Reading Time: 3 Mins
3 Mins
Mar 1, 2023

Google Analytics คืออะไร? สอนวิธีใช้และติดตั้ง [อัปเดต 2023]

Google Analytics คืออะไร ? จะช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์อย่างไร (ฉบับอัปเดต 2023)

ในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็ก หรือองค์กรขนาดใหญ่ก็ล้วนพาธุรกิจของตนเองเข้าสู่โลกดิจิทัลกันทั้งนั้น โดยเฉพาะการสร้างเว็บไซต์การใช้ Google Analytics ของตนเองหรือการใช้บริการรับทำ SEO เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ทว่าการทำเว็บไซต์ก็มีการแข่งขันที่สูงมากเช่นกัน ซึ่งหากปราศจากข้อมูล ก็อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณเสียโอกาสและตามหลังเว็บไซต์ของคนอื่น 

สำหรับโลกดิจิทัลข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าเปรียบกับการเดินทาง ข้อมูล คือ แผนที่ ที่จะพาคุณไปได้ถูกทาง แต่ถ้าหากมีแผนที่แล้ว ดูแผนที่ไม่เป็น แผนที่ นั้นก็เปล่าประโยชน์

ดังนั้น การที่มีข้อมูลในมือแต่นำข้อมูลมาใช้ไม่เป็นก็อาจจะทำให้ข้อมูลที่มีไร้ประโยชน์ ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณมีเครื่องมือที่สามารถช่วยในการวัดผลสถิติและวิเคราะห์ข้อมูล ก็จะทำให้คุณสามารถนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด

Google Analytics หนึ่งในเครื่องมือจาก Google ที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อช่วยในเรื่องของเว็บไซต์โดยเฉพาะ เครื่องมือนี้คืออะไร แล้วสามารถช่วยเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร เราไปเริ่มกันเลย !

 

Google Analytics คืออะไร

Google Analytics คือ เครื่องมือที่สามารถใช้วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์มาวิเคราะห์ และเมื่อเจ้าของเว็บไซต์ทราบถึงข้อมูลเหล่านี้ ก็จะสามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาวิเคราะห์ต่อ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Google สามารถวิเคราะห์และเก็บสถิติข้อมูลของเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถเข้าถึงข้อมูลและสถิติการเข้าชมในแต่ละหน้าเว็บไซต์ได้แบบ Real Time นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้อีก เช่น ผู้เข้าชมเว็บไซต์คือใคร (เพศและอายุ), อุปกรณ์ที่ใช้เข้าชมเว็บไซต์ (สมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์), พฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์, หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์มาจากช่องทางไหน เป็นต้น 

ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสามารถผูกบัญชีเข้ากับ Google Ads ทำให้สามารถวิเคราะห์ภาพรวมของการทำโฆษณาได้

 

รู้จักแถบรายงานใน Google Analytics

ฟีเจอร์หลักของโปรแกรมการใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลนี้นั่นก็คือแถบ Reports นั่นเอง ซึ่งจะเป็นส่วนที่เจ้าของเว็บไซต์เอาไว้ดูรายงานข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของตนเอง โดยมีทั้งหมด 5 Reports ซึ่งแต่ละหัวข้อ Report จะสามารถใช้ดูอะไรได้บ้าง เราไปดูกันเลย 

 

Realtime Report

รายงานตัวแรกอย่าง Realtime มีหน้าที่รายงานสดทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ในช่วงเวลา 30 นาทีผ่านมา ซึ่ง Realtime Report อัปเดตข้อมูลให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ภายใน Realtime Report ก็จะมีรายงานย่อย ๆ ให้ดูได้อีก 

  • Overview

เป็นตัวที่บอกภาพรวมของเว็บไซต์ เช่น ตอนนี้มีคนเข้าชมเว็บไซต์อยู่กี่คน ผู้เข้าชมเว็บไซต์กำลังดูคอนเทนต์อะไร หรือบอกถึงคีย์เวิร์ด/เว็บไซต์ที่พาคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของคุณ เป็นต้น

  • Locations

มีหน้าที่ในการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่/ประเทศของผู้เข้าชมเว็บไซต์ 

  • Traffic sources

แหล่งที่มาการเข้าชม จะแสดงข้อมูลแหล่งที่มาของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ว่าเข้ามาจากช่องทางไหน เจอเว็บไซต์ได้อย่างไรและเจอเว็บไซต์จากช่องทางไหน

