click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

รู้หรือไม่ว่า นอกจากภาพถ่ายสินค้า ที่ต้องสวยงามและดึงดูดลูกค้าแล้ว Product Description หรือคำบรรยายสินค้า จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่เพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ได้มากขึ้น หากเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มเปรียบเสมือนร้านค้าของเรา ภาพถ่ายสินค้าก็คงไม่ต่างจากสินค้าที่วางเรียงรายอยู่ในร้าน ให้ลูกค้าได้เลือกชมกัน เมื่อลูกค้าเริ่มสนใจสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งในร้านเรา คำบรรยายสินค้าก็คงเปรียบเสมือนพนักงานหน้าร้านคนหนึ่งที่ให้บริการลูกค้า เป็นตัวเชื่อมระหว่างธุรกิจและลูกค้าที่สนใจสินค้าหรือบริการของเรา เราอาจจะต้องมีการวางแผนวิธีการสื่อสาร ว่าต้องการสื่อสารกับใคร กลุ่มลูกค้าของเราอายุประมาณเท่าไหร่ เราควรใช้ระดับภาษาไหน ถึงจะเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งถ้าคิดง่ายๆ มันก็เหมือนกับการที่เราต้องการจะมอบประสบการณ์อะไรให้กับลูกค้า

วันนี้ Cotactic เราเป็น Digital Marketing Agency จะมาพูดถึงวิธีการเขียน Product Description ว่ามีหลักการเขียนที่ดีอย่างไร และจะสื่อสารออกมาแบบไหนถึงจะโดนใจกลุ่มลูกค้าของเราได้บ้าง

 

Product Description คืออะไร

Product Description หรือคำบรรยายสินค้า มีส่วนสำคัญในการช่วยตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก ร้านค้าควรให้ข้อมูลที่ชัดเจน ครบถ้วน และน่าเชื่อถือ เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ทันที โดยแทบจะไม่ต้องสอบถามจากแอดมินเพิ่มเติม รวมไปถึงข้อมูลที่ใส่อยู่บนสินค้าจะต้องสามารถค้นหาบน Google หรือบนแพลตฟอร์มได้โดยง่าย

 

แล้ว Product Description สำคัญอย่างไร

ข้อมูลจากบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิจัยอย่าง emarketer แสดงข้อมูลด้านการตัดสินใจซื้อสินค้าไว้ว่า Product Description มีส่วนสำคัญลำดับที่สองในการตัดสินใจซื้อสินค้า รองลงมาจากรูปภาพ ดังนั้นการเขียนคำบรรยายสินค้าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญในการขายสินค้าออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะจะช่วยให้ผู้ซื้อเข้าใจรายละเอียดของสินค้ามากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อจากคุณสมบัติหรือข้อดีของสินค้านั้น ๆ

 

หลักการเขียน Product Description ที่ดี

แพลตฟอร์ม E-Marketplace ในปัจจุบัน มีสินค้าให้เลือกมากมาย เพียงแค่ค้นหาชื่อสินค้าที่เราต้องการแอปพลิเคชันก็สามารถแสดงผลสินค้าให้เลือกหลากหลายรายการ โดยในปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้พัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถค้นหาด้วยรูปภาพได้แล้ว ทำให้การแข่งขันใน E-Marketplace ค่อนข้างสูง ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าโดยใช้ภาพถ่ายจากร้านใดร้านหนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบราคา ข้อมูลสินค้า ความน่าเชื่อถือ และเช็กสถานที่จัดส่งได้ทันที ลองมาดูกันว่า นอกจากภาพถ่ายสินค้าที่ต้องสวยงามและดึงดูดแล้ว การให้ข้อมูลสินค้าผ่าน Product Description ที่ดี มีหลักการเขียนยังไงบ้าง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเขียน Product Description บน E-Marketplace อย่าง Shopee, Lazada หรือ TikTok เท่านั้น เราสามารถนำไปปรับใช้กับการเขียนบรรยายสินค้าบน Social Media หรือเว็บไซต์ของเราเองได้อีกด้วย

 

1. ทำความรู้จักกลุ่มลูกค้า

ลองจินตนาการว่าหากเราเป็นพนักงานขายคนหนึ่งในร้าน เราจะสื่อสารกับใคร และสื่อสารอย่างไร  การสร้าง Persona ของลูกค้าที่ชัดเจน จะช่วยให้เราสามารถออกแบบภาษาที่ใช้ในการสื่อสารได้ว่า ควรใช้ระดับภาษาประมาณไหน กลุ่มลูกค้าอายุเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นเพศอะไร ระดับความรู้ที่เราควรใส่ลงบน Product Description ควรมีมากน้อยแค่ไหน หากเราวาง Persona ได้ชัดเจนแล้ว การทำงานแต่ละส่วนก็จะง่ายขึ้น ทั้งการสื่อสารผ่าน Product Description ไปจนถึงการสื่อสารบนโซเชียลมีเดียอย่างการตอบคำถามลูกค้า

