April 4, 2022 Reading Time: 4 minutes

9 ทริคเพื่อเจ้าของธุรกิจ เลือก Digital Marketing Agency ยังไงไม่ให้ผิดหวัง

เคยไหม? อยากเลือก Digital Marketing Agency มาช่วยแบ่งเบาภาระงานของ In-house Marketing แต่ไม่รู้จะเลือกโดยใช้เกณฑ์อะไรตัดสินดี ราคาคุ้มค่า? ผลลัพธ์ที่ชัดเจน? หรือการบริการดีจนอยากกลับมาใช้บริการอีกรอบ? คำถามเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเอเจนซีเจ้าไหนที่เหมาะจะเข้ามาเป็นคู่คิดทางธุรกิจกับคุณ และในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมทริคดี ๆ ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก Digital Marketing Agency ได้ไวขึ้น ถูกใจมากขึ้น

digital marketing agency

 

Digital Marketing Agency มีบริการอะไรให้คุณบ้าง?

โดยทั่วไปเอเจนซีจะมีความถนัดทางด้านการตลาดออนไลน์ที่แตกต่างกันไปตามจุดเด่นของแต่ละเจ้าอย่าง งานเขียน งานกราฟิก งานออกแบบเว็บไซต์ บ้างก็จะถูกแยกออกจากกันตามความเชี่ยวชาญ และบ้างก็จะถูกมัดรวมกันเอาไว้ในเอเจนซีเจ้าเดียวประเภท One-stop Service ที่ให้บริการทุกด้านที่เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตามเราขอหยิบยกบริการหลัก ๆ ที่คุณจะต้องพบเจอใน Digital Marketing มาให้คุณเข้าใจกัน


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

1. SEO (Search Engine Optimization)

SEO ถือเป็นบริการและกลยุทธ์ที่ติดโผอันดับ 1 ตลอดกาลของบรรดาบริการของ Digital Marketing Agency นั่นเป็นเพราะผลตอบแทนที่ได้จากกลยุทธ์นี้คุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ดีแน่นอน SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Google Search Engine หน้าแรกและอันดับแรกผ่านการทำคอนเทนต์ที่ตรงกับคำค้นหาของลูกค้าไม่ว่าจะเป็น งานเขียน อัดคลิป โพสต์ บล็อก SEO

เป็นเพราะว่าอัลกอริทึมและ Web Crawler ของ Search Engine จะทำหน้าค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการหากับเนื้อหาในคอนเทนต์ว่าตรงกันมากแค่ไหน และตัดสินใจเรียงลำดับความเกี่ยวข้องของคอนเทนต์ให้อยู่บนหรือล่างของหน้าผลการค้นหาตามความเหมาะสมโดยใช้เกณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติมประกอบการพิจารณาอาทิ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ โครงสร้างเว็บไซต์ การจัดเรียงเนื้อหาให้อ่านง่าย วางจุด CTA ชัดเจน เป็นต้น

สรุปแล้วการทำ SEO คือการทำคอนเทนต์ที่ช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานค้นหาแบรนด์คุณเจอง่ายมากขึ้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินโฆษณาเลยสักนิดเดียว และยังได้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกค้าแบบเป็นธรรมชาติอีกด้วย นั่นจึงส่งผลให้แบรนด์คุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพิ่ม Brand Awareness และ Brand Loyalty ได้ดี

ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งส่วนมากแล้วจะมีบริการรับทำ SEO อยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการสร้างความแตกต่างที่แบรนด์อื่นไม่เคยทำได้จากการทำ SEO เราแนะนำ Cotactic เอเจนซีการตลาดออนไลน์แห่งประเทศไทยที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการตลาดออนไลน์ของคุณและการทำ SEO ให้ติดอันดับและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง กรอกข้อมูลเพื่อขอรับข้อเสนอเลยตอนนี้

 

2. SEM (Search Engine Marketing)

ลักษณะการทำงานคล้ายกับ SEO ก็ไม่ปานคืออาศัยการใช้ Keyword เพื่อจับคู่คำค้นหาของผู้ใช้งานเข้ากับคำหลักที่คุณใช้ในการเขียนคอนเทนต์นั้น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม SEM มีการพัฒนาไปอีกขั้น โดยการเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้การโฆษณาแบบจ่ายเงินให้กับ Search Engine เพื่อที่จะให้ลิงก์เว็บไซต์คุณขึ้นไปอยู่อันดับแรกของหน้าผลการค้นหา หรือที่เรียกกันว่า การโฆษณาแบบ Pay-per-click

