Reading Time: 2 Mins
2 Mins
Oct 2, 2023

CTA คืออะไร? เทคนิคสร้างยอดขาย ดึงดูดใจให้ลูกค้ากด ‘คลิก’

call to action

Call- to – Action หรือ CTA  เป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดแบบ Content Marketing และจะมีผลต่อการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้าอย่างไรและมีผลต่อแบรนด์ในทิศทางใดบ้าง

 

CTA คือ

Call To Action หรือ CTA คือ คำที่ย่อมาจาก Call- to – Action ใช้ในการกระตุ้นการตัดสินใจหรือทำให้เกิดพฤติกรรมบางอย่างที่ส่วนใหญ่มักจะใช้ในแคมเปญทางการตลาด หรือกระตุ้นให้มีการเข้าชมเว็บไซต์ของแบรนด์ CTA  จะมีลักษณะเป็นข้อความ ปุ่ม หรือภาพกราฟิกซึ่งจะอยู่ใน Social Media หรือเว็บไซต์

 

องค์ประกอบของ CTA

  • สร้างความแตกต่าง (Contrast) 

ใช้สีที่ Contrast ที่ทำให้รู้สึกแตกต่างจากสีของเว็บไซต์ จุดนำสายตา หรือการใช้เส้น เพื่อให้ผู้ชมมองเห็นปุ่ม  CTA ได้ง่าย

  • จำกัดจำนวนปุ่ม CTA (Quantity)  

ไม่ควรมีปุ่ม  CTA มากเกินไปเพราะผู้ชมอาจจะไม่โฟกัสในส่วนที่ทางแบรนด์อยากให้เห็น 

หมายเหตุ : จำนวนของปุ่ม  CTA ควรมีประมาณ 1 – 2 ปุ่ม 

  • การใช้รูปแทนตัวอักษร (Image) 

ปุ่ม  CTA อาจใช้เป็นรูปภาพแทนสิ่งที่ทางแบรนด์จะสื่อสารได้ เช่น ใช้รูปตะกร้าตรงปุ่มซื้อสื่อถึงการซื้อสินค้า เป็นต้น

  • ความเรียบง่าย (Simple) 

เมื่อกดปุ่ม CTA แบรนด์ต้องสรุปข้อมูลให้เข้าใจชัดเจนและง่ายต่อการใช้งาน

หมายเหตุ : แบรนด์ควรทำสรุปข้อมูลในลักษณะที่เป็นหัวข้อย่อย (Bullet) เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจง่าย

 

เทคนิคการทำ CTA ให้น่ากด ‘คลิก’

CTA คือ เป็นสิ่งที่เปรียบเสมือนสิ่งกระตุ้นหรือประตูที่ทางแบรนด์ต้องการให้ผู้ชมเข้าถึงและรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยแนวทางในการทำ CTA ให้ดึงดูดลูกค้า  มีดังนี้

  • ใช้คำที่สั้น กระชับ

คำใน CTA ควรเป็นคำที่มีความกระชับและมีพลังที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่แบรนด์จะสื่อได้ทันทีและสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ

หมายเหตุ : แบรนด์ควรเลือกคำกริยาที่สื่ออย่างตรงไปตรงมา เช่น กดสั่งซื้อ ติดต่อเรา 

สมัครทันที  สั่งซื้อที่นี่ เป็นต้น

  • ใช้คำที่โดดเด่นแตกต่าง

แบรนด์สามารถใช้เทคนิคการเล่นคำเพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นภาพจำให้ CTA 

  • ใช้เทคนิค FOMO (Fear of Missing Out)

เทคนิค FOMO หรือ Fear of Missing Out เป็นเทคนิคที่นิยมในการใช้งานค่อนข้างสูง เพราะเน้นการสร้างความรู้สึกให้ผู้ชมและไม่ต้องการพลาดข้อเสนอของทางแบรนด์ไป เช่น ซื้อด่วนก่อนสินค้าหมด ลดราคาภายในสิ้นเดือนนี้เท่านั้น เป็นต้น

เทคนิคการใช้งานFOMO

    • มีการจำกัดระยะเวลาในการจัดส่งฟรี
    • มีการกำหนดระยะเวลา
    • มีการแสดงปริมาณสินค้าให้รู้สึกว่าเหลือน้อย
    • มีการให้ของขวัญหรือรางวัลกับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าก่อน (จำนวนจำกัด)
    • มีการแสดงให้รู้ว่ามีคนกำลังซื้อสินค้าหรือบริการอยู่
  • ใช้คำที่ทำให้เกิดความสงสัย

