกันว่า PDPA คือ กฎหมายที่ป้องกันการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นไปใช้ประโยชน์ โดยมุ่งคุ้มครองเจ้าของข้อมูล และมีมาตรการเยียวยาในกรณีที่ถูกนำข้อมูลไปใช้โดยมิชอบ พระราชบัญญัติฉบับนี้คุ้มครองทั้งข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ประวัติการรักษา ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ไม่ได้ห้ามธุรกิจและองค์กรรวบรวมข้อมูลไปใช้ แต่ต้องนำไปใช้อย่างเหมาะสม และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน 

 

กลยุทธ์การตลาดเกี่ยวข้องกับ PDPA อย่างไร

 

เนื่องจากการวางกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) ต้องอ้างอิงจากกลุ่มเป้าหมาย ทีมการตลาดจึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปหาลูกค้าได้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ด้วย ซึ่งในอดีตอาจรวบรวมข้อมูลส่วนนี้ผ่านบันทึกการสั่งซื้อ ข้อมูลการติดต่อทาง Social Media หรือแบบสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภค และนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างเสรี แต่ปัจจุบัน ก่อนจะนำข้อมูลไปใช้ เจ้าของข้อมูลต้องยินยอมด้วยความสมัครใจ เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง และดูแลความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

 

พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

วางกลยุทธ์การตลาดอย่างไรไม่ให้ผิด PDPA

 

สร้างเอกสารขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

หลายธุรกิจอาจมีนโยบายเรื่องเอกสารขอความยินยอมอยู่แล้ว แต่เมื่อกฎหมาย PDPA มีผลบังคับใช้ ก็ควรเข้มงวดกับการใช้เอกสารฉบับนี้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องการเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำไปประมวลผล และทำแคมเปญการตลาดต่อ เช่น Telemarketing, Email Marketing, การส่ง SMS หรือการแจก Gift Voucher ผ่านทางช่องทางส่วนตัวต่าง ๆ ทั้งนี้ ภายในเอกสารควรระบุวัตถุประสงค์และระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อความโปร่งใสและทำให้ลูกค้าไว้วางใจ

 

Reading Time: 2 minutes

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

ให้ความสำคัญกับการรักษาความลับ

ควรมีระบบฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ จัดหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ และจำกัดคนที่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ารั่วไหล ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจได้

 

วางแผนการใช้ภาพถ่ายให้รัดกุม

การถ่ายภาพเพื่อโปรโมทสินค้า คือหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ขาดไม่ได้ ในอดีตธุรกิจห้างร้านอาจถ่ายภาพลูกค้าคู่กับสินค้า หรือจ้างนายแบบ – นางแบบถ่ายภาพโปรโมทสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วลงเผยแพร่ในช่องทางของตัวเองทันที แต่เมื่อมีกฎหมาย PDPA การถ่ายภาพลูกค้าเพื่อเผยแพร่ต้องได้รับความยินยอมก่อน เช่นเดียวกับการถ่ายติดภาพคนอื่นลงในสื่อโฆษณา ดังนั้น จึงควรวางแผนเรื่องการถ่ายภาพให้รัดกุม และขอความยินยอมให้เรียบร้อยก่อนถ่ายทำ

 

อยากนำข้อมูลไปใช้ทำอย่างอื่น ต้องขอความยินยอมใหม่

ในกรณีที่เคยขออนุญาตใช้ข้อมูล และได้รับความยินยอมแล้ว แต่ภายหลังเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดใหม่ และต้องการนำข้อมูลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น นำข้อมูลไปใช้ทำแคมเปญการตลาดใหม่ หรือนำข้อมูลลูกค้าไปใช้ใน Facebook Page อื่น ๆ ที่เจ้าของธุรกิจสร้างขึ้น ก็จำเป็นต้องขอความยินยอมให้ชัดเจนอีกครั้ง

 

PDPA

 

สิทธิ์ของลูกค้าในกฎหมาย PDPA 

 

1.ขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล

ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูล มีสิทธิ์เข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลได้ หากพบว่าตนไม่เคยยินยอมให้ใช้ข้อมูลเหล่านั้น

 

2.ขอให้แก้ไขข้อมูลใหม่

เมื่อต้องการอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หรือพบว่ามีข้อมูลผิด ลูกค้าสามารถขอให้แก้ไขข้อมูลใหม่ได้

 

3.ขอให้ระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว

ในระหว่างการตรวจสอบเพื่อแก้ไขข้อมูลใหม่ ลูกค้ามีสิทธิ์ขอให้ธุรกิจระงับใช้ข้อมูลดังกล่าวได้

 

4.ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลถาวร 

แม้ลูกค้าจะเคยลงนามยินยอมให้ใช้ข้อมูลแล้ว ก็สามารถขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลในภายหลังได้เสมอ 

Reading Time: 2 minutes

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


การบังคับใช้กฎหมาย PDPA อาจทำให้ทุกธุรกิจต้องเรียนรู้ และปรับขั้นตอนการทำงานใหม่ แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นี่คือโอกาสอันท้าทายที่จะได้จัดระเบียบข้อมูลของลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งได้ลองคิดกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ภายใต้สมรภูมิแห่ง Digital Marketing ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด และที่สำคัญที่สุด นี่คือโอกาสในการสร้างมาตรฐานใหม่ ให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจ และเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณตลอดไป

 


 

หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

 

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 


 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

https://bit.ly/3zH4X9B 

https://bit.ly/3xxLbdH 

bbc.com

thairath.co.th

bangkokbiznews.com

 

Facebook Comment
บทความที่เกี่ยวข้อง

PBN คืออะไร จำเป็นต้องทำไหม และส่งผลดีอย่างไรบ้าง ?