การใช้งาน SEM คุณต้องเลือก Keyword ที่สอดคล้องกับคำค้นหาของลูกค้าเข้ากับสินค้า/บริการของคุณ และสร้าง Responsive Search Ads ขึ้นมาเป็นลิงก์ในหน้าผลการค้นหา และจะปรากฏคำว่า “Ads” ที่หัวของ Title

วิธีที่จะทำให้โฆษณาขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของหน้าได้คุณต้องใช้การ Bidding หรือประมูล Keyword ที่จะใช้ ยิ่งคำไหนที่มียอดการค้นหาเยอะ และค่า Conpetition พุ่งสูงก็ต้องเสียค่าโฆษณาต่อครั้งสูง และรวมไปถึงคะแนนคุณภาพของโฆษณาที่คุณจะเห็นตอนเขียนคำโฆษณาในหน้าของ Responsive Search Ads มีตั้งแต่ Poor – Excellent โดยค่าคุณภาพของโฆษณาต้องไม่ต่ำกว่าค่า Good และดีที่สุดคือ Excellent

SEM

 

3. รับออกแบบเว็บไซต์

การออกแบบเว็บไซต์ให้ง่ายต่อการค้นหาเป็นอีกสิ่งที่คุณควรรู้ด้วย เพราะจะทำให้ลูกค้าค้นหาคอนเทนต์ของคุณได้เร็วขึ้น มีจุดนำสายตาควรทำอะไรต่อ คอนเทนต์ไหนน่าสนใจ และหากออกแบบเว็บไซต์ออกมาไม่ดีก็อาจเป็นอันตรายต่อ SEO และความน่าเชื่อถือของแบรนด์คุณด้วย

H1 Tag รูปภาพ ความเร็วในการโหลด และโครงสร้างลิงก์ที่ไม่มี Error คือหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับเว็บไซต์และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ Digital Marketing Agency จะต้องช่วยคุณออกแบบเว็บไซต์ที่จะนำพาลูกค้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างไร้ที่ติและไปจบตรงที่จุดซื้อสินค้า/บริการจากคุณ

ออกแบบเว็บไซต์

 

4. Social Media Marketing

โซเชียลมีเดียเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยเช่นกัน เพราะจำนวนผู้ใช้งานที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ มีเพิ่มขึ้นทุกวันและมีบุคคลหลากหลายกลุ่มเข้ามาใช้งานด้วย ทำให้ช่องทางโซเชียลมีเดียมีความหลากหลายตามไปด้วยขึ้นอยู่กับบริบทของผู้ใช้งาน ซึ่งทำให้คุณและ ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเข้าถึงตัวลูกค้าแต่ละประเภทได้ง่ายขึ้น

เอเจนซีจะช่วยคุณสร้างคอนเทนต์/โฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละช่องทางจำแนกตามภูมิประเทศหรือข้อมูลจำเพาะบุคคล และนำเสนอแบรนด์คุณให้ตรงกับลูกค้าเหล่านั้นในแต่ละพื้นที่

นอกจากนี้เอเจนซียังทำผลการวิเคราะห์ลูกค้าเชิงลึกจากโซเชียลมีเดียของคุณ ช่วยให้วางแผนแคมเปญโซเชียลมีเดียดึงดูดยอดขายให้กับแบรนด์คุณและจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้สำหรับการขายครั้งต่อไปอีกด้วย

social media marketing

 

5. Email Marketing

เป็นวิธีที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นทางการที่สุด แต่ก็น่าแปลกใจที่มียอดการสั่งซื้อและ Engagement จากช่องทางนี้มากที่สุดเช่นกัน

การส่งโปรโมชันหรือการโฆษณาใด ๆ ผ่านอีเมลจำเป็นต้องจำแนกลูกค้าให้เหมาะสมกับอีเมลแต่ละประเภทก่อน จากนั้นจึงทำอีเมลให้เป็น Personalization ปิดท้ายด้วยการใช้ข้อความที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์และมีจุด CTA ชัดเจน จะช่วยลดเวลาการดูแลอีเมลแต่ละฉบับได้ดีขึ้น และยังเพิ่ม Conversion Rate กลับมาที่แบรนด์ของคุณได้ดีขึ้นด้วย อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Email Marketing ได้ที่นี่

email marketing

 

6. Retargeting / Remarketing

หากลูกค้าเคยซื้อสินค้า/ใช้บริการคุณไปแล้วและต้องการให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำ สิ่งนี้ช่วยได้ ด้วยการนำเสนอสินค้าเสริมที่ใช้ควบคู่กับสินค้าที่ซื้อไปก่อนหน้าหรือนำเสนอโปรโมชันที่เกี่ยวกับประวัติการซื้อสินค้าล่าสุดของลูกค้าก็ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น

