Reading Time: 3 Mins
3 Mins
Sep 16, 2022

รวม 7 ตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads ที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรพลาด!

Facebook Ads คือ ระบบการโฆษณาบนหน้าฟีดของ Facebook ที่ผู้ประกอบการหลายท่าน นึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่ออยากโปรโมทหรือโฆษณา เพราะเรามักจะเห็นโฆษณามากมายปรากฎขึ้นมาโชว์ในส่วนฟีดนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากบริเวณหน้าฟีดข่าวแล้ว ตัว Facebook ก็ยังมีช่องทางการนำเสนอโฆษณาที่ยังสามารถใช้งานได้อีก ซึ่งในแต่ละตำแหน่งต่างก็มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยจะมีตำแหน่งการจัดวางอะไรบ้างนั้น Cotactic ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็น มาให้ทุกคนได้ลองอ่านและศึกษากันแล้วครับ

 

ตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads คืออะไร? ทำไมต้องเลือก?

 

ในกระบวนการสร้าง Facebook Ads นั้น หลังจากที่เราเลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญ งบประมาณ และเลือกกลุ่มเป้าหมายเสร็จสิ้นแล้ว ลำดับต่อมาที่เราต้องทำเลยก็คือเลือกตำแหน่งการจัดวางของตัวโฆษณา ว่าจะกำหนดให้ตัว Ads ไปแสดงอยู่ที่แพลตฟอร์มใด โดยในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่โฆษณาจะไปปรากฎอยู่ทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน คือ Facebook, Instagram, Messenger และ Audience Network ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มต่างก็มีตำแหน่งการจัดวางโฆษณาที่แยกย่อยแตกต่างกันไป

 

ตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads คืออะไร

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องเลือกตำแหน่งการจัดวาง เพื่อกำหนดให้ตัวโฆษณา Facebook ปรากฎอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม โดยอาจใช้หลักเกณฑ์อย่างงบประมาณ การนำเสนอ วัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมายของตัวโฆษณาในการเลือก หรือคุณอาจเลือกใช้การตั้งค่า ตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติ เพื่อให้ตัวระบบแสดงโฆษณาในพื้นที่ที่ใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งนี่ถือเป็นตัวเลือกที่ทาง Facebook แนะนำให้ใช้เลยทีเดียว

 

ตำแหน่งโฆษณา Facebook Ads มีกี่ประเภท

ด้วยความที่ตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads นั้น ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ได้เห็นโฆษณา ทาง Facebook จึงแบ่งตำแหน่งต่าง ๆ ออกมาเป็น 7 ประเภทให้ครอบคลุมการใช้งานที่สุดดังนี้

 

1.ฟีดข่าว (News Feed)

 

ฟีดข่าวเป็นพื้นที่ที่เรามักจะเห็นโฆษณาอยู่บ่อยครั้ง ถือเป็นพื้นที่หลักของตัว Facebook ที่ Ads สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากที่สุด โดยตัวโฆษณาจะแสดงให้ผู้คนเห็นผ่านการเลื่อนดูระหว่างตัวโพสต์ ซึ่งในส่วนของฟีดข่าวนั้นจะสามารถแบ่งแยกย่อยตามแพลตฟอร์มได้ดังนี้

 

ตำแหน่ง Facebook Ads News Feed

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

  • ฟีดข่าว Facebook หน้าแรกของตัว Facebook ที่มีผู้ใช้งานเห็นมากที่สุด ตัวโฆษณาจะปรากฏขึ้นบนฟีดข่าว ไม่ว่าพวกเขาจะเปิดเว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือก็ตาม
  • ฟีด Instagram หน้าแรกของแพลตฟอร์ม Instagram ที่ตัวโฆษณาจะแสดงแก่ผู้ที่ใช้งานแอป Instagram บนโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
  • Facebook Marketplace เป็นแท็บซื้อขายสินค้าของตัว Facebook โดยโฆษณาจะปรากฏขึ้นในส่วนนี้หากมีผู้ใช้งานเข้ามาเลือกหรือกดหาสินค้า
  • ฟีดวิดีโอบน Facebook หรือ Facebook Watch เป็นหน้าฟีดเพื่อค้นหาหรือรับชมวิดีโอของตัว Facebook โดยวิดีโอโฆษณาจะปรากฏแทรกขึ้นกับวิดีโอทั่วไปที่เราเปิดเจอหรือทำการค้นหา
  • คอลัมน์ด้านขวาของ Facebook คอลัมน์ด้านขวานี้จะเป็นพื้นที่เฉพาะที่จะปรากฏให้ผู้ใช้งาน Facebook บนคอมพิวเตอร์เห็นเท่านั้น 
  • หน้าสำรวจบน Instagram โฆษณาในตำแหน่งนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อมีคนคลิกบนรูปภาพหรือวิดีโอขณะพวกเขากำลังใช้งาน Instagram
  • ร้านค้าบน Instagram โฆษณาในส่วนนี้จะปรากฏขึ้นในแท็บร้านค้าบน Instagram ระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังเลือกดูหรือค้นหาสินค้า
  • กล่องข้อความใน Messenger บริเวณหน้าหลักของตัว Messenger ที่ตัวโฆษณาจะปรากฎให้เห็นแทรกอยู่ระหว่างกล่องข้อความ(แชท)ของผู้ใช้งาน

 

ตำแหน่ง Facebook Ads Stories

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

2.สตอรี่ (Stories)

 

คลิปวิดีโอขนาดสั้นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานที่มีทั้งใน Facebook และ Instagram ถือเป็นตำแหน่งการจัดวางที่ตัวโฆษณาสามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก เนื่องจากเป็นส่วนแรก ๆ ที่ผู้ใช้งานมักกดเข้าไปดู สามารถแบ่งแยกย่อยตามแพลตฟอร์มได้ดังนี้

