click
เจ้าของธุรกิจต้องอ่าน!
รวม 20 รายชื่อเอเจนซี่ สำหรับประกวดราคา
Table Of Contents
Table Of Contents
Table Of Contents

เมื่อไหร่ที่มนุษย์เราอยากทราบคำตอบในเรื่องที่สงสัย ก็มักจะเริ่มต้นตั้งคำถามและสืบหาความจริงเพื่อไม่ต้องรู้สึกติดค้างคาใจ เราต่างเพิ่มความเข้าใจเรื่องราวรอบตัวมากขึ้น ตั้งแต่การมาถึงของยุคอินเทอร์เน็ต พฤติกรรมความขี้สงสัยของมนุษย์ก็ได้รับการตอบสนองผ่านเครื่องมือดิจิทัลอย่าง Search Engine ที่กำลังพัฒนาไปเป็น Google SERP ซึ่ง Google เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายแรก ๆ ที่คิดค้นการเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้มหาศาลได้สำเร็จ

เนื้อหาไม่ได้ส่งตรงจากผู้เชี่ยวชาญและสถาบันต่าง ๆ ผ่านสื่อดั้งเดิมทางเดียวอีกต่อไป แต่ผู้คนทั่วโลกสามารถแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของตนเองผ่านการสื่อสารบอกเล่าในโลกออนไลน์ ให้เกิดการค้นพบคำตอบหลายแหล่งเรียนรู้อย่างง่ายดายในไม่กี่คลิก จนเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ยุคใหม่ไปแล้ว

ในบทความนี้ Cotactic จะช่วยเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดทบทวนความเข้าใจ ว่าทำไมธุรกิจคุณจึงควรจัดทำเว็บไซต์แบรนด์และวางกลยุทธ์ SEO  (Search Engine Optimization) เพื่อมุ่งหาเทคนิคการสื่อสารการตลาดผ่านคำค้นหาที่มีผู้สนใจเสิร์ชสูงผ่าน Google SERP ซึ่งมีกฎเกณฑ์การคัดเลือกเนื้อหาขึ้นแนะนำเว็บไซต์หน้าแรก Google

SERPs หรือ Google SERP คืออะไร?

SERPs ย่อมาจาก Search Engine Results Page หมายถึง ระบบการประมวลผลการค้นหาของ Google เพื่อคัดสรรเนื้อหาก่อนนำมาแสดงรายการการค้นหา ตามบริบทที่สอดคล้องกับคำสำคัญที่ผู้ค้นหาป้อน Keyword เข้าสู่ Web Platform ของ Google ซึ่งเปรียบเสมือนประตูเปิดไปสู่มิติอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ โดยมอบอำนาจการรับรู้และการตัดสินใจกลับมาสู่มือของผู้ใช้ทุกคนผ่านการ SERPs ค้นหาข้อมูลอย่างรอบด้าน และเชื่อมต่อผู้ใช้จำนวนมากในทุกวินาทีแบบไม่มีวันหยุด

เพียงนักสื่อสารการตลาดต้องคอยหมั่นสอดแทรกเนื้อหาเข้าไปอยู่ในผลการค้นหาคำสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์คุณให้ได้อย่างแนบเนียน เพื่อเชื้อเชิญลูกค้าหน้าใหม่คลิกเข้ามาทำความรู้จักแบรนด์ (Brand Awarness) ผ่านหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระเป็นประโยชน์ ตรงกับความสนใจของผู้ค้นหา จนสามารถสร้างความคุ้นเคยและความไว้วางใจต่อแบรนด์ เพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย (Conversion) ในอนาคตได้

Google SERP หรือ SERPs คืออะไร? ทำไมนักการตลาดออนไลน์ต้องรู้วิธีการทำงาน

ประเภทการแสดงผลของ Google SERP

SERPs จัดแสดงรายการเว็บไซต์เรียงลำดับตามความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดย Google จะวิเคราะห์ประมวลผลเนื้อหาภายในเว็บไซต์ โครงสร้างเว็บไซต์ ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ และจำนวน Backlinks ที่เชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาจัดอันดับการค้นหา

โดยประเภทของ SERPs ที่แสดงผลการค้นหาบน Google สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