การทำ Retargeting จะอาศัยการใช้งาน Third-party Cookies จุดเล็ก ๆ บน Search Engine ขอข้อมูลที่น่าสนใจจากลูกค้ามาประกอบทำโปรโมชันหรือคอนเทนต์ ซึ่งคอนเทนต์ที่ทำจะต้องพุ่งเป้าไปที่คุณค่าที่ลูกค้าจะได้ “หากหวนกลับมาซื้อสินค้า/บริการของเราอีกครั้งหนึ่ง”

Retargeting

ที่มา : Sunnysideupstudio


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

7. การสร้างและการปรับปรุงคอนเทนต์

การทำคอนเทนต์ปกติเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ให้ลูกค้าเข้าใจ ช่วยเพิ่ม Brand Awareness และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของแบรนด์กับลูกค้า ยกระดับให้แบรนด์กลายเป็นคู่ค่าที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้า การทำคอนเทนต์จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการตลาดออนไลน์ที่ละเอียดอ่อนในการเข้าถึงตัวลูกค้าแบบที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียวที่ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งสามารถทำให้คุณได้

การทำคอนเทนต์จะผลิตคอนเทนต์แนวให้สาระความรู้กับลูกค้าเสียส่วนมาก เพื่อตอบคำถามคาใจของลูกค้าได้อย่างตรงจุด หรือบางครั้งก็เป็นคอนเทนต์พูดคุยกับลูกค้าในการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายด้วย

ส่วนมากแล้วการทำคอนเทนต์มักทำในรูปแบบวิดีโอ บล็อก อินโฟกราฟิก โพสต์โซเชียลมีเดีย และ Email Marketing

content

 

8. Affiliate Marketing

กลยุทธ์นี้ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง หลายเจ้าเริ่มนำมาใช้ในองค์กรบ้างแล้ว เป็นการตลาดที่จ่ายค่าโฆษณาตามผลงานที่ได้รับโดยดูจากยอด Conversion มากกว่าดูจากจำนวน Traffic ยิ่งไปกว่านั้นการทำการตลาดแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็น Influencers เท่านั้นถึงจะทำได้ แม้แต่คนธรรมดาที่มีผู้ติดตามเยอะก็หารายได้จากช่องทางนี้ได้เช่นกัน

และอัตราการคิดค่าจ้างคำนวณจากเปอร์เซ็นต์รายได้ที่คุณได้รับจากยอดขายว่ามาจากทางช่องทางไหน ยิ่งสัดส่วนรายได้มาจากช่องทาง Influencers รายใดรายหนึ่งมาก Influencer รายนั้นก็จะได้ค่าตอบแทนไปในสัดส่วนที่สูงตาม

 

อ่านบทความ Influencers กับการทำ Affiliate Marketing ได้ที่นี่

 

9. การตลาดแบบผสมผสาน

ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งบางเจ้าตอนนี้ได้มีการพัฒนาไปถึงระดับที่สามารถให้บริการด้านการตลาดแบบครบวงจรได้แล้วตามที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการผสมผสานกลยุทธ์การตลาดทั้งหมดเพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้ลูกค้าที่มีคุณภาพได้ดีที่สุด มากกว่าการหาลูกค้าแบบ “มีเท่าไหร่ก็คว้าเอาไว้” ซึ่งทำให้ได้ลูกค้าที่ไม่มีคุณภาพและยอดขายก็ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย

ยกตัวอย่าง เอเจนซีรับบรีฟโฆษณาสินค้าชิ้นหนึ่งจากลูกค้า จึงวางแผน ออกแบบให้ทำคอนเทนต์สินค้าชิ้นนี้ลงบล็อกโพสต์โซเชียลมีเดีย ว่าจ้าง Influencers ให้แชร์/ทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าบนแชนแนลของตัวเองพร้อมแปะลิงก์ซื้อสินค้าเอาไว้ให้ เขียน/ทำคลิปวิดีโอรีวิวสินค้าทั้งบนเว็บไซต์ของแบรนด์และ Backlink จัดทำโฆษณาลงบน Search Engine และสุดท้ายโปรโมทสินค้าชิ้นนี้ให้ลูกค้าเก่าเห็นบนอีเมลแบบครบวงจร

ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณเผยแพร่โฆษณาสินค้าชี้นนี้ได้เร็วด้วยการใช้เพียงเอเจนซีเจ้าเดียว สามารถสื่อสารกับลูกค้าในช่องทางที่เหมาะสมได้มากกว่า

 

