click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

คอนเทนต์ที่พบเห็นในทุกวันนี้มีไม่น้อยที่เขียนเพื่อให้ทันกระแส เน้นเทรนด์ดังที่กำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ประเภทนี้มักจมหายไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะการเขียนคอนเทนต์เน้นกระแสสังคมเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเพียงชั่วครู่ แต่หากต้องการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ไม่หมดความนิยมเมื่อเวลาผ่านไป ต้องทำความรู้จักกับ Evergreen Content ซึ่งมีลักษณะที่คงความสดใหม่ไว้ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ตาม ตรงตามชื่อ Evergreen ที่แปลว่า ‘เขียวชอุ่มอยู่เสมอ’ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ให้ขึ้นอยู่ในหน้าแรกของ Search Engine โดยเลือกคีย์เวิร์ดและคอนเทนต์ดี ๆ มีข้อมูลที่ถูกต้อง อ่านเข้าใจง่าย เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างบทความที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน แล้วข้อควรรู้เกี่ยวกับ Evergreen Content มีอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย

Evergreen Content คือ

Image2

Evergreen Content คือการเขียนคอนเทนต์ที่ไม่มีวันตกยุค ไม่เน้นความเป็นกระแส แต่เป็นเนื้อหาที่มีคุณค่าไม่ถูกลืมเลือนตามกาลเวลา ลักษณะของ Evergreen Content เป็นคอนเทนต์เชิงความรู้ บอกข้อเท็จจริง การอธิบายความหมาย ผลการศึกษา ขั้นตอนหรือวิธีการ จึงเปรียบเสมือนคลังความรู้ที่เก็บไว้อ่านเมื่อใดก็ได้  โดยกว่าจะมีคอนเทนต์แบบ Evergreen Content ต้องผ่านการค้นคว้าอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและใช้เวลาศึกษาเนื้อหาพอสมควร Evergreen Content มีรูปแบบที่นิยมใช้ 8 รูปแบบ ดังนี้

รูปแบบของ Evergreen Content ที่นิยมใช้

1. How-to guide or tutorial

Evergreen Content แบบแรกเป็นแบบ How to guide หรือ Tutorial หรือก็คือการนำเสนอวิธีการหรือขั้นตอนสำหรับทำบางสิ่ง มีวิธีสังเกตได้จาก Keyword เช่น วิธี, ขั้นตอน, เทคนิค, เคล็ดลับ ตัวอย่างเช่น วิธีเลือกเต็นท์สำหรับค้างแรมในป่า, เทคนิคการหมักหมูให้นุ่ม, การเช็ดกระจกให้เงาใส ทำอย่างไรได้บ้าง, 4 เคล็ดลับ การทำ Infographic ให้น่าสนใจ

2. FAQ

FAQ (Frequently Asked Questions) คือคอนเทนต์ที่เขียนขึ้นเพื่อตอบคำถามที่ผู้คนมักสงสัย เช่น ทำไมดื่มนมแล้วท้องเสีย, ทำไมเป็นประจำเดือนแล้วปวดหลัง เป็นต้น แม้เวลาผ่านไปนานแล้ว แต่คำถามหลายคำถามยังคงมีคนสงสัยอยู่ตลอด การทำคอนเทนต์ประเภทนี้จึงช่วยดึงให้คนเข้ามาอ่านเนื้อหาของเราได้บ่อยครั้ง

3. Guide

Guide หรือการแนะนำให้ผู้อ่านทำตาม เป็นแนวทางให้มองเห็นภาพได้ง่ายขึ้น เช่น การฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ภายใน 3 เดือน, อยากลดน้ำหนักได้ไว ๆ ต้อง 5 วิธีนี้ ! เป็นต้น เป็นการแนะนำที่เจาะจงแค่หัวข้อเฉพาะเรื่อง

4. Listicle

Listicle มีลักษณะการรวบรวมหรือเช็กลิสต์ต่าง ๆ โดยจะต้องมีตัวเลขแสดงจำนวนที่ชัดเจน การเช็กลิสต์ทำให้ผู้อ่านสนใจเข้าดูเว็บไซต์เพราะสะดวกเมื่อต้องการหาข้อมูลหลายอย่างพร้อมกันหรือต้องการเปรียบเทียบข้อมูลแต่ละที่ เช่น 10 สุดยอดสวนสนุกระดับโลกในเอเชีย, 30 คำศัพท์การตลาดออนไลน์ยอดนิยม เป็นต้น

5. Expert interview

การสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นวิธีที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้คอนเทนต์ของเราได้วิธีหนึ่ง เพราะเนื้อหาบางเรื่องต้องการข้อมูลเชิงลึก เมื่อสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญจึงถือเป็นการถ่ายทอดข้อเท็จจริงและอาจได้รับมุมมองใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