คำใน CTA ควรลองใช้คำที่ทำให้สงสัยเพื่อสร้างความแตกต่างและเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ

  • เลือกคำที่กระตุ้น ปลุกใจ

 คำใน CTA ควรเป็นคำที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว ตื่นเต้นหรือทำให้เกิดความรู้สึกที่อยากจะกดปุ่ม CTA ทันที เช่น สมัครวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า เป็นต้น

  • บอกชัดเจนว่าลูกค้าจะได้ประโยชน์ใดบ้าง

คำใน CTA ควรระบุให้ชัดเจนหรือเข้าใจง่ายเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ

  • เลือกตำแหน่งที่เห็นชัด

แบรนด์ควรวาง CTA ในตำแหน่งที่ชัดเจนและดึงดูดสายตาของลูกค้า นอกจากนี้แบรนด์ควรดูในเรื่องของการใช้สีหรือเพิ่มลูกเล่น เช่น วางปุ่มไว้ตรงกลางจอ ใส่กรอบสีตัดกับสีพื้นหลังเพื่อสร้างความโดดเด่น เป็นต้น  

 

ตัวอย่างคำ CTA ที่น่าใช้

คำที่แบรนด์ใน CTA ควรเลือกใช้เพื่อดึงดูดลูกค้ามีดังนี้

  • Learn More (อ่านเพิ่มเติม)
  • Watch Now (ดูเลย)
  • Order Now/Buy Now (สั่งซื้อเลย)
  • Talk To Us (พูดคุยกับเรา)
  • Watch Free For 30 Days (ดูฟรี 30 วัน)
    • CTA ที่นิยมใช้ในแหล่งชุมชน Community เช่น Subscribe / ติดตาม / Join Now เป็นต้น
    • CTA ที่ใช้กระตุ้นการเกิด Conversion เช่น Order Now / Buy Now / สั่งซื้อเลย  เป็นต้น
    • CTA อื่นๆที่น่าในสนใจ เช่น View More / อ่านเพิ่มเติม เป็นต้น
  • CTA สำหรับการพิจารณา เช่น Learn More / Contact Us / Book Now / Download เป็นต้น
    • CTA สำหรับการสร้างการรับรู้ เช่น Apply Now / Download /  Learn More  เป็นต้น
    • CTA สำหรับการสร้าง Conversions หรือติดต่อการสั่งซื้อได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น Apple Now /  Sign Up /  Message Us / Watch More เป็นต้น
  • CTA สำหรับการรับบริการ เช่น  พูดคุยกับเรา / ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น
  • CTA สำหรับ Online Community  หรือ  Influencer  เช่น  ติดตาม / Subscribe now! เป็นต้น
    • CTA สำหรับยื่นข้อเสนอต่างๆ เช่น ทดลองใช้ฟรี ลงทะเบียนฟรี เป็นต้น
  • CTA สำหรับการชักชวน เช่น  พูดคุยกับเรา  ดูข้อมูลเพิ่มเติม เป็นต้น

ไอเดียในการทำ CTA หรือ Call- to – Action ในโฆษณา Facebook ให้น่าสนใจมากขึ้น

  • CTA Book Now  :  ไว้สำหรับให้ลูกค้าทำการจองที่พัก / โรงแรมหรือจองตั๋วเครื่องบิน
  • CTA Learn More : ไว้สำหรับให้ลูกค้าดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการตัดสินใจในการสั่งซื้อสินค้าและบริกา
  • CTA SHOPNOW  :  ไว้สำหรับกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้าและบริการโดยสามารถใส่ช่องทาง Marketplace (Shopee / Lazada) หรือ เว็บไซต์ของแบรนด์ได้เพื่อเพิ่มช่องทางในการสั่งซื้อสินค้าในตลาดออนไลน์ได้

 

ประโยชน์ของ CTA คือ ?

  • ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้ข้อมูลง่ายขึ้น

แบรนด์ใช้ข้อความที่เข้าใจง่ายและชัดเจนและทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจได้ทันที  เช่น อาจมีการเข้าชมเพจ เป็นต้น

  • เพิ่มจำนวนผู้เข้าชม

แบรนด์ที่มีการใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจใน CTA เช่น ติดตามฉันบน Twitter ลงทะเบียนด่วน รับจำนวนจำกัด เป็นต้น ซึ่งจะทำให้กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้เกิดยอดจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มมากขึ้น 

  • เพิ่มจำนวนยอดขาย

แบรนด์ที่มีการใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจนอาจทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ เช่น สั่งซื้อเลย  Buy Now  Order Now เป็นต้น

 

สรุปได้ว่า CTA คือ คำกระตุ้นเพื่อให้ลูกค้าเกิดกิจกรรมบางอย่างกับแบรนด์ เช่น สั่งซื้อสินค้า จองที่พัก เป็นต้นและอาจกล่าวได้ว่า CTA อาจช่วยกระตุ้นยอดขายและการเข้าถึงแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น และหากใครกำลังมองหาเอเจนซี่ในการรับทำเว็บไซต์ WordPress ที่จะออกแบบจัดการกับปุ่ม CTA บนเว็บไซต์ของคุณแล้วละก็ Cotactic คือคำตอบ

 

(แหล่งอ้างอิงข้อมูล)

 

MakeWebEasy : https://www.makewebeasy.com/th/blog/what-is-call-to-action/

DIGITAL TIPS  :  https://thedigitaltips.com/blog/news/what-is-cta/

STEPS ACADEMY : https://stepstraining.co/content/8-tactics-for-call-to-action

AD ADDICT : https://adaddictth.com/knowledge/CTA-Call-To-Action

blog SogoodWeb :Call To Action คืออะไร? เรียกความสนใจจากลูกค้าด้วยคำสั้น ๆ แต่ทรงพลัง

clisk THAILAND : https://www.clisk.co.th/news/7-idea-facebook-ads-call-to-action-button

TALKA TALKA : https://talkatalka.com/blog/what-is-cta-call-to-action/

[wpdevart_facebook_comment curent_url="https://www.cotactic.com/" order_type="social" title_text="Facebook Comment" title_text_color="#000000" title_text_font_size="22" title_text_font_famely="Montserrat" title_text_position="left" width="100%" bg_color="#d4d4d4" animation_effect="random" count_of_comments="3" ]

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer Experience คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจอย่างไร

ในการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของกิจการต้องคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ หรือ Customer Experience (CX) การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าคือหัวใจที่ทำให้ธุรกิจคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่ดีจากธุรกิจเกิดการซื้อซ้ำและพัฒนาไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้าง Customer Experience ได้ และ Customer Experience แตกต่างจาก ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ หรือ User Experience (UX) อย่างไร   Customer Experience คือ อะไร ? Customer Experience (CX) คือการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกค้าที่มีกับแบรนด์ รวมถึงการค้นหาในเว็บไซต์, การซื้อสินค้าหรือบริการ, การให้บริการหลังการขาย ฯลฯ ซึ่งในการปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ของเรานั้น ช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งหลอมรวมกันกลายเป็นประสบการณ์และภาพจำทั้งหมดของแบรนด์ แตกต่างจาก User Experience (UX) อย่างไร หลายคนอาจสับสนระหว่าง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ Customer Experience (CX) และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้งาน’ User Experience (UX) […]

Conversion คืออะไร? สำคัญกับธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมวิธีวัดผล

การทำ Digital Marketing ต้องอาศัยการวัดผลที่ตรงกับการดำเนินงานอย่างแม่นยำ จะเกิดอะไรขึ้นหากธุรกิจไม่มีการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะสูญเสียงบประมาณไปโดยที่ไม่รู้ว่าจ่ายไปกับกิจกรรมการตลาดใดบ้าง มีใครมาสนใจสั่งซื้อสินค้าเท่าไหร่ Conversion Tracking จึงเข้ามามีบทบาทต่อการวัดผล เช่น วัดผลการซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การสมัครรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล การเข้ามาอ่านบทความ การดาวน์โหลด หรือการกระทำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ การวัดผลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจรู้ว่าสินค้าใดหรือ Landing Page หน้าไหนมีคนคลิกเข้ามาสนใจมากที่สุด Conversion คืออะไร? Conversion คือการกระทำใด ๆ ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจสินค้าบริการของเรา ที่เราได้วางเงื่อนไขในการเก็บข้อมูลของแต่ละ Conversion ไว้ เพื่อวัดผลลัพธ์ในการทำงาน เช่น การทำ Call to Action (CTA) เพื่อ Tracking, ข้อมูลในส่วนของ Purchase : จำนวนการสั่งซื้อ, Leads : ลูกค้าใหม่ที่เข้ามา, Sign up : จำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามาใหม่ หรือ Submit form […]