Reading Time: 2 minutes การทำ SEO ถือเป็นกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานของการทำการตลาดในยุคดิจิทัล ที่จะช่วยดันเว็บไซต์ของตัวธุรกิจให้ขึ้นไปติดอันดับต้น ๆ บนหน้าค้นหาของ Google ส่งผลให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเจอเว็บไซต์หรือรู้จักธุรกิจของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในเทคนิคยอดนิยมที่บริษัทรับทำ SEO ทั่วโลกต่างเลือกใช้คงหนีไม่พ้นการทำ PBN หรือ Private Blog Network ที่จะช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพและได้ผลดีมากยิ่งขึ้น วันนี้ Cotactic จึงอยากพาผู้ประกอบการทุกท่านไปรู้จักกับ PBN กันครับว่ามันคืออะไร จำเป็นต้องทำไหม และส่งผลดีอย่างไรบ้าง   PBN คืออะไร Private Blog Network หรือ PBN คือ เครือข่ายบล็อกส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำ Backlink (Off page) ให้กับเว็บไซต์หลักที่เราต้องการโดยเฉพาะ อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาอีกหนึ่งเว็บ จากนั้นก็ทำ Backlink ย้อนกลับไปยังหน้าเพจที่เราต้องการ เพื่อส่งค่าคะแนนความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์หลักของตัวธุรกิจ เพราะยิ่งเราได้ Backlink ที่มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องมากเท่าไหร่ ตัว Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์หลักของเรามีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือมากเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การทำ SEO […]

รู้จัก 9 เครื่องมือ SEO คุณภาพที่เอเจนซี่ชั้นนำเลือกใช้

Reading Time: 3 minutes อย่างที่ทราบกันดีว่าการทำ SEO จำเป็นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ที่มากพอ ถึงจะสามารถทำให้ตัวเว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่นอกจากความรู้และประสบการณ์ที่เราต้องมีแล้ว การเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม วันนี้ Cotactic จึงอยากจะมาแนะนำ 9 เครื่องมือ SEO คุณภาพที่นักการตลาดและบริษัทรับทำ SEO ทั่วโลกต่างเลือกใช้   1. Google Search Console เครื่องมือ SEO ที่ได้รับความนิยมจากนักการตลาดออนไลน์ทั่วโลก มันเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราตรวจสอบคุณภาพและหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด ทำให้เราสามารถติดตามผลลัพธ์และดูรายงานการเข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic ได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้คนทำ SEO สามารถปรับปรุงเว็บไซต์และวางกลยุทธ์ในการทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งตัวเครื่องมือยังเปิดให้ใช้งานได้ฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ   เริ่มต้นใช้งานได้ที่นี่ Google Search Console   2. Google Analytics Google Analytics คือเครื่องมือ SEO ที่ใช้ในการวิเคราะห์และเก็บสถิติต่าง ๆ ของตัวเว็บไซต์ ว่าคนที่กดคลิกเข้ามานั้นเป็นใคร เพศอะไร อายุเท่าไหร่ เข้ามาผ่านช่องทางไหน […]

404 not found คืออะไร ? ส่งผลแค่ไหนกับการทำ SEO

Reading Time: 3 minutes เชื่อว่าสำหรับผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือท่องเว็บไซต์เป็นประจำแล้ว ต้องเคยประสบปัญหาพบเจอหน้าเพจ 404 not found มาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหานี้สร้างความน่ารำคาญใจให้กับผู้ใช้งานมากมายขนาดไหน ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เราจึงควรหมั่นปรับปรุงและดูแลเว็บไซต์อยู่ตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาน่าปวดหัวนี้เกิดขึ้นครับ   วันนี้ Cotactic จึงอยากพาเจ้าของธุรกิจทุกท่านไปรู้จักกับปัญหา 404 not found กันว่ามันคืออะไร เกิดจากอะไร และทำไมเอเจนซี่ที่รับทำ SEO ถึงให้ความสำคัญ   404 not found คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? 404 not found คือ หน้าเพจที่แสดงผลผิดพลาดจากการที่ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลแล้วไม่พบ URL ของหน้าเว็บไซต์ หรือไม่พบข้อมูลที่อยู่บน Server ของเว็บไซต์ จึงแสดงผลให้ผู้ใช้งานได้รู้ว่าหน้าเพจนี้ไม่มีอยู่ ลิงก์อาจเสียหรือหน้าเพจมีปัญหา ซึ่งสาเหตุของการเกิด 404 not found นั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายกรณีด้วยกัน เช่น  เปลี่ยนชื่อ […]

Reading Time: 3 minutes

Reading Time: 3 minutes