1. Organic SERP Listing

แสดงรายการผลการค้นหาแบบออร์แกนิก (Organic SERPs Listing) หมายถึงรายชื่อเว็บไซต์ที่ปรากฏอยู่บนหน้า SERPs แต่ละรายการนั้นไม่ได้เสียค่าโฆษณาเพื่อขึ้นอันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของ Google นั่นเท่ากับว่าเว็บไซต์แบรนด์ได้รับคะแนนการประเมินผลจาก Google ว่าเนื้อหาหน้านั้นมีความเกี่ยวข้องและตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้มากที่สุด

ซึ่งนักการตลาดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ SEO (Search Engine Optimization) วิเคราะห์หาคำสื่อสารการตลาด เพื่อผลิตเนื้อหาที่สนองตอบความอยากรู้ของผู้ที่ค้นหาข้อมูลดังกล่าวผ่าน Google

2. Paid SERP Listing

แสดงรายการผลการค้นหาแบบเสียค่าใช้จ่าย (Paid SERPs Listing) หรือที่เรียกว่า Google Ads หมายถึง รายการเว็บไซต์ที่ผู้ลงโฆษณาจ่ายเงินประมูลราคากับคู่แข่งรายอื่น เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ของตนไปปรากฏอยู่บนพื้นที่ตอนต้นของหน้าแรก ก่อนการแสดงผลการค้นหาแบบออร์แกนิกโดย SERPs ตามปกติ

นักการตลาดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ SEM (Search Engine Marketing) เพื่อเจาะจงการแสดงผลให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของผู้ค้น ยิ่งสามารถเลือก Keyword ที่มีแนวโน้มว่าลูกค้าอยู่ระหว่างพิจารณาตัดสินใจซื้อ ก็จะมีโอกาสเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้มากขึ้น

Image5

ทั้ง 2 รูปแบบ SERPs จำเป็นต้องใช้เครื่องมือหลังบ้านเพื่อติดตามเทรนด์การค้นหาและหลักการวิเคราะห์วิจัยคำค้นหาผ่านเครื่องมือดิจิทัลของ Google ต่อไปนี้

  • Google Search Console
  • Google Keyword Planner
  • Google Analytics
  • Google Business Profile
  • Google PageSpeed Insights

หาก Search Intense แสดงถึงผู้สนใจค้นหา Keyword นั้นเป็นจำนวนมาก หรือสังเกตเห็นแนวโน้มที่จะเกิดความสนใจค้นหาเพิ่มขึ้นในอนาคต นักการตลาดก็ควรจะติดตามคำเหล่านั้น และวางแผนการผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวข้องตามแต่วัตถุประสงค์ทางการตลาด ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มโอกาสนำเสนอแบรนด์สู่สายตาลูกค้าจำนวนมาก หรือมุ่งเน้นเจาะ Potential Customer เพื่อคาดหวังไปถึงการสร้างยอดขายหรือ Lead Generation ในสเตปต่อไป

ฟีเจอร์ Google SERP การแสดงผลการค้นหาที่พบบ่อย

ฟีเจอร์ SERPs มีรูปแบบการแสดงผลหลากหลายประเภท นำเสนอในหน้าแรกการแสดงผลการค้นหาโดยคละรูปแบบกันมากกว่าหนึ่งรูปแบบ ซึ่งผ่านกระบวนการตีความจากคำค้นหา คาดการณ์ความตั้งใจ หรือวัตถุประสงค์ของผู้ค้นหา รวมถึงอาจจัดลำดับการแสดงผลตามความนิยมของผู้ใช้ส่วนใหญ่ในภูมิภาคนั้น ๆ หรือพฤติกรรมการค้นหาที่มักคลิกเนื้อหารูปแบบนั้นมากกว่ารูปแบบอื่น

1. Featured Snippets

หรือ ‘ผลการค้นหาคำอธิบาย’ มักสรุปข้อมูลเป็นพารากราฟสั้น ๆ ปรากฏอยู่ตอนบนของหน้า Google SERPs เหนือรายการแสดงผลการค้นหาตามปกติ โดยมากจะดึงข้อความท่อนหนึ่งออกมาอธิบายคร่าว ๆ จากเว็บไซต์อ้างอิง หากผู้ค้นหาอยากอ่านเต็ม ๆ ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านต่อได้ บ้างก็แสดงผลเป็นรายการคำตอบเป็นข้อ ๆ, ตาราง, วิดีโอ และ Knowledge Panel

