Reading Time: 2 Mins
2 Mins
Oct 15, 2020

ถ้าไม่ปรับ…ก็ไม่รอด อัพเดต Feature ‘Social Media’ ในปี 2021

Social Business นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้น โดยใช้ Social Media ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารแลกเปลี่ยน หรือเน้นการสร้างความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามมีแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียที่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ อาทิเช่น Google My Business แต่ก็มี โซเชียลมีเดียอีกหลายช่องทางที่สามารถเป็นช่องทางโปรโมทธุรกิจอย่าง Facebook Instagram และ YouTube

บทบาทของโซเชียลมีเดียที่มีต่อโลกธุรกิจ คือ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณโตขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมรับมือกับทุกภาวะวิกฤต โดยจากการสำรวจพบว่า ประมาณ94% ของธุรกิจทำการตลาดโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่ง เท่ากับว่ายุคนี้ผู้ประกอบการรายใดไม่ใช้โซเชียลมีเดียถือว่าตกเทรนด์ไปแล้ว 

ไม่จำเป็นจะต้องเร่งรีบในการโปรโมทการตลาดออนไลน์ หรือมุ่งมั่นเพียงแต่การทำยอดขาย ควรเน้นการสร้างแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักเสียก่อน เพื่อไม่ให้ผู้บริโภครู้สึกถูกยัดเยียดการขาย หรือ การโฆษณามากเกินไป เน้นการสื่อสารที่มีประโยชน์และมีสาระที่เป็นเรื่องที่อยู่ในกระแส พร้อมสอดแทรกความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณ ควรมีการอัปเดตอยู่บ่อย ๆ เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีและภาพจำของผู้บริโภค เราได้ลิสต์มาให้แล้ว ว่าปีที่จะถึงนี้มีอะไรอัพเดตบ้างบ้าง


กระแส Feature ลูกเล่นใหม่ๆของ Social Media ที่น่าจับตามองในปี 2021

การทำการตลาดแบบ Organic 

แบรนด์เล็กใหญ่ในยุคปัจจุบันหันมาสนใจช่องทางการตลาดออนไลน์มากขึ้น เห็นได้ชัดว่าการเติบโตของการทำ SEO หรือการตลาดโดยช่องทาง Google เพิ่มมากขึ้น เป็นช่องทางช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้าและบริการของเว็บไซต์ แค่เลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ได้ลูกค้าตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ก็ทำให้คุณภาพของ Traffic ที่เข้ามาเว็บไซต์ดีกว่าผู้ชมที่คลิกมาจากโฆษณา

หรือแม้กระทั่งการทำ YouTube SEO ที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะตอนนี้ Google พยายามจะเอาวิดีโอจาก YouTube ขึ้นมาให้เจอก่อนเว็บไซต์ เป็นข้อดีที่สามารถเชื่อมโยงวิดีโอ ไปยังหน้า Landing Page บนเว็บไซต์ ทำให้ผู้ชมเข้าถึงแบรนด์ของคุณมากยิ่งขึ้นอย่างตรงเป้าหมาย

Paid Channels

การจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณา เป็นกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจเลือกทำ เพราะผลตอบแทน หรือรายได้จากการลงทุนนั้นคุ้มค่า จากการการโปรโมทธุรกิจทันทีทันใด ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินไม่ใช้ตัวแปรสำคัญที่สุดสำหรับช่องทางนี้อย่างที่หลายคนเข้าใจ จ่ายเยอะทำให้คนสามารถเข้าถึงโฆษณาได้เยอะก็จริง แต่หากคอนเทนต์ไม่ดีพอ ก็ไม่สามารถรั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ให้สนใจได้และตัดสินใจซื้อได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตามตอนนี้ Facebook มีการลดการมองเห็นแบบ Organic Reach ลงเรื่อยๆเกือบ 100% เนื่องจาก Facebook มองว่าหากให้คนเห็นโฆษณามากจนเกินไป จนรู้สึกรำคาญและทำให้เลิกใช้แพลตฟอร์มนี้ไปในที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ตลาดโซเชียลมีเดียแบบ Organic อย่างเดียวนั้นยังไม่เพียงพอ มีการหันไปแข่งขันกันในส่วนของการแสดงโฆษณาแบบเสียเงินบนหน้า Feed ของ Facebook

จนทำให้เกิดปัญหาที่จำนวนโฆษณาในแต่ละเพจมีเยอะจนเกินไป จนทำให้การโฆษณาไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น Facebook ได้มองเห็นถึงปัญหาของการลงงบประมาณการโฆษณาบน Facebook นั้นจ่ายไปไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร โดยจะมีการจำกัดการแสดงโฆษณาของแต่ละเพจในปี 2021 ที่จะถึงนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง: สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ฉบับสมบูรณ์ อัพเดทล่าสุด 2023

นอกจากนี้ การทำการตลาดบน YouTube หรือ การซื้อโฆษณาบน YouTube ยังมีการเติบโตของผู้ใช้อย่างกว้างขวางขึ้นในอัตราเติบโตปีต่อปี และมีข่าวดีที่จะมีการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้จัดการงบประมาณของตนเองในการโฆษณาได้ยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งจะมีการเลิกการซื้อโฆษณาบนหน้าโฮมเพจแบบเต็มวัน มีผลปี 2021 ที่จะถึงนี้ 

สำหรับ Instagram พบว่า กว่า 130 ล้านคนทั่วโลกมีการกดเข้าดูข้อมูลสินค้าบนโพสต์ต่าง ๆ ในทุกเดือน ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจออนไลน์ทั้งหลายได้ลงทุนไปกับการสร้างแคมเปญโฆษณาในรูปแบบต่าง ๆ ขยายขนาดได้อย่างรวดเร็วโดยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเพิ่มมากขึ้น จากการรวบรวมสินค้าที่ต้องการนำเสนอมาไว้ในบนหน้าแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายใช้เป็นประจำ