 

 

ตำแหน่ง Facebook stories

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

  • Facebook Stories หากเลือกตำแหน่งการจัดวางนี้ ตัวโฆษณาจะแสดงขึ้นระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังดูสตอรี่ของเพื่อนใน Facebook สามารถเป็นได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอภาพเคลื่อนไหว
  • Instagram Stories มีหลักการทำงานแบบเดียวกับ Facebook Stories เพียงแต่จะแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นผ่านการดูสตอรี่บน Instagram แทน
  • Messenger Stories มีหลักการทำงานที่ใกล้เคียงกับตัว Facebook และ Instagram Stories ซึ่งในส่วนนี้จะแสดงให้ผู้ใช้งาน Messenger เห็นแทน

 

ตำแหน่ง Faceook Ads Reels

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

 

3.วิดีโอแบบในสตรีม (In-Stream Videos)

 

โฆษณาที่จะแสดงในตำแหน่งการจัดวางนี้นั้น จะมีรูปแบบนำเสนอที่จะคอยยิง Ads ให้ผู้ใช้งานเห็นระหว่างที่พวกเขากำลังรับชมวิดีโอที่กำลังสตรีมอยู่ โดยสามารถแบ่งแยกย่อยตามแพลตฟอร์มได้ดังนี้

ตำแหน่ง In-Stream Videos

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

  • วิดีโอแบบในสตรีมบน Facebook ตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads นี้ จะแทรกโฆษณาให้ผู้ใช้งานเห็นเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ เมื่อพวกเขากำลังรับชมสตรีมสดของพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วบน Facebook 
  • วิดีโอแบบในสตรีมบน Instagram ตำแหน่งการจัดวางนี้มีส่วนการทำงานที่คล้ายคลึงกับวิดีโอแบบในสตรีมบน Facebook ที่จะมีการสอดแทรกโฆษณาให้ผู้ใช้งานเห็นเมื่อพวกเขากำลังรับชมสตรีมสดอยู่บน Instagram
  • Reels บน Instagram Reels ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์น้องใหม่ที่มาแรงบน Instagram รูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของฟีเจอร์นี้จะมีความคล้ายคลึงกับคลิปวิดีโอใน TikTok ซึ่งตัวโฆษณาในตำแหน่งนี้จะแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นเมื่อพวกเขากำลังดูคลิป Reels อยู่

 

ตำแหน่ง Facebook Search Results

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

4.การค้นหา (Facebook Search Results)

 

ในตำแหน่งการจัดวางนี้จะแสดงโฆษณาในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังค้นหาอะไรบางอย่างผ่านช่อง Search ซึ่งตัว Ads จะปรากฏถัดจากผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องบน Facebook และ Marketplace

ตำแหน่ง Facebook Search Results

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

5.ข้อความ (Messenger Sponsored Messages)

 

ตัวโฆษณาในตำแหน่งการจัดวางนี้ จะแสดงในรูปแบบของข้อความที่ได้รับการสนับสนุนบน Messenger ซึ่งจะปรากฏเป็นกล่องข้อความส่งถึงผู้ใช้งานที่มีการสนทนาด้วยโดยตรง

Facebook Ads Messenger Sponsored Messages

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

6.ในบทความ (Instant Articles)

 

Instant Articles คือรูปแบบเนื้อหาที่ได้รับการปรับให้สามารถอ่านได้ง่ายบนโทรศัพท์มือถือ การเลือกตำแหน่งในการจัดวางนี้จะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่บทความแบบอินเตอร์แอคทีฟ ให้ผู้ใช้งาน Facebook ในโทรศัพท์มือถืออ่านได้อย่างง่ายดาย

ตำแหน่ง Facebook Instant Articles

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

7.โฆษณาบน Audience Network

 

Audience Network เป็นการนำโฆษณาไปแสดงอยู่บนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ นอก Facebook ทำให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาด สามารถขยายขอบเขตการทำงานของตัวแคมเปญให้เข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ 

ตำแหน่ง Audience Network

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

  • โฆษณาแบบเนทีฟ โฆษณาแบบแบนเนอร์ และโฆษณาคั่นใน Audience Network โฆษณาที่จะปรากฎขึ้นมาในแอปอื่น ๆ ที่ทาง Facebook ไม่ได้เป็นเจ้าของ ตัว Ads จะแสดงแทรกขึ้นมาในระหว่างที่ผู้คนกำลังใช้งาน
  • วิดีโอที่มีรางวัลหลังชมจบบน Audience Network ตำแหน่งการนำเสนอนี้จะแสดงโฆษณาขึ้นมาในแอปอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานกดคลิกดูโฆษณาเพื่อแลกรางวัลหลังดูจบ

 

Facebook Ads Audience Network

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/business

 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าตำแหน่งการจัดวาง Facebook Ads นั้น ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ได้เห็นโฆษณา พวกเขาจะตอบสนองอย่างไรกับโฆษณาที่เห็น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจของพวกเขาทั้งสิ้น ดังนั้นหากคุณเลือกที่จะกำหนดตำแหน่งโฆษณาด้วยตนเอง คุณก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักรายละเอียดการทำงานของแต่ละตำแหน่ง ว่ามีการนำเสนอสื่ออย่างไรและให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายไหม หากคุณเลือกตำแหน่งการจัดวางได้อย่างเหมาะสม มันก็จะทำให้โฆษณาของคุณเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของตัวธุรกิจได้อย่างตรงจุด

 

——————————————————————– 

 

หากคุณต้องการที่ปรึกษาบริษัทรับทำเว็บไซต์ WordPress หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 

——————————————————————–

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

 

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]