ตัวอย่างเช่น
คำค้นหา: เมืองหลวงของประเทศไทย
กล่องคำตอบ: กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
พร้อมแนบ Link จากเว็บ Wikipedia สรุปเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร

2. People Also Ask

หรือ ‘คำถามที่เกี่ยวข้อง’ แสดงชุดคำถามเป็นไอเดียเพิ่มเติมด้านล่าง Featured Snippet ซึ่งเป็นคำถามที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักค้นหาเพิ่มเติมหลังจากถามคำถามหลัก ช่วยให้ผู้ใช้ไ้ด้รับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเขาสนใจอย่างเจาะลึกขึ้น

ตัวอย่างเช่น
คำค้นหา: จักรยาน
คำถามที่เกี่ยวข้อง:
 จักรยานราคาเท่าไหร่ และ วิธีการซ่อมจักรยานเบื้องต้น

3. Related Searches

หรือ ‘ผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง’ นำเสนอหัวข้อค้นหาเป็นชุดอื่น ๆ ปรากฏตัวเลือกต่อท้าย Featured Snippet ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาคำอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเขาสนใจในมุมมองที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น
คำค้นหา: จักรยาน
ผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง:
 ประเภทของจักรยาน, วิธีเลือกซื้อจักรยาน, และแบรนด์จักรยานยอดนิยม

4. Knowledge Panels

หรือ ‘แถบข้อมูลเชิงลึก’ มักปรากฏอยู่ด้านขวาของหน้า SERPs  แถบข้อมูลนี้ดึงฐานข้อมูลมาจาก Knowledge Graph นำมาแสดงข้อมูลโดยสรุปเกี่ยวกับประวัติย่อบุคคลสำคัญ ประวัติศาสตร์ของสถานที่และสิ่งของ ศิลปะและวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำความรู้จัก หรือเข้าใจเรื่องราวโดยสรุปในเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว

5. Web Stories

หรือ ‘สไลด์รวมเรื่องเด่น’ รูปแบบการแสดงผลนี้ปรากฏเฉพาะบนหน้าจอมือถือ นำเสนอข้อมูลคล้ายสไลด์ภาพประกอบเนื้อหาหรือวิดีโอสั้น ค่อนข้างดึงดูดความสนใจผู้ใช้มากกว่าปกติ สามารถเลื่อนดูอัลบั้มจากซ้ายไปขวาตามแนวนอน มักสรุปข่าวสารเหตุการณ์ประจำวันอัปเดตล่าสุด บอกโปรโมชันปัจจุบัน เกร็ดความรู้ หรือเนื้อหาฮาวทู DIY อย่างง่ายทำตามได้ทันที

6. Image Packs

หรือ ‘ผลการค้นหารูปภาพ’ นำเสนอรูปภาพที่ตรงกับคำค้นหา แสดงตัวอย่างบางส่วนจาก Google Image Search โดยปรากฏอยู่ตอนต้นของหน้า SERPs ช่วยให้ผู้ค้นหาเห็นภาพ ซึ่งอาจเลือกอ่านเนื้อหาเว็บไซต์นั้น ๆ ต่อจากภาพประกอบบทความที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้

7. Video Carousels

หรือ ‘ผลการค้นหาวิดีโอ’ ปรากฏเป็นลิสต์รายการแนวตั้ง คัดสรรวิดีโอขนาดยาวจาก Youtube ตามบริบทของคำค้นหา นำเสนออยู่ตอนกลางของหน้า SERPs ผู้ค้นหามักจะมีจุดประสงค์อยากเรียนรู้บทเรียนจากผู้เชี่ยวชาญ หรือรับชมรีวิวเปรียบเทียบเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยมากจะนำเสนอหน้าปกวิดีโอ และสามารถคลิกที่ลูกศรชี้ลงใต้คลิปเพื่อชมภาพ Key Moments สารบัญเนื้อหาแบ่งส่วนสำคัญ ๆ ตาม Timestamp