6. Case study

Case study คือกรณีศึกษาที่เป็นการเล่าเรื่องของผู้ที่ผ่านการทำบางสิ่งด้วยตัวเองแล้วได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เป็นคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จบ้าง เช่น การบอกเล่าวิธีลดน้ำหนัก 2 กิโลกรัมภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งมีเนื้อหากล่าวถึงกิจวัตรของผู้เล่า รวมทั้งความลำบากระหว่างลดน้ำหนัก สร้างแรงกระตุ้นให้รู้สึกอยากทำตามได้

7. Resource library

Evergreen Content คือคอนเทนต์ที่รวบรวมข้อมูลที่ทรงคุณค่าไว้ในแต่ละคอนเทนต์ จากการค้นคว้าอย่างละเอียดจนได้สรุปมาเป็นเนื้อหาที่อัดแน่นด้วยความรู้จนเหมือนเป็นห้องสมุดแห่งหนึ่ง Evergreen Content รูปแบบอื่น ๆ ก็เชื่อมโยงกับ Resourse library ในแง่ของการมีเนื้อหาเข้มข้นเช่นกัน

8. Infographic

Infographic เป็นการนำเสนอข้อมูลที่มีกราฟิกเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น คอนเทนต์หลายแบบก็มักทำเนื้อหาให้ออกมาในรูปแบบ Infographic ประกอบไปด้วยรูปภาพ สีสัน ภาพกราฟิก ทำให้ย่อยข้อมูลได้ง่ายและสะดวก

ประโยชน์ของ Evergreen Content

Image4

หลังจากรู้ความหมายและประเภทของ Evergreen Content ไปแล้ว คราวนี้มาดูประโยชน์ของ Evergreen Content ที่จะช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงกันบ้าง

1. สร้างการเข้าถึงได้ในระยะยาว

รูปแบบของ Evergreen Content ไม่ได้ปรับไปตามกระแสของโลกที่ทุกวันนี้อะไรก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่เป็นเนื้อหาเชิงความรู้ที่ตอบโจทย์ผู้อ่านได้เสมอแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แม้ไม่ปรับแก้เนื้อหาบ่อยก็สามารถดึงดูดให้ผู้อ่านเข้ามาอ่านในเว็บไซต์ได้ในระยะยาว

2. เพิ่มโอกาสในการแชร์เนื้อหา

เนื่องจาก Evergreen Content เป็นเนื้อหาที่เน้นสาระความรู้ จึงมีความน่าเชื่อถือ ไม่แปลกที่ผู้อ่านจะแชร์เนื้อหาคอนเทนต์ไปยังช่องทางอื่น ๆ เช่น Facebook, Line และอื่น ๆ เป็นการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ไปอีกทาง

3. เพิ่มโอกาสในการเกิด Backlink

ยิ่งเนื้อหาคอนเทนต์มีคุณภาพมากเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับ Backlink จากเว็บไซต์อื่นที่มีความเกี่ยวข้องกัน ส่งผลต่อการทำ SEO เพิ่มระดับการการถูกจัดให้อยู่หน้าแรกของ Google Search อีกด้วย

4. การเข้าชมที่มั่นคง

Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่มีความสดใหม่อยู่ตลอด จึงได้รับความนิยมในการค้นหาอย่างสม่ำเสมอ ต่างจากคอนเทนต์ทั่วไปที่จะมียอดผู้เข้าชมสูงแค่บางช่วงเท่านั้น

4 ขั้นตอนในการสร้าง Evergreen Content

Image1

แม้ Evergreen Content จะเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้อ่านโดยทั่วไปและเป็นเนื้อหาที่ไม่ตกยุค แต่การสร้างเนื้อหาให้ติดหน้าแรกของการค้นหาใน Google นั้นมีหลักการที่ควรปฏิบัติตามอยู่ เพื่อให้ได้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและตอบโจทย์ผู้อ่าน

1. เลือกหัวข้อ

ศึกษาหัวข้อที่สามารถสร้างเป็น Evergreen Content เลือกหัวข้อที่น่าสนใจและตอบสนองความต้องการของผู้อ่านได้ดี และเลือกหัวข้อที่ไม่กว้างเกินไป มีความเฉพาะเจาะจงเพื่อให้เข้าใจง่าย เช่น แทนที่จะตั้งหัวข้อว่า ‘ความแตกต่างของศัพท์ภาษาอังกฤษ’ ก็ควรเป็น ‘ความแตกต่างของ Anyway และ By the way’ เป็นต้น

2. เลือก Keyword

Keyword เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการทำ SEO แนวทางการเลือก Keyword นั้นอาจดูที่ Search Volume ในเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Google keyword planner เพราะจะทำให้เรารู้ว่าคำไหนที่มีการค้นหาบ่อย และควรเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเราเพื่อให้สามารถผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงได้

