click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

หลายครั้งเมื่อเราคลิกโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram หรือเว็บไซต์ โฆษณาเหล่านั้นจะพาเราไปยังหน้าเพจที่ระบุข้อมูลของสิ่งที่เราค้นหา หรือที่เรียกกันว่า “Landing Page” ซึ่ง Landing Page เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เว็บไซต์ต่าง ๆ นิยมใช้เพื่อสร้าง Conversion จากผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การกดปุ่มเพื่อส่งข้อความ ฯลฯ  ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกว่า Landing Page คืออะไร มีกี่ประเภท และมีประโยชน์ต่อการทำการตลาดออนไลน์อย่างไรบ้าง?

 

Landing Page คืออะไร?

Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เช่น การขายสินค้า การแจ้งข่าวสาร หรือการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน เป็นต้น ซึ่ง Landing Page มักใช้ในแคมเปญการตลาด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสินค้าหรือบริการที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เมื่อคลิกลิงก์ผ่านโฆษณาต่าง ๆ เช่น โฆษณาบน Google, Facebook, Instagram, หรือ Email

Landing Page

Landing Page และ Homepage ต่างกันอย่างไร?

หน้าเว็บไซต์ทั้ง 2 ประเภทมีจุดประสงค์และองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ดังนี้

Landing Page

Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานดำเนินการบางอย่าง เช่น การสั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก หรือดาวน์โหลดไฟล์ หน้า Landing Page ที่ดีควรมีองค์ประกอบครบถ้วนในหน้าเดียว และไม่มีลิงก์เชื่อมโยงไปยังหน้าอื่น ยกเว้นปุ่ม CTA (Call to Action) เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูล หรือกดสั่งซื้อตามที่เราต้องการ

Homepage

Homepage คือหน้าแรกที่ผู้ใช้งานจะพบเมื่อคลิกลิงก์ของเว็บไซต์ผ่าน Search Engine มักประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ๆ เช่น เมนู โลโก้และชื่อเว็บไซต์ ข้อมูลสินค้าและบริการ เป็นต้น โดย Homepage ที่ดีควรออกแบบให้สวยงาม ใช้งานง่าย และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้าง First Impression ที่ดีต่อผู้ใช้งาน และกระตุ้นให้เกิดการคลิกไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์

สรุปง่าย ๆ ก็คือ Landing Page จะเน้นไปที่การกระตุ้นให้เกิด Conversion เช่น การกรอกข้อมูล กดติดตาม หรือสั่งซื้อสินค้าจากผู้เข้าชม ส่วน Homepage จะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้และความประทับใจ เพื่อดึงดูดให้เข้ามาทำความรู้จักกับสินค้าและบริการมากขึ้น จนกระทั่งตัดสินใจซื้อในที่สุด

Landing Page

ประโยชน์ของ Landing Page 

1. ช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้า และกระตุ้นยอดขาย

การสร้าง Landing Page ช่วยให้ธุรกิจสามารถคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนในการหาลูกค้าลดลงและมียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานที่เข้ามายัง Landing Page ส่วนใหญ่มาจากแคมเปญโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของพวกเขา จึงมีโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อมากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป

2. ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชม และเพิ่มความน่าเชื่อถือ

หน้า Landing Page ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดดเด่น และใช้งานง่าย นำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการครบถ้วน และมีข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจ เช่น รีวิวจากลูกค้า Testimonials หรือโลโก้ของพาร์ทเนอร์ที่เคยร่วมงาน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมให้เข้ามาทำความรู้จักกับสินค้าหรือแบรนด์มากขึ้น

3. ช่วยในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด

เราสามารถใช้ Landing Page ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน อาทิ การใส่โค้ดเพื่อแทร็กข้อมูลว่าผู้ใช้งานเข้าชมเว็บไซต์ผ่านจากช่องทางใดบ้าง เข้ามาแล้วใช้เวลาอยู่นานเท่าใดก่อนที่จะกดออก หรือข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ผ่านแบบฟอร์ม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงแคมเปญโฆษณาหรือบริการต่าง ๆ ของเราในอนาคต

4. ใช้เพื่อนำเสนอสินค้าหรือเสนอโปรโมชันตลอด 24 ชั่วโมง

Landing Page เป็นหน้าเว็บที่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจง ต่างจากหน้าเว็บเพจทั่วไปที่อาจมีการอัปเดตข้อมูลได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงสามารถนำเสนอขายสินค้าหรือเสนอโปรโมชันถึงลูกค้าได้โดยตรง นอกจากนี้เว็บไซต์ยังทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าจึงสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา

Landing Page

ประเภทของ Landing Page

Landing Page มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับรูปแบบของข้อมูลที่ต้องการนำเสนอ โดยประเภทที่นิยมใช้งานในปัจจุบัน ได้แก่ 

1. Lead Generation Page

เป็นหน้าเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยใช้คำโปรยหรือข้อเสนอที่ดึงดูดใจ เช่น “ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ” “รับข้อเสนอเลยวันนี้” เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าชมกรอกรายละเอียดส่วนตัวลงในแบบฟอร์ม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาแคมเปญการตลาดในอนาคต

2. Click-Through Rate Page

เป็นหน้า Landing Page ที่ให้ข้อมูลสินค้า บริการ หรือโปรโมชันอย่างละเอียด เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้งานคลิกไปต่อยังหน้าเพจที่คุณต้องการ โดยมีข้อดีคือจะช่วยให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับซื้อในทันที และเราสามารถปรับแต่งสิ่งจูงใจเพิ่มเติมอย่างส่วนลดหรือข้อเสนอทดลองใช้ฟรีเพื่อกระตุ้นการคลิกของผู้ใช้งานได้อีกด้วย