8. Local Packs

หรือ ‘ผลการค้นหาตำแหน่งที่ตั้งในพื้นที่’ ที่สอดคล้องกับคำค้นหา ปรากฏเป็นภาพแผนที่จาก Google Map บนแถบขวาของหน้า SERPs โดยแสดงหมุดที่ตั้งกระจายกันไปในพื้นที่ใกล้เคียงคำค้นหา เช่น ชื่อสถานที่ใกล้ฉัน (Near Me) จะแสดงพิกัดตามตำแหน่งที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ หรือแวดวงพื้นที่บริเวณที่ระบุชื่อย่าน เพื่อเตรียมตัววางแผนการเดินทางไปในบริเวณดังกล่าวล่วงหน้า ใต้แผนที่มักจะแสดงรายละเอียดสถานที่ ชื่อธุรกิจ เวลาทำการ ที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ วิธีการเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว และความหนาแน่นของการจราจร เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สำรวจปัจจัยต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจเดินทางไปเข้าใช้บริการ

9. Shopping Results

หรือ ‘ผลการค้นหาสินค้า’ มักปรากฏการแสดงผลอยู่ส่วนบนหรือกลางหน้า Google SERP เพื่อเชื่อมโลกธุรกิจ e-commerce หรือ e-marketplace มาสู่ชีวิตประจำวันของผู้คน โดยรวบรวมมาจากหลายแหล่งซื้อขายโดยไม่ได้รับเงินค่าโฆษณา หากมีใครเริ่มแสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทใด Google ก็จะเสนอช่องทางให้เข้าไปเลือกซื้อและเปรียบเทียบราคาด้วยตนเอง

10. Reviews

หรือ ‘ผลการให้คะแนนจากผู้ใช้’ มักแสดงผลลัพธ์เป็นรูปดาวและผลคะแนนเฉลี่ยใต้ผลิตภัณฑ์ สถานที่ หนังสือ และภาพยนตร์ที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อเป็นหนึ่งในข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ค้นหา

ข้อดีเมื่อเว็บไซต์ติดหน้าแรก SERPs หรือ Google SERP

ข้อดีเมื่อเว็บไซต์ติดหน้าแรก Google SERP

หาก SERPs แสดงผลเว็บไซต์แบรนด์คุณอยู่ติดหน้าแรก Google จะเพิ่มโอกาสให้แบรนด์คุณเป็นที่รู้จัก และยังมีประโยชน์ต่อธุรกิจอีกมากมาย

1. เพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์

Google SERP จะช่วยเพิ่มโอกาสนำเสนอสื่อในมือของคุณเอง โดยเฉพาะถ้าธุรกิจของคุณมีตัวชี้วัดเป็นจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ ก็จำเป็นต้องใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่าคุณสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงความสนใจ เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณจึงสร้างแรงดึงดูดและมีอิทธิพลทางความคิดของผู้อ่านหรือผู้ชมได้ เป็นผู้นำการขับเคลื่อนสังคมในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ทำให้ผู้คนให้เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ และจดจำแบรนด์คุณได้ผ่านความประทับใจในเนื้อหา ซึ่งอาจนำพาลูกค้าหน้าใหม่หรือพันธมิตรที่ดีมาหาคุณเพิ่มขึ้นในอนาคต

2. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ผู้ค้นหาอาจสนใจผลิตภัณฑ์และบริการของคุณอยู่ก่อนแล้ว การได้ทราบข้อมูลจากเว็บไซต์แบรนด์โดยตรง และสามารถค้นพบได้ง่ายที่หน้าแรกของ Google SERP ก็ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้ใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์คุณได้มากขึ้น

3. ลดต้นทุนการทำการตลาด

การวางกลยุทธ์สื่อสารการตลาดออนไลน์ด้วย SEO ทำให้คุณไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าโฆษณาให้ Google และยังเป็นการสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน คุ้มค่าแก่การลงทุน เห็นผลระยะยาว หากเว็บไซต์แบรนด์ติดหน้าแรกของ SERPs อย่างต่อเนื่อง ก็เพียงต้องหมั่นตรวจสอบเพื่อรักษาอันดับให้ยาวนาน โดยปรับปรุงเนื้อหาใหม่ เพิ่มความลึกของเนื้อหา ไม่ให้คู่แข่งเอาชนะคุณได้โดยง่าย

4. สร้างยอดขาย

เมื่อมีผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น ย่อมเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณผ่านเว็บ e-commerce หรือคลิกต่อไปยังช่องทางออนไลน์ที่พวกเขาสะดวก ติดต่อสอบถาม หรือขอรับคำปรึกษา เพื่อส่งต่อให้นักขายของคุณปิดการขาย