ทั้ง 9 ข้อคือบริการด้านการตลาดออนไลน์ที่เอเจนซีสามารถรังสรรค์ให้คุณได้ ซึ่งนำคุณกลับมาสู่คำถามสำคัญของบทความนี้คือ “ถ้าเอเจนซีมีบริการหลากหลายและมีอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศแบบนี้ เราจะใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกหาเอเจนซีที่เหมาะสมกันล่ะ?” นี่จึงเป็นที่มาของหัวข้อถัดไป

 

9 ทริคเลือกเอเจนซีที่ดีที่สุด

 

1. ประเมินงบประมาณของแบรนด์

ก่อนจะทำอะไรไม่ว่าอะไรก็ตาม เริ่มต้นด้วยการประเมินงบประมาณการตลาดที่คุณมีว่าอยากเอาไปลงกับการตลาดส่วนไหนมากที่สุด

เพราะถ้าความต้องการของคุณคือบูสท์แบรนด์บนโซเชียลมีเดียอย่างเดียว คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนไปกับการปรับปรุงเว็บไซต์หรือทำ SEM / Responsive Search Ads เลย ดังนั้นพิจารณาจุดประสงค์ของการจ้างเอเจนซี เป้าหมายทางการตลาด และคำนวณงบการตลาดให้เรียบร้อยก่อนจ้างดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง

budget calculation

 

2. หาตัวเต็งในหมู่ Digital Marketing Agency ด้วยกันเอง

เมื่อเลือกช่องทางได้แล้ว ต่อมาคือค้นหาเหล่าตัวจริงในแพลตฟอร์มนั้น ๆ พร้อมกับพูดคุยเพื่อค้นหาทักษะ ประสบการณ์ และความสามารถที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

ดังนั้นกดเข้า Google ค้นหาว่าเอเจนซีที่คุณจะคุยด้วยนั้นอยู่ในอันดับไหนของหมวด ยกตัวอย่าง พิมพ์ไปว่า “เอเจนซีทำ SEO ที่ดีที่สุดในไทย” แล้วกดค้นหาก็จะได้ข้อมูลออกมาตามนี้

จากในรูปจะเห็นว่าเว็บไซต์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งที่ปรากฏขึ้นมาคือ Primal ไม่นับรวมเว็บไซต์อื่นที่เป็นคอนเทนต์รวบเอเจนซี

เมื่อได้เอเจนซีที่ต้องการแล้ว พยายามมองหากลุ่มลูกค้าที่เคยใช้บริการ หาว่ากลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ที่เอเจนซีเคยให้บริการมาก่อนอยู่กลุ่มไหน หากกลุ่มลูกค้าไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับคุณและไม่มีหนึ่งในคู่แข่งของคุณอยู่ด้วย ให้ชวนคุยในหัวข้อประสบการณ์ที่พวกเขามี ความถนัดและความสามารถที่เป็นจุดแข็งของพวกเขาเป็นหลัก ทำให้เหมือนตอนสัมภาษณ์พนักงาน หาคนที่ใช่ที่เข้ากับองค์กรได้ เพราะในอนาคตเอเจนซีเหล่านี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรคุณ

digital marketing agency

 

3. ค้นหาเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญ เหมาะสมกับธุรกิจคุณ

สืบเนื่องจากจุดประสงค์ทางการตลาดของคุณจากข้อ 1 ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการคัดเลือกเอเจนซีที่ใช่อิงจากเทคนิคการตลาดที่พวกเขาใช้ กลยุทธ์ต่าง ๆ ความคิดด้านการโฆษณาอย่างสร้างสรรค์ที่อยู่ในกรอบแพลตฟอร์มออนไลน์ที่คุณตั้งไว้ เพราะเอเจนซีบางเจ้าก็มีความถนัดในแต่ละแพลตฟอร์มไม่เหมือนกัน ในขณะที่บางเจ้าจะถนัดทั้งหมดเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับทักษะ ประสบการณ์และความสามารถของบุคลากรที่มี

ด้วยทักษะและประสบการณ์ที่นักการตลาดมี คุณสามารถขอหลักฐานหรือพอร์ตผลงานจากเอเจนซีเพื่อดูว่าพวกเขามีประสบการณ์เคยทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมของคุณมาก่อนหรือเปล่า อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้แปลว่าเอเจนซีทุกที่จะเคยจับงานในแวดวงธุรกิจคุณมาก่อน ถ้าหากพวกเขาไม่เคยทำ ลองถามดูว่าจะเข้าถึงอุตสาหกรรมเดียวกับคุณได้ยังไงแล้วจะวางแผนกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมนี้ยังไงโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่คุณมี พร้อมกับให้พวกเขาเสนอราคา แพ็กเกจและช่วงระยะเวลาให้บริการให้คุณตัดสินใจอีกที