3. Splash Page

เป็นหน้า Landing Page ประเภทหนึ่งที่มีจุดประสงค์เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์สิ่งต่าง ๆ ให้รับทราบ หรือคัดกรองข้อมูลของผู้ใช้งาน เช่น อายุ ภาษา เป็นต้น มากกว่าการสร้าง Lead โดยตรง โดยทั่วไป Splash Page จะแสดงในรูปแบบ Pop-up และมักวางเป็นหน้าแรกเมื่อผู้ใช้งานเข้ามายังเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม หากต้องการสร้าง Lead จาก Splash Page ก็สามารถเพิ่มช่องกรอกข้อมูลหรือข้อความเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น “ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดทันที 10%” ได้เช่นกัน

4. Sale Page

คือรูปแบบหนึ่งของ Landing Page ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นและปิดการขายโดยเฉพาะ โดยนำเสนอข้อมูลของสินค้าและบริการ ราคา โปรโมชัน รีวิว และช่องทางการชำระเงินอย่างครบถ้วนและชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

5. Squeeze Page

คือ Landing Page ที่มุ่งเน้นให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลเบื้องต้นอย่างชื่อและอีเมล เพื่อจุดประสงค์เฉพาะ เช่น การสมัครรับข่าวสาร รับ E-book หรือคอร์สทดลองเรียนฟรี มีลักษณะคล้ายกับ Lead Generation Landing Page แต่มีเนื้อหาที่สั้นและกระชับกว่า

 

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมี Landing Page ประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ

  • Coming Soon Page สำหรับประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต
  • Product Page สำหรับนำเสนอสินค้าตัวใดตัวหนึ่งโดยเฉพาะ
  • Event Page สำหรับประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น และให้ผู้ใช้งานได้ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เป็นต้น

Landing Page

5 เทคนิคการสร้าง Landing Page ที่ดีตอบโจทย์ผู้ใช้

1. มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน

หน้า Landing Page ที่มีข้อมูลหรือรายละเอียดมากจนเกินความจำเป็น อาจสร้างความยุ่งยากในการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนและอาจเปลี่ยนใจไม่ตัดสินใจซื้อในที่สุด ดังนั้นเราจึงควรออกแบบ Landing Page ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ เช่น หากเป็น Sale Page ก็ควรออกแบบให้สามารถดูข้อมูลและซื้อสินค้าได้ในหน้าเดียว โดยไม่ควรต้องคลิกเพื่อไปยังหน้าอื่น

2. ออกแบบตามหลัก UX/UI และสอดคล้องกับเว็บไซต์หลัก

แม้ว่า Landing Page ที่คุณสร้างขึ้นมาอาจไม่ได้เชื่อมโยงกับหน้าเพจอื่น ๆ ในเว็บไซต์โดยตรง แต่การสร้าง Landing Page ที่ดีเราจำเป็นต้องออกแบบให้มีสีสันหน้าตาที่สวยงาม มี User Interface ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีความกลมกลืนกับเว็บไซต์หลัก ไม่โดดเด่นหรือแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

3. รองรับการใช้งานด้วยอุปกรณ์ทุกรูปแบบ

Landing Page ที่ดีควรออกแบบให้ตอบสนองทุกอุปกรณ์ (Responsive Design) ไม่ว่าจะเป็น Smartphone, Tablet, และ Desktop เนื่องจากในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่นิยมใช้อุปกรณ์พกพามากกว่าคอมพิวเตอร์ การรองรับทุกอุปกรณ์จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้งานจะมองเห็น Landing Page ของเราได้อย่างสมบูรณ์ และไม่เกิดปัญหาการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนจนทำให้สูญเสียโอกาสในการขาย

4. Call to Action ต้องชัดเจน โดดเด่น

Call to Action (CTA) คือองค์ประกอบสำคัญในเว็บไซต์ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเกิดการทำกิจกรรมบนหน้า Landing Page มากขึ้น โดย CTA ควรมีการออกแบบที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีสันและขนาดที่ชัดเจน มีข้อความที่ระบุถึงสิ่งที่ต้องการให้ทำอย่างชัดเจน เช่น “ดาวน์โหลดฟรี!” “ซื้อเลย!” “ติดต่อเราตอนนี้!” เป็นต้น

5. ใช้งานได้เป็นปกติ ไม่มีข้อผิดพลาด

หากเข้าหน้า Landing Page และเจอกับหน้า Error 404 หรือข้อผิดพลาดใด ๆ ก็ตาม เท่ากับว่าโอกาสที่ผู้ใช้งานจะเข้าถึงสินค้าหรือบริการที่เรานำเสนอก็แทบเป็นศูนย์ ฉะนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบ Landing Page อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างปกติตลอดระยะเวลาแคมเปญ

 

สรุป

Landing Page เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่ม Conversion และสร้าง Lead ที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีประโยชน์ในการเก็บข้อมูลเพื่อวางแผนการตลาดในอนาคตอีกด้วย การสร้าง Landing Page ที่ใช้งานง่าย ข้อมูลครบถ้วน และมีองค์ประกอบที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจซื้อและกลายเป็นลูกค้าของเราในที่สุด

——————————————————————– 

หากคุณต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้านการทำ Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้ ทางเรามีบริการรับทำเว็บไซต์ WordPress สำหรับธุรกิจที่สนใจในการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดและเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

Morphosis, GlobalLinker, Apexure, Advance iService

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จักกับ Shopify พร้อมข้อดีข้อเสียที่ควรรู้

Shopify คืออะไร? อยากขายของออนไลน์ต้องรู้จัก

User Experience (UX) คืออะไร ทำไมถึงต้องให้มืออาชีพช่วยออกแบบ

User Experience คืออะไร ทำไมต้องให้มืออาชีพออกแบบ

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้