  • Content

แสดงข้อมูลของ Content บนเว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยม โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ผู้ใช้งานที่กำลังใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ช่วง 5 นาทีผ่านมา และผู้ใช้งานที่กำลังใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ช่วง 30 นาทีผ่านมา

  • Events

เป็นรายงานที่จะแสดงข้อมูลรายละเอียดของ Events ที่ถูกตั้งค่าไว้ ซึ่งข้อมูลที่แสดงออกมาก็คือ ข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เข้าเงื่อนไข Event ที่ถูกตั้งค่าไว้

  • Conversions

เป็นรายงานการขายที่เกิดขึ้นจริง/รายงานปิดการขาย Report ตัวนี้จะเก็บข้อมูลได้เฉพาะ Conversion Tracking ที่เจ้าของเว็บไซต์ตั้งค่าไว้เท่านั้น เช่น การทักข้อความ, การซื้อขายหน้าเว็บไซต์ หรือการกดปุ่มโทรออก เป็นต้น

 

Audience Report

รายงานนี้มีหน้าที่หลัก ๆ คือ การรายงานถึงบุคลิกและลักษณะของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่น อายุ เพศ ประเทศ ภาษาจนถึงรายงาน User ว่าเป็นผู้ที่เคยเข้ามาชมในเว็บไซต์แล้วหรือเป็นผู้ใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากนี้ยังสามารถดูได้ถึงอุปกรณ์ที่ถูกใช้ในการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ เช่น PC แสดงผลเบราว์เซอร์ที่ใช้เข้าถึง, โทรศัพท์/แท็บเล็ต แสดงรุ่นและระบบปฏิบัติการ Audience Report จะมีรายงานย่อย ๆ ให้ดูได้อีก ได้แก่

  • Overview

แสดงภาพรวมของผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบครบถ้วน 

  • Active Users

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในแต่ละช่วงวันเวลาที่คุณอยากทราบ เช่น 1 Day Active Users, 7 Day Active Users, 14 Day Active Users และ 28 Day Active Users

  • Lifetime Value

เหมาะกับการใช้งานในการดูข้อมูลของเว็บไซต์ Ecommerce รายงานจะแสดงผลข้อมูลที่ช่วยให้คุณสามารถประเมินมูลค่าของลูกค้าตั้งแต่ช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์

  • Cohort Analysis

รายงานข้อมูลการจัดกลุ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์เก่าที่เข้ามาชมซ้ำ 

  • Audiences

แสดงข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบเฉพาะกลุ่ม ตามที่เจ้าของเว็บไซต์เลือก

  • User Explorer

รายงานที่ใช้ในการสำรวจผู้ใช้ แสดงข้อมูลรายละเอียดของผู้เข้าชมเว็บไซต์ สามารถดูได้ทั้ง Demographics, Interests, Geo, Behaviour, Technology, Mobile, Custom, Benchmarking

  • User Flow

รายงานที่แสดงข้อมูลลำดับการเข้าใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์

 

Acquisition Report

รายงานที่แสดงข้อมูลของการได้มาซึ่งผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือก็คือรายงานที่จะบอกว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราได้อย่างไร แสดงข้อมูลของช่องทางที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้มายังเว็บไซต์ของเรา นอกจากการใช้รายงานตัวนี้ในการดู Traffic Sources แล้วก็ยังสามารถใช้ในการทำ SEO ได้เช่นกัน จากการใช้ Keyword ที่มีอยู่แล้วจาก Acquisition > Search Console > Queries สามารถนำข้อมูล Keyword จากส่วนนี้มาวิเคราะห์ปรับจูนในการทำ On-Page SEO ของหน้านั้นให้ดีขึ้นได้

 

Behavior Report

รายงานที่แสดงข้อมูลพฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยข้อมูลที่ได้จากรายงานนี้จะบอกว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเราเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หน้าไหน และทำอะไรบ้างบนเว็บไซต์ของเรา โดย Behavior Report มีรายงานย่อย ๆ ดังนี้

  • Overview

แสดงภาพรวมของจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และค่าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าชมเว็บไซต์