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

4. ทำ Background Research หาความน่าเชื่อถือ หาตัวตนของเอเจนซีให้เจอ

ขั้นถัดมาคือตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ประวัติย้อนหลังของเอเจนซีที่คุณเลือกมาแล้ว โดยเริ่มจากอ่านคำรีวิวหรือเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จมาแล้วของลูกค้าก่อนหน้าบนเว็บไซต์ แต่ถ้าอยากได้คำรีวิวที่ดีที่สุดและน่าเชื่อถือ ลองพิมพ์ชื่อเอเจนซีบน Google แล้วตามด้วยคำว่า “รีวิว” คุณก็จะได้ความเห็นจากลูกค้าก่อนหน้ามาแบบเพียว ๆ ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี พยายามหาข้อมูลจุดแข็ง จุดอ่อนของเอเจนซีตามคำบอกเล่าของลูกค้าเพื่อดูวิธีรับมือของเอเจนซีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจุดอ่อนของตัวเองประกอบการตัดสินใจ

นอกจากนี้ให้ตรวจสอบการมีตัวตนบนโลกออนไลน์ทั้ง Facebook, LinkedIn, Website อื่น ๆ ที่ปรากฏบนออนไลน์จะช่วยให้คุณหาตัวตนของเอเจนซีเจอได้ง่ายขึ้น

 

5. ความโปร่งใส

หลังจากค้นหาข้อมูลทั้งคำรีวิว Google, Facebook, LinkedIn Website เพื่อหาตัวตนแล้ว ในขั้นนี้คือการตรวจสอบความโปร่งใสของดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง

ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของเอเจนซี หากพบว่าข้างในดูผิดแปลกจากปกติ เช่น การจัดวางโครงสร้างเว็บไซต์ใช้งานยาก ดีไซน์ โทนสี ฟอนต์ดูเป็นแบบเก่าไม่มีการอัปเดต ข้อมูลที่ควรมีอย่างใบรับรอง รีวิวลูกค้าหรือที่อยู่เอเจนซีมีไม่ครบ หรือใช้งานแล้วรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก ก็เป็นไปได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องและไม่ควรว่าจ้าง

ยิ่งไปกว่านั้นเอเจนซีที่มีช่องทางการติดต่อหลายช่องทางก็ถือว่าเป็นข้อดี เข้าไปยังช่องทางเหล่านั้นเช็กเวลาโพสต์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ถ้านานเป็นปีหรือไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยมานานมากจนดูแปลก เป็นไปได้ว่าธุรกิจของพวกเขากำลังไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะถ้าดีจริงนักการตลาดที่เก่งจะรู้ว่าไม่ควรปล่อยให้ช่องทางเหล่านี้ทิ้งคอนเทนต์ไว้ว่างนานเกินไปจนขาดช่วง ไม่ได้สร้างสัมพันธ์กับลูกค้าของตัวเองอย่างที่ควร และลูกค้าจะหดหายไปในที่สุด

ภายหลังที่คุณว่าจ้างเอเจนซีเรียบร้อยแล้ว คอยหมั่นพูดคุยกับเอเจนซีเรื่อย ๆ เช็กว่าทีมงานคนไหนที่เข้ามาดูแลงานให้คุณบ้าง คนไหนอยู่ คนไหนออก และขอตรวจสอบแผนการตลาดจากพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ

 

6. ถามคำถามที่ตรงประเด็น

การเฟ้นหาเอเจนซีที่ใช่ก็เหมือนกับการสัมภาษณ์งาน ถามคำถามที่ถูกต้องก็จะได้เพื่อนร่วมงานตรงตามความต้องการของคุณ อย่างแรกคุณจะต้องตั้งเป้าจุดประสงค์การทำการตลาดเอาไว้ชัดเจนหากพบว่าเอเจนซีไม่สามารถไปด้วยกันได้ก็ปัดออกไปได้ ดังนั้นในระหว่างที่คุยกันคุณต้องเตรียมคำถามที่เหมาะสมในการถามเอเจนซีประกอบการตัดสินใจ

 

  • ถามเกี่ยวกับผลลัพธ์แคมเปญในอดีต

    ร้องขอพอร์ตหรือตัวอย่างผลงานที่เคยทำมาในอดีตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณมาก่อน พร้อมทั้งขอตัวอย่างผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนด้วย ช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการเอเจนซีได้ดีขึ้น