3. เลือกรูปแบบบทความ

Evergreen Content มีรูปแบบให้เลือกมากมาย อาจเริ่มจากรูปแบบทั้ง 8 อย่างที่ได้รับความนิยม เช่น FAQ, Listable, How-to และอื่น ๆ จะช่วยให้ดึงดูดความสนใจจากคนทั่วไปให้เข้าอ่านบทความและเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ได้

4. เขียน และเผยแพร่เนื้อหา

ก่อนลงมือเขียนต้องค้นข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้สร้างคอนเทนต์ได้ถูกต้องแม่นยำและมีประโยชน์ ไม่ควรเขียนสั้นหรือยาวจนเกินไป และควรเพิ่มเนื้อหาที่แตกต่างจากบทความจากเว็บไซต์อื่นเพราะจะช่วยให้ Google เห็นว่าบทความมีคุณภาพ ส่งผลต่อ SEO พร้อมทั้งใส่ภาพประกอบที่สอดคล้องกัน เมื่อคอนเทนต์เสร็จสมบูรณ์ก็สามารถเผยแพร่ลงทางช่องทางต่าง ๆ ได้เลย

วิธีเพิ่มการเข้าถึง Evergreen Content

Image3

แม้ Evergreen Content จะสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านเข้าชมได้ด้วยตัวเอง แต่ยังมีวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนมองเห็นคอนเทนต์ของเรามากขึ้นผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

1. Social Media

ปัจจุบัน Social Media เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากคนทุกวัย และเป็นพื้นที่ไว้แชร์คอนเทนต์ที่สะดวกรวดเร็ว เช่น Facebook, X(Twitter), Threads, Blockdit, YouTube เป็นต้น

2. E-Mail Marketing

E-mail เป็นสิ่งที่จำเป็นในโลกออนไลน์เพราะใช้ประโยชน์หลายทาง เช่น ทำธุรกรรม สมัครบัญชี ฯลฯ จึงสามารถเผยแพร่ Evergreen Content ผ่านทาง E-mail เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าเห็นคอนเทนต์มากขึ้นนั้นเอง

3. Guest Blogging

Guest Blogging คือการโพสต์บทความในเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา เพื่อทำการ Backlink และเพิ่มอันดับ SEO ให้สูงขึ้นนั่นเอง เมื่อ Google มองว่าเว็บไซต์เราน่าเชื่อถือก็มีโอกาสที่คนจะสนใจและเพิ่มยอดผู้เข้าชมได้

4. Content Syndication

Content Syndication คือการที่เราไปเขียนบทความในเว็บไซต์อื่นที่มักเป็นเว็บไซต์ใหญ่ เช่น Yahoo, Kapook, Sanook, The Standard, The Republic World หรือเว็บข่าวสารต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้อ่านกลุ่มใหญ่มากขึ้น และมีโอกาสใช้เป็น Backlink ได้ด้วย

5. Paid Ads

การจ่ายเงินเพื่อโฆษณา แม้จะต้องเสียเงินแต่ก็สามารถเจาะกลุ่มผู้อ่านที่เราต้องการได้ เป็นการขยายฐานผู้อ่านได้กว้างขวางไม่น้อย

สรุป

Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ให้อยู่ในหน้าแรกของการค้นหาใน Google ได้โดยไม่จำเป็นต้องเขียนคอนเทนต์ใหม่บ่อย ๆ เพื่อให้ทันกระแสแต่อย่างใด แต่เน้นให้ความรู้และบอกข้อเท็จจริง เรียกได้ว่า Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่อยู่เหนือกาลเวลาจริง ๆ

สนใจปรึกษา Cotactic

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่มีทีมการตลาด หรือเป็นนักการตลาดที่ต้องการผู้ช่วยทำโฆษณาให้ติดตลาดออนไลน์ ไม่อยากสูญเงินเปล่าให้แพลตฟอร์มโฆษณาจากการลองผิดลองถูกเองแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

ลองให้ Cotactic Media บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 8 ปี คอยเป็นผู้ช่วยคุณเพิ่มความมั่นใจในทุกความท้าทายทางธุรกิจ เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดและสร้างยอดขายไปพร้อมกัน ช่วยคุณต่อสู้กับคู่แข่งในแบบฉบับของคุณ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้แบรนด์คุณเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ติดต่อขอรับคำปรึกษากลยุทธ์การตลาดออนไลน์กับ Cotactic ได้ก่อนตัดสินใจรับบริการ เพียงกรอกข้อมูลเพื่อให้เรารับทราบโจทย์ของคุณ คลิกที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 065 095 9544

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


โทร.065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic

Line: @cotactic

——————————————————————–

ขอบคุณข้อมูลจาก

บทความที่เกี่ยวข้อง

Personalized Marketing

Personalized Marketing ทำการตลาดแบบรู้ใจลูกค้า

What is brand character and How to a brand character

สร้างความโดดเด่นให้แบรนด์ด้วย Brand Character

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้