5. ดึงข้อมูลเชิงลึกมาปรับปรุงการสื่อสารการตลาด

นักการตลาดสามารถดึงข้อมูลน่าสนใจผ่านเครื่องมือของ Google ต่าง ๆ ที่เราแนะนำไปข้างต้นได้ เพื่อติดตามอันดับเว็บไซต์ ติดตามคำค้นยอดนิยมในแวดวง และวิเคราะห์ทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าของคุณ และเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีแนวโน้มให้ความสนใจแบรนด์ของคุณ สามารถนำข้อมูลมาใช้พิจารณาปรับปรุงตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์แบรนด์ และการสื่อสารการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้กลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง

หลักการวางกลยุทธ์ SEO ดันเว็บไซต์แบรนด์ติดหน้าแรก Google SERP

SERPs เกี่ยวข้องกับการทำ SEO โดยตรง หากนักการตลาดเข้าใจเกณฑ์การคัดสรรการแสดงผลการค้นหา เพื่อดันเนื้อหาเว็บไซต์แบรนด์ให้ติดอันดับหน้าแรกของ Google จำเป็นต้องวางกลยุทธ์โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้

  • Marketing Goals ตั้งเป้าสื่อสารแบรนด์ได้ชัดเจน เข้าใจวัตถุประสงค์ของการสื่อสารการตลาด เพื่อกำหนดตัวชี้วัดสำหรับติดตามผลลัพธ์ SEO ให้บรรลุจุดมุ่งหมายของแบรนด์ตามระยะทางการเติบโตของธุรกิจ
  • Keyword Research and Analysis ค้นคว้าและวิเคราะห์คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ตรงตาม Customer Insight และความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เลือกลงทุนในคำที่มี Search Intense สูง หากสามารถระบุจุดมุ่งหมายของประเภทคำค้นหา แยกตามสเตจของ Customer Journey ได้ จะยิ่งช่วยให้วางกลยุทธ์เนื้อหา Content Marketing ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น
    • คำค้นหาประเภทสินค้า ผู้ค้นหายังไม่ได้ปักใจเลือกแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง พวกเขาอาจต้องการอ่านเนื้อหาเปรียบเทียบคุณลักษณะเด่น ข้อแตกต่าง และทราบราคาประกอบการตัดสินใจ
    • คำค้นหาข้อดี-ข้อเสีย โดยระบุชื่อรุ่นผลิตภัณฑ์และชื่อแบรนด์ มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นลูกค้าของคุณ แสดงว่าพวกเขากำลังต้องการทราบ Funtional Benefit ขั้นตอนการใช้งาน ผลลัพธ์ บริการหลังการขายโดยละเอียดเพื่อตัดสินใจซื้อ แบรนด์อาจนำเสนอเนื้อหาแชร์ประสบการณ์ ผลวิจัย หรือผลลัพธ์จากรีวิวของลูกค้าผู้ใช้จริง มาสนับสนุนข้อดี และเสริมแรงจูงใจด้วยแคมเปญ Giveaway ส่งเสริมการขาย ที่ทำให้ลูกค้าเพิ่มความอยากได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • Content Strategy กำหนดทิศทางเนื้อหา จัดหมวดหมู่คำค้นให้อยู่ภายใต้แต่ละ Content Pillar ยิ่งได้ Long-tail Keyword ก็ยิ่งดี ทำให้สามารถลงลึกเนื้อหาเจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ลึก ถึงแม้จะเล่าหลักการเรื่องเดียวกัน แต่รายละเอียดเนื้อหาจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจ เช่น
    • แบ่งย่อยเนื้อหาตาม Pain Point ปัญหาของลูกค้า
    • แบ่งย่อยเนื้อหาตามบริบทชีวิตที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
    • แบ่งย่อยเนื้อหาตามกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อเลือกใช้คำศัพท์ที่มีความจำเพาะเจาะจง ตรงสาขาวิชาชีพของผู้เชี่ยวชาญด้านนั้น ๆ ที่มีแนวโน้มจะเป็น Potential Customer เพื่อแสดงตนว่าบริการของคุณมีความเข้าใจธุรกิจของลูกค้าดีพอ และสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดของลูกค้าได้
  • Content Quality ใส่ใจในคุณภาพของเนื้อหาเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ผู้คนสัมผัสได้เสมอว่าคุณมีจุดมุ่งหมายอะไรซ่อนอยู่ มีความจริงใจแค่ไหนที่จะช่วยเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ลูกค้า ซึ่งยิ่งลูกค้าของคุณรู้ลึก เข้าใจในเชิงเทคนิคดีขึ้น ลูกค้าของคุณเข้าใจแน่ชัดว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ บทสนทนาระหว่างคุณกับลูกค้าจะสนุกและชัดเจน ทีมของคุณก็จะสามารถนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่ตรงใจลูกค้า และสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนเข้ารับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • Backlinks แลกลิงก์กับเว็บไซต์ของพันธมิตรหรือสื่อออนไลน์คุณภาพ เพื่อยืนยันว่าคุณมีตัวตนจริงและเป็นที่รู้จักในวงการนั้น ๆ อย่างกว้างขวาง
  • SEO Audits ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ลดเวลาการโหลด ช่วยให้ลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์ได้รวดเร็วทันใจ สามารถแสดงผลได้ดีในทุกอุปกรณ์ทั้ง Desktop, Tablet, และ Mobile-friendly