  • ถามข้อมูลผู้ประสานงานและทีมงานที่จะมาทำงานด้วย

    ทีมงานเอเจนซีก็เหมือนเป็นพนักงานในองค์กรคุณเช่นกัน ทั้งเอเจนซีและทีม In-house ต้องทำงานช่วยเหลือกันทั้งสองฝ่าย ในการที่จะสร้างความสัมพันธ์และคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมให้ทำงานร่วมกันจำเป็นต้องรู้จักอีกฝ่ายหนึ่งก่อน

  • มุมมองความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาฐานลูกค้า

    เอเจนซีที่มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาใช้บริการบ่อย ๆ หมายความว่าเอเจนซีเจ้านั้นสามารถมอบประสบการณ์ในด้านดีให้กับลูกค้าได้ มีวิธีการรักษาฐานลูกค้าในแบบของตัวเอง และโฟกัสกับการทำ Retention Marketing

  • มุมมองความเข้าใจในเรื่องผลลัพธ์ที่คาดหวัง

    เอเจนซีที่ตอบรับทำการตลาดทันทีในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง หรือมีความซับซ้อนสูงโดยที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองอย่างดีเสียก่อนหรือไม่เคยมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาก่อน อาจสงสัยได้ว่าเป็นเอเจนซีที่ไม่มีการเตรียมตัวมาก่อนและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดของคุณได้

  • ถามว่า ROI ที่ตั้งไว้จะใช้กลยุทธ์ไหนมาทำให้บรรลุผล

    เล่าจุดประสงค์ของแคมเปญและเกณฑ์การประเมิน KPI ของคุณให้เอเจนซีฟัง สอบถามพวกเขาเกี่ยวกับ ROI ที่คุณจะได้คืน ใช้เวลานานแค่ไหน ได้คืนมาเท่าไหร่ แล้วต้องลงงบไปเท่าไหร่ จะใช้กลยุทธ์ไหนเพื่อให้ถึงจุด ROI ที่ตั้งเป้าไว้

questioning

 

7. สอบถามข้อเสนอ

ถึงขั้นนี้คุณอาจจะเลือกดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เอาไว้ในใจหลายเจ้าบ้างแล้ว ลองถามพวกเขามีกลยุทธ์อะไรหรือข้อเสนออะไรโดนใจให้คุณได้บ้าง แล้วนำมาเปรียบเทียบกับเอเจนซีเจ้าอื่น ๆ ชั่งน้ำหนักความคุ้มค่า ข้อดี ข้อเสีย แล้วเลือกบริษัทที่มอบข้อเสนอจูงใจและคุ้มกับงบที่ให้ไปมากที่สุด

การสอบถามอย่างเดียวอาจไม่เห็นภาพ ลองขอให้พวกเขาคิดกลยุทธ์และทำแคมเปญเกี่ยวกับสินค้าของคุณขึ้นมาเป็นตัวอย่าง พร้อมผลลัพธ์ทางการตลาดที่คาดเอาไว้ให้คุณพิจารณาดูก็ได้ ในส่วนนี้คุณจะได้เห็นคุณภาพของแคมเปญว่าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน จำนวนงบประมาณ (ที่รวมค่าเอเจนซีแล้ว) อยู่ในเกณฑ์ที่คุณรับได้หรือเปล่าจะช่วยให้คุณเข้าใจความสามารถของเอเจนซีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

และหากคุณกำลังมองหาเอเจนซีที่มีบริการออกแบบและคิดแผนทางการตลาดให้คุณคร่าว ๆ เป็นตัวอย่างแล้วล่ะก็ ติดต่อ Cotactic บริษัทเอเจนซีการตลาดออนไลน์ เรารับทำ Facebook Ads , รับทำ SEO , รับทำ Google Ads วางแผนและให้คำปรึกษาด้านการตลาดกับคุณเป็นตัวอย่าง ให้คุณเข้าใจหลักการทำงานของแพลตฟอร์มออนไลน์และกลยุทธ์ที่เราใช้ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้คุณได้รู้ และทั้งหมดนี้คือบริการฟรี! ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ติดต่อหาเราตอนนี้ได้เลย เพียงคลิกที่ปุ่มข้างล่าง


ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว

 

8. แผนระยะยาว

เมื่อได้เอเจนซีที่ตรงสเปกหลายข้อแล้ว ต่อมาคือสอบถามถึงแผนการพัฒนาการตลาดออนไลน์ในระยะยาว เพราะอยากให้คำนึงว่าการบรรลุเป้าหมายทางการตลาดแต่ละครั้งไม่ใช่ปล่อยแคมเปญแล้วจบเลย จะต้องอาศัยความอดทนและระยะเวลาเพื่อซื้อใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นการให้เอเจนซีช่วยวางแผนระยะยาวให้จะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มทุนมากกว่า