 

2. กำหนดภาพลักษณ์ของแบรนด์

เมื่อเรากำหนด Persona ของกลุ่มลูกค้าของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มกำหนด Mood & Tone ที่จะใช้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้า เช่น

  • หากเราเป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่น อาจจะใช้การสื่อสารที่เป็นกันเอง เพื่อความเข้าถึงง่าย
  • หากเราเป็นธุรกิจขายสินค้าลักซ์ชัวรีที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหรา มีระดับ อาจจะต้องสื่อสารด้วยภาษาแบบทางการ

 

3. มีคีย์เวิร์ดชัดเจน ค้นหาง่าย

การที่คุณจะเขียนคำบรรยายสินค้าได้นั้น นอกจากทักษะการเขียนข้อความโฆษณาได้แล้ว ควรคำนึงถึงหลัก SEO ร่วมด้วย เพราะยิ่งลูกค้าหาสินค้าของเราเจอจากคำบรรยายสินค้าได้มากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสในการเพิ่มลูกค้าที่จะเข้ามาเยี่ยมชมสินค้ามากขึ้นเท่านั้น และคำบรรยายสินค้าที่ดี ควรจะต้องพาลูกค้าไปหาสินค้าเจอ

 

เขียน Product Description ให้ทรงพลัง ด้วย FAB Techniques

 

เขียน Product description ที่ดี ด้วยการใช้เทคนิค FAB

 

เมื่อเราจับ 3 แกนหลักในการเขียน Product Description คร่าว ๆ กันแล้ว อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้เราสามารถเขียนคำบรรยายสินค้าได้ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น คือการใช้ FAB Techniques เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์จุดเด่นของสินค้าหรือบริการของเราผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

 

Feature – คุณสมบัติ

ลิสต์คุณสมบัติของสินค้าของเราว่ามีคุณสมบัติอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง ต้องการนำเสนอสินค้าของเราในด้านไหนบ้าง หากสินค้าของคุณมีลักษณะจำเพาะอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น สี ขนาด วัสดุ ฯลฯ ก็ควรระบุลงไปด้วย

ตัวอย่าง

  • เสื้อเชิ้ตผ้าลินินเกรดพรีเมียม
  • สร้อยสเตนเลสชุบด้วยทอง 14K Gold 

 

Advantage – ข้อดี

ระบุข้อดีของสินค้าของเรา ที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น มาประมาณ 3 ข้อ

ตัวอย่าง

  • เสื้อเชิ้ตผลิตจากผ้าลินินเกรดพรีเมียม สัมผัสนุ่ม และยับยาก
  • สร้อยสเตนเลส ชุบด้วยทองหนาพิเศษ ผิวแพ้ง่ายใส่ได้ ไม่ลอกไม่ดำ กันน้ำ 100%

 

Benefits – ประโยชน์

บอกประโยชน์จากคุณสมบัติและข้อดีของสินค้าที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการสรุปให้ลูกค้าเข้าใจว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากสินค้าชิ้นนี้

ตัวอย่าง

  • เสื้อเชิ้ตผลิตจากผ้าลินินเกรดพรีเมียม ทำให้สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ยับยาก หมดกังวลเรื่องยับระหว่างวัน
  • สร้อยสเตนเลส ชุบด้วยทอง 14k gold แบบหนาพิเศษ ผิวแพ้ง่ายสามารถใส่ได้ ไม่ลอกไม่ดำ สามารถใช้งานได้นาน ใส่ทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน

 

สรุป

Product Description คืออีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า ช่วยดึงดูดใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับ Customer Experience ที่ดี และเพิ่มโอกาสในการขาย การนำเทคนิคที่กล่าวข้างต้นไปปรับใช้กับสินค้าหรือบริการของคุณ จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าของคุณเจอได้ง่ายขึ้น และสร้างยอดขายในระยะยาว

 

ต้องการที่ปรึกษา หรือทีมงานมืออาชีพด้าน Online Marketing มาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาและวางรากฐานให้ธุรกิจ ติดต่อ Cotactic เลยวันนี้

โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic  

Line: @cotactic

 

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


บทความที่เกี่ยวข้อง

รวม 200 รายชื่อ Digital Marketing Agency ในไทย ปี 2026

รวม 200 รายชื่อ Digital Marketing Agency ในไทย ปี 2026

Viral Marketing ให้คอนเทนต์ไวรัลแชร์ต่อแบบไม่หยุด

Viral Marketing คืออะไร? พร้อมวิธีคิดคอนเทนต์ให้คนแชร์ต่อแบบไม่หยุด

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้