หลังจากนักการตลาดกำหนดกลยุทธ์ SEO และวางแผนสร้างสรรค์เนื้อหาแล้ว ยังสามารถจัดทำ Social Media Marketing Strategy และ Email Marketing Strategy โดยใช้เนื้อหาเดิมนี้ไปต่อยอดได้อีกหลายต่อ แต่อย่าลืมตั้งวัตถุประสงค์ใหม่ และใช้คนละตัวชี้วัดกัน

Cotactic แนะนำให้คุณกระจายเนื้อหาเว็บไซต์ออกโปรโมทบนโลกโซเชียลร่วมด้วย เพื่อช่วยเพิ่ม Traffic กลับมายังหน้าเว็บไซต์ของคุณทางอ้อม และอาจเพิ่มโอกาสที่ผู้คนแชร์เนื้อหาไปยัง Social Media ของตน หรือนำไปให้เครดิตอ้างอิงต่อบน Blog หรือเว็บไซต์ของพวกเขา ขยายการรับรู้แบรนด์ และสร้างแรงดึงดูดลูกค้าทั้งหน้าใหม่และเก่าได้รับทราบความเคลื่อนไหวของแบรนด์ไปพร้อม ๆ กันด้วย

สนใจปรึกษา Cotactic

Digital Marketing Agency ประสบการณ์กว่า 8 ปี ที่พร้อมจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมวางแผนงานการตลาดดิจิทัลให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณ ปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ของคุณอย่างเข้าใจวัตถุประสงค์เบื้องลึก ช่วยคุณบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจขึ้นไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลและกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ใช่ พร้อมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะคอยสนับสนุนงานสื่อสารการตลาดออนไลน์ ให้คุณประหยัดเวลาและทรัพยากรภายในของคุณ เพิ่มผลลัพธ์ที่คุ้มค่าต่อทุกการลงทุนในโฆษณาออนไลน์

ติดต่อขอรับคำปรึกษาฟรีจาก COTACTIC ได้ก่อนตัดสินใจรับบริการ เพียงกรอกข้อมูลเพื่อให้เรารู้โจทย์ที่ท้าทายของคุณในเบื้องต้น คลิกที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ให้ COTACTIC ดูแลธุรกิจของคุณ

เหมือนทีมการตลาดส่วนตัว


Phone: 065-095-9544

Inbox: m.me/cotactic

Line: @cotactic

——————————————————————–

Sources:

บทความที่เกี่ยวข้อง

รวม 200 รายชื่อ Digital Marketing Agency ในไทย ปี 2026

รวม 200 รายชื่อ Digital Marketing Agency ในไทย ปี 2026

Viral Marketing ให้คอนเทนต์ไวรัลแชร์ต่อแบบไม่หยุด

Viral Marketing คืออะไร? พร้อมวิธีคิดคอนเทนต์ให้คนแชร์ต่อแบบไม่หยุด

ต้องการหาทีม DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการหาทีม
DIGITAL MARKETING
เพื่อชิงการเป็นเจ้าตลาด อยู่หรือไม่ ?

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้

ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้ ต้องการทีมช่วยทำ Digital Marketing และสร้าง Real-Time Dashboard สำหรับแคมเปญของคุณหรือไม่? เริ่มเลยวันนี้