  • Behavior Flow

แสดงให้เห็นเส้นทางการ Click ไปหน้าต่อไปของผู้เข้าชมเว็บไซต์

  • Site Content

รายงานผลว่าหน้าไหนของเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยม

  • Site Speed

แสดงเวลาที่ใช้ในการโหลดหน้าเว็บไซต์

  • Site Search

ายงานข้อมูลจากกล่องค้นหาหน้าเว็บไซต์ สามารถดูได้ว่าคำหรือสินค้าไหนในเว็บไซต์ถูกค้นหาบ้าง

  • Events

รายงานผลการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ทำบนหน้าเว็บไซต์ เช่น การ Click ปุ่มต่าง ๆ

  • Publisher

แสดงผลหน้าเพจที่สร้างรายได้จากการนำลิงก์โฆษณาไปลง

  • Experiment

ทำการทดลอง A/B Testing เพื่อนำผลมาเปรียบเทียบ แล้วนำไปปรับปรุงเว็บไซต์

 

Conversion Report

รายงานที่แสดงผลการวิเคราะห์รายละเอียดการดำเนินการของผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ทำบนหน้าเว็บไซต์ของเรา การรายงานเริ่มต้นตั้งแต่การเข้าชมเว็บไซต์ ไปจนถึงการสร้างรายได้ เป็นรายงานที่ทำให้เรารู้ที่มาของการบรรลุเป้าหมายเว็บไซต์  โดยจะแบ่งรายงานย่อย ๆ 3 รายงาน ดังนี้

  • Goal

เมื่อเจ้าของเว็บไซต์ทำ Goal setting เอาไว้ รายงานตัวนี้จะรายงานยอดของการบรรลุ Goal setting ที่ตั้งไว้

  • E-commerce

รายงานที่ใช้กับธุรกิจที่มีการขายสินค้าออนไลน์ จะรายงานผลการวิเคราะห์และแสดงให้เห็นถึงเส้นทางของลูกค้า ตั้งแต่เข้ามาในเว็บไซต์ จนถึงเกิดการซื้อขาย

  • Multi-Channel Funnels

เมื่อ User อาจจะไม่ได้เข้ามาจากช่องทางเดียว รายงานที่จะแสดงให้เห็นการทำงานร่วมกันของแต่ละช่องทางที่นำผู้เข้าชมเว็บไซต์มา

 

วิธีการติดตั้ง Google Analytics ลงเว็บไซต์

ก่อนที่คุณจะติดตั้ง Google Analytics ลงบนเว็บไซต์ของคุณ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีก่อน 3 สิ่ง คือ 

  1.  บัญชีของ Gmail  เพื่อใช้ในการสมัครเครื่องมือต่าง ๆ ของ Google ไว้ใช้งาน
  2.  Google Analytics
  3.  Google Tag Manager เพราะเราจะใช้เครื่องมือนี้ในการช่วยเราติดตั้งโปรแกรมลงเว็บไซต์

  หลังจากที่มีครบทั้ง 3 อย่างแล้ว เราก็ไปเริ่มติดตั้งลงเว็บไซต์กันเลย

 

ขั้นตอนที่ 1 สร้าง Tag ใหม่บน Google Tag Manager

เข้ามาที่ Google Tag Manager แล้วสร้าง Tag ใหม่ขึ้นมา 1 อัน

  1. กดที่ Tag
  2. เลือก ‘ใหม่’

วิธีการติดตั้ง Google Analytics ลงเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 2 เลือก Tag ที่จะติดตั้ง

เลือก Tag ที่ต้องการจะติดตั้ง ในกรณีนี้เราจะเลือก Google Analytics: Universal Analytics

เลือก Tag Google Analytics

ขั้นตอนที่ 3 ตั้งค่าตัวแปร (Variable)

  1. ตั้งค่าตั้งค่าตัวแปร ใหม่ > เลือกตัวแปรการตั้งค่า > ตัวแปรใหม่
  2. จะเด้งหน้าต่างให้ใส่ Tracking ID จาก Google Analytics > ใส่ Tracking ID 

ใส่ Tracking ID จาก Google Analytics

ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการติดตั้ง Tracking ID

เข้าไปที่ Google Analytics แล้วคัดลอก Tracking ID ออกมาเพื่อใส่ใน Google Tag Manager