Digital Marketing เป็นกระบวนการที่กินเวลานาน ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว Digital Marketing Agency จะต้องออกแคมเปญหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดอยู่เสมอเพื่อบูสท์ให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบ UX/UI เว็บไซต์ การหา Keyword เขียนคอนเทนต์ ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ใหม่ ติดต่อประสานงานกับ Influencers เมื่อช่องทางปกติมี Traffic เข้ามาน้อย หมั่นโพสต์โซเชียลมีเดียบ้างให้รู้ว่าแบรนด์ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหน กระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้อย่างเหนียวแน่น สิ่งเหล่านี้คือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาวที่เป็นไปตามเนื้อผ้า

ฉะนั้นจะเป็นข้อดีอย่างมากหากเอเจนซีที่คุณกำลังจะเลือกมีแผนการทำการตลาดในระยะยาวสำรองไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้คุณได้ไปอีกระดับ

 

9. ราคาที่ดีคู่ควรกับบริการที่ให้

ต่อมาดูเรื่องของราคาค่าใช้จ่ายกันบ้างโดยอิงจากงบประมาณที่คุณตั้งไว้ตั้งแต่แรก เรื่องของราคาค่าใช้จ่ายในการจ้าง ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งและราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการยิงโฆษณาแต่ละครั้งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ แต่ยังไงก็แล้วแต่ไม่ควรเลือกโปรโมชันหรือแพ็กเกจราคาถูกอยู่เสมอ เพียงเพราะจำนวนเอเจนซีในสายงานนี้มีมากเกินไปจึงต้องหาราคาที่ถูกที่สุดบวกกับคำโฆษณาที่แต่ละเจ้าใช้เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจเข้ามาลองใช้บริการ

จึงเป็นเหตุผลให้คุณต้องพิจารณา ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่างเอเจนซีที่ประสบการณ์ การทำโฆษณาอาจยังไม่เก่งฉกาจแต่ได้ราคาถูก กับเอเจนซีที่มีชื่อเสียงในสายงานนี้ มีความรู้ ความสามารถมากพอที่จะพาธุรกิจคุณขึ้นจากน้ำได้ แต่ราคาก็สูงลิบลิ่วเช่นกัน และสุดท้ายเอเจนซีแบบกลาง ๆ ไม่ได้เป็นมือใหม่ แต่ก็ไม่ได้เก่งถึงขั้นพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และได้ราคาที่สมน้ำสมเนื้อ พอทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างได้ ถ้าคุณคิดว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า ก็ตัดสินใจเลือกเลย และขอทิ้งท้ายประโยคสั้น ๆ ที่ชวนให้คุณหันกลับมาคิดอีกรอบหนึ่ง

 

“ถูกไม่ได้แปลว่าดีเสมอ และแพงก็ไม่ได้แปลว่าคุ้มค่าเช่นกัน”

pricing

 

สุดท้ายนี้ขอให้คุณจดจำเพียง 3 ประโยคนี้เอาไว้ใช้ในการคัดเลือก Digital Marketing Agency ของคุณ 1. การคัดเลือกเอเจนซีก็เหมือนกับสัมภาษณ์พนักงานเข้ามาทำงาน รู้จักเขา รู้จักเรา แล้วงานจะเป็นไปได้ด้วยดี 2. กลยุทธ์ทางการตลาดที่มี ความรู้ ความสามารถ ความถนัด และความเชี่ยวชาญของเอเจนซีคือสิ่งที่คุณต้องดูให้ละเอียด เพราะคุณอาจเลือกเอเจนซีที่ไม่ตรง KPI มาได้ 3. แพ็กเกจราคาถูกไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป และแพงก็ไม่ได้แปลว่าจะคุ้มค่าเช่นกัน พิจารณาจากงบที่มีและเป้าหมายทางการตลาดที่ตั้งไว้จะได้เอเจนซีที่คุ้มค่ากลับมา

 

——————————————————————–

 

ร่วมงานกับทีม Cotactic Media หนึ่งในบริษัทโฆษณาออนไลน์ชั้นนำของเมืองไทย ที่จะช่วยให้คุณตอบโจทย์การหาลูกค้าให้คุณได้ตามเป้าหมายแบรนด์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness หรือ Lead Generation ก็ทำได้หมด ถ้าไม่มั่นใจต้องการขอคำปรึกษาหรือขอดูตัวอย่างกลยุทธ์ที่เรามีประกอบการตัดสินใจ เรายินดีบริการให้คำปรึกษาฟรี! ไม่คิดค่าใช้จ่าย ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทีม Cotactic เพื่อให้เราเป็น Collaborative Marketing Partner ทำงานเป็นทีมร่วมกันกับคุณ