ด้วยเครื่องมือ Instagram ที่มี Feature Instagram Shop ช่วยให้เกิดการซื้อขายกันโดยไม่มีอุปสรรค ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักช้อปในโพสต์ และช่วยผู้ประกอบการขยาย Brandawareness และ ยอดขายจากฐานความสนใจของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ หน้า Explore Tab บน Instargram ถูกพัฒนาให้ตรงความสนใจของผู้บริโภคมากขึ้นถึง 50% ถือเป็นโอกาสให้กับเจ้าของธุรกิจหลายแบรนด์เริ่มเปลี่ยนมาสนใจแพลตฟอร์มนี้เป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา

ใดๆก็ตาม หากการซื้อโฆษณาใน Social Media ต่าง ๆ จะมีความจำเป็นมากขึ้นในทุกช่องทาง อาจทำให้ค่า Cost แพงขึ้น รวมไปจนถึง Organic Reach จะลดน้อยลงตามกลไกความต้องการของผู้ใช้งาน

Avoiding FAKE News 

สืบเนื่องจากปีนี้ที่ผ่านมา COVID-19 ได้เป็นสิ่งที่ทุกคนทั่วโลกให้ความสำคัญและพยายามทำความเข้าใจกับผลกระทบต่างๆกับวิกฤติครั้งนี้ การเผยแพร่ข่าวที่ทำให้สนใจบนโซเชียลมีเดียอาจมีทั้งจริงและเท็จปะปนกันไป ทำให้เกิด Feature ข้อความแจ้งเตือน “Fact Check” ของ Twitter เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จบนโลกออนไลน์ที่ง่ายต่อการส่งต่อข่าวบิดเบือน

ซึ่งก่อนหน้านี้ Twitter ได้ออกแคมเปญปักป้ายแจ้งเตือนว่าข่าวหรือข้อความใน Tweet นี้เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ซึ่งเป็นวาระที่สำคัญของคนทั้งโลก ข่าวภัยพิบัติ ให้เช็คข้อมูลแบบ Real Time หรือเหตุการณ์สำคัญที่มีการกระจายข่าวปลอมไปทั่ว เพื่อสนับสนุนภารกิจนี้ในการนำเสนอข้อมูลแบบทันเหตุการณ์อย่างถูกต้องที่สุด เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานตกเป็นเหยื่อของ Fake News เหล่านั้น

VIDEO Platform: Social Media Stories

คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในการดู Online Video ประมาณ 16 ชั่วโมงต่ออาทิตย์เลยทีเดียว ดังนั้น Video Ads เป็นวิธีที่ดีวิธีนึงที่จะเปลี่ยนจากผู้ที่รู้จักแบรนด์เป็น ผู้ที่ซื้อสินค้าในที่สุด ช่องทางการตลาดออนไลน์รูปแบบวิดีโอนั้นสามารถดึงความสนใจจากผู้ชมได้มากกว่าคอนเทนต์ที่เป็นภาพพนิ่ง และมีโอกาสในการจดจำที่ง่ายและได้รับความสนใจมากกว่า เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาเลือกซื้อหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้ในที่สุด

เห็นได้ชัดว่า Instagram เริ่มให้ความสำคัญกับ VIDEO Platform มากขึ้น โดยพัฒนา IGTV เป็นอีกช่องทางที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ทำให้อาจมีการพัฒนาศักยภาพที่จะสามารถแข่งขันกับ YouTube โดยตรงในปี 2021 ที่จะมาถึง เนื่องจาก มีการทำเงินผ่านการมี Ads หรือโฆษณาในวิดีโอตัวเองได้

และเมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดตัว Instagram Reels ช่วยเพิ่ม Engagement ได้ดีมากยิ่งขึ้น จากการแสดงคอนเทนต์เพียง 15 วินาที ถือเป็น Subset ของ IGTV Instagram พัฒนาเครื่องมือการช้อปปิ้งอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีการคาดเดาว่าปี 2021 ที่จะมาถึงนั้นจะมีการเพิ่มแท็กของวิดีโอสำหรับสินค้าในวิดีโอ เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อโดยตรงได้มากขึ้น

มากกว่านั้นอาจมีการเสริม Feature ใหม่ โดยอาจทำให้ IG Story แสดงหน้า Feed หลัก คล้ายๆของแอป TikTok อีกด้วย เนื่องจากปีนี้ที่ผ่านมาการโปรโมทสินค้าผ่าน Influencer ในช่องทาง IG Story นั้นสามารถสร้าง Impact ให้กับแต่ละแบรนด์ได้อย่างมาก  

หากคุณได้ลองอ่านบนความข้างต้นกันไปแล้วเรียบร้อย จะเห็นว่าการใช้ Social Media มีความสำคัญมากขึ้นในการทำธุรกิจในทุกแพลตฟอร์ม เนื่องจากพฤติกรรม และ ความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็จของผู้บริโภคทำให้เจ้าของกิจการต่างๆ ต้องตามให้ทัน Feature ใหม่ๆของโซเชียลมีเดีย ในปี 2021 ที่จะถึงนี้ เพื่อเอาใจผู้บริโภคคนสำคัญของคุณ เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ Cotactic Digital Marketing Agency และเทคนิคการโปรโมทโฆษณาใหม่ๆ พร้อมข้อเสนอบริการรับทำเว็บไซต์ WordPress ที่ดีที่สุดจากเราได้แล้ววันนี้

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://cotactic.com/blog


 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]