ขั้นตอนการติดตั้ง Tracking ID

ขอบคุณภาพจาก  support.google.com

ขั้นตอนที่ 5 ตั้งค่าทริกเกอร์

ตั้งค่าทริกเกอร์เพื่อเป็นการกำหนดการทำงานของ Tag

  1. กดที่ ‘เลือกทริกเกอร์เพื่อทำให้ Tag เริ่มทำงาน’
  2. เลือก ‘All Pages’ เพื่อให้ Tag สามารถทำงานบนทุกหน้าเว็บไซต์

เลือก ‘All Pages’ เพื่อให้ Tag ของ Google Analytics สามารถทำงานบนทุกหน้าเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 6 ติดตั้ง Tag

ติดตั้ง Tag เพื่อเตรียมให้ Tag เริ่มทำงาน

  1. กดที่ ‘แท็ก’
  2. เลือกแท็กที่สร้างเอาไว้
  3. กดปุ่ม ‘ส่ง’ หรือ ‘Submit’

กด Submit ติดตั้ง Tag Google Analytics

ขั้นตอนที่ 7 การ Publish

กดปุ่ม ‘นำไปใช้จริง’ หรือ ‘Publish’ เพื่อให้ Tag เริ่มทำงาน

กดปุ่ม ‘Publish’ เพื่อให้ Tag Google Analytics เริ่มทำงาน

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์ตัวนี้ลงบนเว็บไซต์ของคุณได้แล้ว ซึ่งมันก็จะเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่คุณเริ่มติดตั้ง ต่อจากนี้คุณก็จะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ 

 

——————————————————————– 

หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

——————————————————————–

 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

digitorystyle.com, stepstraining.co, thegrowthmaster.comblog.lnw.co.th, stream.co.th,

digitorystyle.com, googleanalyticsthailand.com

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

LSI Keywords คืออะไร? เผยเทคนิควิธีการใช้ให้ถูกหลัก SEO

วันนี้เราจะมาพูดถึงเทรนด์การทำคอนเทนต์ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับให้ Google เข้าใจบริบทของเนื้อหาที่เราต้องการทำ SEO ให้ดีมากยิ่งขึ้น กับการทำ LSI keywords ที่เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง โดย LSI keywords คืออะไร ทำไมถึงต่างจากคีย์เวิร์ดประเภทอื่น ๆ เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดมาให้คุณแล้วในบทความนี้   LSI keywords คืออะไร?   LSI keywords คือการใช้เทคนิคเลือกคำที่สอดคล้องกับ Main keyword หลัก ที่เราต้องการจะโฟกัสหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา เพื่อให้ Google เข้าใจในคอนเทนต์ และบริบทที่เราต้องการจะสื่อ ยกตัวอย่างเช่น เราจะทำบทความเกี่ยวข้องกับการเล่นสงกรานต์ เราอาจจะลองหา Keyword Search Related ที่น่าสนใจ เช่น สงกรานต์ สถานที่จัด, สงกรานต์ ทำอะไรบ้าง เป็นต้น ซึ่งการทำ LSI keywords ที่ดี จะช่วยให้คนค้นหาเจอได้ง่าย และยังช่วยให้หน้าเว็บของเราถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่บริษัทรับทำ SEO […]

Landing Page คืออะไร? มีกี่ประเภท พร้อมเทคนิคเพิ่มยอดขาย

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Landing Page กันแล้ว แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่า Landing Page คือ อะไร มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกกับประโยชน์ของ Landing Page ในทุกแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้   Landing Page คืออะไร Landing Page คือหน้าเว็บไซต์หนึ่งหน้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง เช่น เพื่อนำเสนอสินค้าบริการ, เพื่อโฆษณาส่วนลดโปรโมชั่น หรือเพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลรับข่าวสาร โดย Landing Page ในแต่ละเว็บไซต์ก็มีหน้าตาและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป   เพราะอะไร Landing Page จึงจำเป็นต้องมี 1.ช่วยกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากในหนึ่งหน้า Landing Page เราสามารถแจ้งโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ทันที ยิ่งหน้าตามีดีไซน์ที่สวยงาม หรือมีความน่าสนใจมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น   2.ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจ การทำ Landing Page อย่างชาญฉลาดจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าทำในสิ่งที่ตัวธุรกิจต้องการ เช่น สั่งซื้อสินค้าและบริการ, กรอกข้อมูลเพื่อสมัครสมาชิก หรือ ติดต่อสื่อสารเพื่อพูดคุยกับตัวธุรกิจโดยตรง […]