 

——————————————————————–

 

ติดต่อ

โทร.065-095-9544

Inbox: https://m.me/cotactic

Line@: https://line.me/R/ti/p/@cotactic

 

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล

https://creativereactive.com/blog/digital-marketing-agency/ 

https://digitalagencynetwork.com/digital-marketing-agency-services-list-how-can-digital-agencies-help-your-business-growth/ 

https://marketinginsidergroup.com/marketing-strategy/best-digital-marketing-agency/ 

 

Facebook Comment
บทความที่เกี่ยวข้อง

LSI keywords คืออะไร ทำไมถึงต่างจากคีย์เวิร์ดประเภทอื่นๆ

วันนี้เราจะมาพูดถึงเทรนด์การทำคอนเทนต์ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับให้ Google เข้าใจบริบทของเนื้อหาที่เราต้องการทำ SEO ให้ดีมากยิ่งขึ้น กับการทำ LSI keywords ที่เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง โดย LSI keywords คืออะไร ทำไมถึงต่างจากคีย์เวิร์ดประเภทอื่น ๆ เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดมาให้คุณแล้วในบทความนี้   LSI keywords คืออะไร?   LSI keywords คือการใช้เทคนิคเลือกคำที่สอดคล้องกับ Main keyword หลัก ที่เราต้องการจะโฟกัสหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา เพื่อให้ Google เข้าใจในคอนเทนต์ และบริบทที่เราต้องการจะสื่อ ยกตัวอย่างเช่น เราจะทำบทความเกี่ยวข้องกับการเล่นสงกรานต์ เราอาจจะลองหา Keyword Search Related ที่น่าสนใจ เช่น สงกรานต์ สถานที่จัด, สงกรานต์ ทำอะไรบ้าง เป็นต้น ซึ่งการทำ LSI keywords ที่ดี จะช่วยให้คนค้นหาเจอได้ง่าย และยังช่วยให้หน้าเว็บของเราถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่บริษัทรับทำ SEO […]

Landing Page คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Landing Page กันแล้ว แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่า Landing Page คือ อะไร มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกกับประโยชน์ของ Landing Page ในทุกแง่มุมที่คุณอาจไม่เคยรู้   Landing Page คืออะไร Landing Page คือหน้าเว็บไซต์หนึ่งหน้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง เช่น เพื่อนำเสนอสินค้าบริการ, เพื่อโฆษณาส่วนลดโปรโมชั่น หรือเพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลรับข่าวสาร โดย Landing Page ในแต่ละเว็บไซต์ก็มีหน้าตาและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป   เพราะอะไร Landing Page จึงจำเป็นต้องมี 1.ช่วยกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากในหนึ่งหน้า Landing Page เราสามารถแจ้งโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ทันที ยิ่งหน้าตามีดีไซน์ที่สวยงาม หรือมีความน่าสนใจมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งช่วยกระตุ้นยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น   2.ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจ การทำ Landing Page อย่างชาญฉลาดจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าทำในสิ่งที่ตัวธุรกิจต้องการ เช่น สั่งซื้อสินค้าและบริการ, กรอกข้อมูลเพื่อสมัครสมาชิก หรือ ติดต่อสื่อสารเพื่อพูดคุยกับตัวธุรกิจโดยตรง […]

E commerce คือ อะไร ? พร้อมวิธีทำ SEO ให้กับ E-commerce

ในปัจจุบัน ธุรกิจออนไลน์ ดิจิทัลเอเจนซี่ หรือแม้แต่คนทั่วไป น่าจะคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์แบบ E-commerce เป็นอย่างดี หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการจะเพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์นี้ E Commerce คือ คำตอบ ซึ่งในบทความนี้ Cotactic รวบรวมความรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำ Website E-commerce มาให้คุณแล้ว! พร้อมแนะนำเทคนิคทำ E-commerce SEO ฉบับบริษัทรับทำ SEO   E-commerce คืออะไร E-commerce คือ การซื้อ – ขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” เพราะเป็นธุรกรรมการเงินที่ต้องทำผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก โดยทั่วไป E-commerce สามารถปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือธุรกิจแบบ B2C (Business to Customer)   ทำไม E-commerce จึงสำคัญในยุคปัจจุบัน 1. ต้นทุนในการจัดการและการบริหารที่ต่ำ แค่คุณมีหน้าร้านผ่านทางออนไลน์ ทุกคนก็สามารถดำเนินธุรกิจ […]